เที่ยว ทำบุญ วัดป่าสว่างบุญ เจดีย์ 500 ยอด จ.สระบุรี

By | June 22, 2014


https://youtu.be/hKbFaR4YpKc

เที่ยว ทำบุญ วัดป่าสว่างบุญ เจดีย์ 500 ยอด จ.สระบุรี แรงบันดาลใจที่ต้องเดินทางมาที่วัดแห่งนี้ ก็คือได้เห็นรูปภาพจากหลายๆคนที่เผยแพร่ทางอินเดตอร์เน็ตมากมาย เกี่ยวกับ วัดเจดีย์ 500 ยอด ซึ่งเป็นการสร้างเจดีย์ ที่แปลกตามากๆ จึงได้ตั้งใจว่าจะต้องเดินทางไปยังสถานที่จริงให้ได้

วัดป่าสว่างบุญ หรือบางคนอาจจะเรียกว่า วัดเจดีย์ 500 ยอด ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 7 บ้านคลองไผ่ ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 โดย พระครูวิสุทธิสุตวัฒน์ (พระอาจารย์หลวงพ่อสมชาย ปุญญมโน) บนเนื้อที่กว่า 400 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินของโยมพ่อของหลวงพ่อสมชายเอง ทางด้านในวัดเป็นสถานที่ที่สงบเงียบเหมาะกับการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมาก เนื่องจากพื้นที่ทางด้านหลังติดกับเชิงเขามีอากาศที่เย็นสบายมีต้นไม้มากมายในพื้นที่ ดูแล้วสบายตาและสบายอย่างยิ่ง และจะมีประชาชนเข้าไปปฏิบัติธรรมกันเป็นจำนวนมากในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ในวันที่ผมเดินทางมาที่วัดตรงกับวันเสาร์ ก็ได้เห็นพุทธศาสนิกชนจำนวนหนึ่ง ได้มาปฏิบัติธรรม ได้ยินเสียงสวดมนต์ทั่วบริเวณ

หลวงพ่อสมชาย ปุญญมโน

หลวงพ่อสมชาย ปุญญมโน

แผนที่ วัดป่าสว่างบุญ จาก www.taklong.com

แผนที่ วัดป่าสว่างบุญ จาก www.taklong.com

จุดเด่นสำคัญที่วัดก็คือ เจดีย์ 500 ยอด หรือมีชื่อเต็มว่า “พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ” มีเจดีย์องค์ประธานมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เมตร ส่วนยอดถอดแบบมาจากเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย มีทั้งหมด 9 ชั้น มีบริวาร 500 องค์   มีเจดีย์ประธานองค์ใหญ่อยู่ตรงกลาง และมีองค์เจดีย์รายองค์เล็กตั้งลดหลั่นกันลงมา อยู่รอบๆทิศ โดยเป็นทรงลังกา สมัยสุโขทัยโดยมีซุ้มประตูทางขึ้นทั้งสี่มุมทำเป็นบันไดขึ้นไปยังองค์เจดีย์ที่ตั้งอยู่ ทางด้านบน ตัวองค์เจดีย์เป็นปูนปั้นรูปแบบ สวยงามประณีตเคลือบสีทองทั้งหมดทุกองค์ผนังด้านในของเจดีย์องค์ประธานประดับ กระจกทับทิม โดยรอบสวยงาม มีภาพ พระธาตุเจดีย์สำคัญๆ ทั่วประเทศไทยประดับไว้ด้านบน ภายในองค์เจดีย์ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศเนปาล อินเดีย,ศรีลังกา และสาธารนุชน มาร่วมบรรจุในพระมหาเจดีย์ครบทั้ง 500 ยอด รวมทั้งได้นำพระบรมสารีริกธาตุ และวัตถุมงคล ของมีค่ามาสักการบูชาจำนวนมากบรรจุอยู่ในพระเจดีย์องค์ประธาน

ทางเข้าวัดจะมีร่มไม้จากต้นไม้น้อยใหญ่ตลอดทาง

ทางเข้าวัดจะมีร่มไม้จากต้นไม้น้อยใหญ่ตลอดทาง

ด้านบนเสาทางเข้าวัดจะมีประติมากรรมแบบอินเดีย

ด้านบนเสาทางเข้าวัดจะมีประติมากรรมแบบอินเดีย

องค์ประกอบของเจดีย์

องค์ประกอบของเจดีย์

องค์ประกอบเจดีย์ทรงระฆัง
ที่มา : ชุมศรี ศิวะศริยานนท์. 2542. สถาปัตยกรรม
ไทยพื้นฐาน. พิมพ์ครั้งที่ 12 กรุงเทพมหานคร :
พิมพ์ที่ ส.เอเซียเพรส. หน้า 149

เจดีย์บริวาร

เจดีย์บริวาร

องค์เจดีย์จะเป็นทรงลังกา องค์ประกอบขององค์เจดีย์ บัลลังก์ จะเป็นฐานตัดทรงสี่เหลี่ยมต่ำจากปล้องไฉนลงมา และจะลงมาในส่วนขององค์ระฆัง มีลักษณะเหมือนระฆังคว่ำ  และลงมาจะเป็นส่วนของบัวปากระฆัง เป็นรูปกลีบบัว และในส่วนฐานเรียกว่า ฐานปัทม์หรือว่าฐานบัว

ภายในองค์เจดีย์ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศเนปาล อินเดีย,ศรีลังกา และสาธารนุชน มาร่วมบรรจุในพระมหาเจดีย์ครบทั้ง 500 ยอด รวมทั้งได้นำพระบรมสารีริกธาตุ และวัตถุมงคล ของมีค่ามาสักการบูชาจำนวนมากบรรจุอยู่ในพระเจดีย์องค์ประธาน

 

พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ

พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ

องค์พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิ์สัตว์สว่างบุญ

องค์พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิ์สัตว์สว่างบุญ

ทางขึ้นองค์พระเจดีย์

ทางขึ้นองค์พระเจดีย์

ด้านบนเจดีย์ เมื่อมองลงมา

ด้านบนเจดีย์ เมื่อมองลงมา

ด้านในเจดีย์องค์ประธาน

ด้านในเจดีย์องค์ประธาน

ด้านในเจดีย์องค์ประธาน ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียร จากวัดเนปาลลุมพินี ประเทศเนปาล เจ้าอาวาสเป็นตระกูลศากยะรุ่นสุดท้ายมอบให้มาบรรจุ สวยงามประดับกระจกทับทิมโดยรอบสวยงามมากครับ

พื้นที่โดยรอบพระเจดีย์ จะมีประติมากรรมแบบอินเดียอยู่โดยรอบ

รอบพื้นที่ของพระเจดีย์ 500 ยอด

รอบพื้นที่ของพระเจดีย์ 500 ยอด มีรูปปั้นเทพคอยปกปักษ์รักษาเจดีย์

ประวัติการสร้างพระมหาเจดีย์
หลวงพ่อสมชาย ได้กล่าวถึง การก่อสร้างพระมหาเจดีย์ 500 ยอด เที่ยงคืนของวันหนึ่ง หลวงพ่อได้นำดอกไม้ธูปเทียนสักการบูชา ไปอธิษฐานจิตขอสร้างพระมหาเจดีย์ 500 ยอด หากสำเร็จหรือไม่สำเร็จขอให้เห็นนิมิตหมายที่ดีในคืนนี้ แล้วหลวงพ่อเริ่ม พิธีสวดมนต์ ทันใดนั้น มดง่ามได้ขึ้นมากัดไต่ทั่วร่าง หลวงพ่อจึงมีความคิดว่า มดก็คือมาร มารก็คือมด หากสู้มดได้ก็สู้มารได้ สู้มดไม่ได้ก็สู้มารไม่ได้ หมายถึงสร้างพระมหาเจดีย์ไม่ได้ จึงตัดสินใจยอมอดทนให้มดกัด นั่งสวดมนต์ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จึงสวดเสร็จ แล้วแผ่เมตตามดง่ามก็หายไป คืนนั้น หลวงพ่อนิมิตว่าได้แบกไม้ไผ่ลำยาวถึง 50 เมตร มีลูกตุ้มถ่วง 2 ข้าง มีคนอื่น มายก ก็ยกไม่ไหว หลวงพ่อจึงไปแบกเอง ปรากฏว่าแบกไหว แล้วใส่บ่าแบกขึ้นบนภูเขา พร้อมกันนั้นมีเสียงดังจากอากาศ พูดว่า สร้างพระเจดีย์ มีอานิสงส์มากมาย ขออนุโมทนาบุญด้วย จะได้เป็นสมเด็จอยู่นอกเมือง ขอให้ชื่อ พระมหาเจดีย์ 500 ยอด ว่า “พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ” โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2548 ในแต่ละเดือนที่มีการก่อสร้าง สาธุชนจำนวนหลายพันคนได้มาช่วยก่อสร้างด้วย นับเป็นการก่อสร้างที่รวมจิตใจอันบริสุทธิ์ เป็นพลังอันยิ่งใหญ่มหาศาล ที่ไม่ สามารถประมาณค่าได้ โดยใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์

บริเวณด้านหนึ่งของเจดีย์ จะเป็นพื้นที่สำหรับก่อสร้างพระอุโบสถ

บริเวณด้านหนึ่งของเจดีย์ จะเป็นพื้นที่สำหรับก่อสร้างพระอุโบสถ

บริเวณนี้อยู่ใกล้เคียงกับเจดีย์ 500 ยอด เป็นสถานที่สำหรับการก่อสร้างพระอุโบสถ ด้านซ้ายจะมีหอไตรเก่าอยู่ เป็นทรงเรือนไทยสวยงามครับ

พระพุทธรูปประทับยืนอยู่ ประดิษฐานอยู่ใกล้เคียงกับซุ้มประตูวัด

พระพุทธรูปประทับยืนศิลปะแบบอินเดีย ประดิษฐานอยู่ใกล้เคียงกับซุ้มประตูวัด

ซุ้มประตูวัด

ซุ้มประตูวัด

เมื่อเข้าไปผ่านซุ้มประตูวัดจะเห็นพื้นที่กว้างใหญ่มาก จะเป็นส่วนของศาลาปฏิบัติธรรม และศาลาพระพิฆเนศ

พระพุทธสีหไสยาสน์ ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกกำลังก่อสร้าง

พระพุทธสีหไสยาสน์ ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกกำลังก่อสร้าง

พระพุทธสีหไสยาสน์  ซึ่งจะมีขนาดความยาวถึง 148 เมตร ยาวตลอดแนวเขา และใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง หลังคาสีเขียวจะเป็นศาลาปฏิบัติธรรม และหลังคาสีแดงจะเป็นศาลาพระพิฆเนศ

ศาลาพระพิฆเนศ

ศาลาพระพิฆเนศ

ศาลาพระพิฆเนศจะมีความพิเศษมาก ซึ่งผมก็เพิ่งเคยเห็นศิลปะการแกะสลักพระพิฆเนศจากไม้ที่สวยงามแบบนี้

พระพิฆเนศ สลักจากไม้

พระพิฆเนศ สลักจากไม้

พระพิฆเนศสลักไม้

พระพิฆเนศสลักไม้

พระพิฆเนศสลักไม้

พระพิฆเนศสลักไม้

รากไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ที่ถูกเผา

รากไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ที่ถูกเผา

ด้านในศาลาพระพิฆเนศ จะมีไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ซึ่งถูกเผา และที่สังเกตจะเห็นว่ามีชุดไทยหลายชุดแขวนอยู่ แสดงว่าต้องมีประวัติความศักดิ์สิทธิ์แน่ๆเลยครับ

จุดเมืองมองออกจากศาลาพระพิฆเนศจะเป็นศาลาปฏิบัติธรรมขนาดใหญ่

จุดเมืองมองออกจากศาลาพระพิฆเนศจะเป็นศาลาปฏิบัติธรรมขนาดใหญ่

ด้านในศาลาปฏิบัติธรรมจะมีพระพุทธรูปต่างๆมากมาย รวมถึงพระสงฆ์และเทพต่างๆมากมาย

พระนิลกาฬในศาลาปฏิบัติธรรม

พระนิลกาฬในศาลาปฏิบัติธรรม

พระนิลกาฬ เป็นพระพุทธรูปประธานในศาลาปฏิบัติธรรม โดยจะมีองค์สีดำตลอดทั้งองค์ มีเพียงส่วนพระพักตร์ และสังฆาฏิ เป็นสีทอง ประชาชนจะนิยมมากราบไหว้บูชาสักการะขอพรเพื่อให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ เช่นอาการปวดแข้งปวดขา ต่างๆ ซึ่งบริเวณด้านหน้าองค์พระจะมีคำสวดมนต์อธิษฐานให้ประชาชนได้สวดอธิษฐาน

พระพุทธรูปปางปรินิพพาน

พระพุทธรูปปางปรินิพพาน

พระพุทธรูปหินปางปรินิพพาน เป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากหินก้อนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 10.59 เมตร

 

สมเด็จนางพญา สมัยสุโขทัย อายุกว่า 700 ปี

สมเด็จนางพญา สมัยสุโขทัย อายุกว่า 700 ปี

สมเด็จนางพญา (สุโขทัย) พระพุทธรูปเก่าแก่อายุ 700 ปี ซึ่งมีความสวยงามและสมบูรณ์มาก

รูปปั้นพระเจ้าอโศกมหาราช

รูปปั้นพระเจ้าอโศกมหาราช

พระเจ้าอโศกมหาราช ได้ทำนุบำรุงศาสนาให้รุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน

หลวงปู่เทพโลกอุดร

หลวงปู่เทพโลกอุดร

พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จำลอง 5 องค์

พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จำลอง 5 องค์

พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จำลอง 5 องค์ ได้แก่

1. หลวงพ่อวัดบ้านแหลม

2. หลวงพ่อพุทธโสธร วัดโสธรวราราม

3. หลวงพ่อวัดไร่ขิง

4. หลวงพ่อทอง วัดตะเครา

5. หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน

พระสงฆ์กำลังสวดมนต์

พระสงฆ์กำลังสวดมนต์

บริเวณพื้นที่วัด

บริเวณพื้นที่วัด

พื้นที่อื่นๆรอบบริเวณวัด

พื้นที่อื่นๆรอบบริเวณวัด

 

พระพุทธรูปบามิยัน จำลอง

พระพุทธรูปบามิยัน จำลอง

พระพุทธรูปบามิยัน เคยประดิษฐานที่หุบเขาบามิยัน ประเทศอัฟกานิสถานและสลักขึ้นเมื่อราว 1,500 ปี มาแล้ว ในศตวรรษที่ 6 ต่อมาเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2544 รัฐบาลตาลีบัน ได้ใช้ระเบิดถล่มจนสูญสิ้น ทั้งๆที่อีกไม่กี่เดือนจะถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก ทำให้เกิดความโศกเศร้าของชาวพุทธทั่วโลก

ด้วยเหตุนี้หลวงพ่อสมชาย ปุญญมโน เจ้าอาวาสวัดป่าสว่างบุญ จึงตั้งใจที่จะสร้างพระพุทธรูปในรูปแบบบามิยันนี้อีกครั้ง โดยมีความสูง 80 เมตร และกำหนดพิธีวางศิลาฤกษ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2556 ซึ่งมีสมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทราวาส เป็นองค์ประธาน โดยพระธรรมวราภรณ์เป็นองค์แทนวางศิลาฤกษ์ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ 1,000 รูป ร่วมพิธีอธิษฐานจิต

พระพุทธรูปแห่งบามิยัน ก่อนถูกทำลาย

พระพุทธรูปแห่งบามิยัน ก่อนถูกทำลาย

ประวัติพระพุทธรูปแห่งบามิยัน

หุบเขาบามิยัน ในอดีตดินแดนแถบนี้เรียกว่า แคว้นคันธาระหรือคันธารราฐ (Gandhara) เป็นเมืองตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหม (Silk Road) จุดทางแยกสู่จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และยุโรป เป็นสถานที่ที่อารยธรรมจากตะวันออกเดินทางมาพบกับอารยธรรมจากตะวันตก กล่าวคือ อารยธรรมจากอินเดียเดินทางมาพบกับอารยธรรมจากอิหร่าน กรีซ และจีน มีการค้นพบศาสนสถานทางศาสนาพุทธและศาสนาฮินดูเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 แห่ง เป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางทางพุทธศาสนาในบริเวณนั้นมาก่อนที่จะมีการมาของศาสนาอิสลามในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13 ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในบริเวณนั้น คือ พระพุทธรูปองค์ใหญ่จำนวน 3 องค์ ซึ่งแกะสลักอยู่บนหน้าผาหินสูงชันกว่า 2,500 เมตร มีอายุกว่า 1,500 ปี โดยพระพุทธรูปปางประทับยืน 2 องค์สำคัญที่ถูกระเบิดทำลายโดยรัฐบาลตาลีบันนั้น คือ องค์ที่สร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 1050 (ค.ศ. 507) สูง 38 เมตร มีพระนามว่า พระศากยมุนีพุทธเจ้า (Sakyamuni Buddha) และองค์ที่สร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 1097 (ค.ศ. 554) สูง 55 เมตร มีพระนามว่า พระไวโรจนพุทธเจ้า (Vairocana Buddha) ซึ่งองค์นี้ก่อนถูกระเบิดทำลายนับเป็น “พระพุทธรูปประทับยืนหินแกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

นอกจากนี้แล้ว กลุ่มพระพุทธรูปในหุบเขาบามิยันแห่งนี้ ยังนับเป็นศิลปะทางพุทธศาสนาแห่งแรกในโลก ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากอารยธรรมกรีกโบราณที่มักมีการปั้นรูปของเทพเจ้าองค์ต่างๆ นั่นเอง กลุ่มพระพุทธรูปทั้งหมดนี้สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นโดยพระเถระและกษัตริย์ในราชวงศ์คุปตะแห่งอินเดีย ส่วนบริเวณตามฝาถ้ำต่างๆ ที่ได้ขุดเจาะกันไว้นั้น มีการวาดภาพซึ่งบ่งบอกถึงการผสมผสานของศิลปะคุปตะ ศิลปะคันธาระ (ศิลปะแกรนดารา) และศิลปะเปอร์เซียได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ กษัตริย์ในราชวงศ์คุปตะแห่งอินเดียได้รับคำแนะนำจากพระเถระว่า ถ้าทำการก่อสร้างพระพุทธรูปแห่งบามิยันจะนำความรุ่งเรืองมาสู่อาณาจักร

ครั้นเมื่อพระถังซำจั๋ง (หลวงจีนเฮียงจัง) ได้เดินทางไปยังชมพูทวีปในปี พ.ศ. 1173 (ค.ศ. 650) ท่านได้เล่าถึงหุบเขาบามิยันไว้ว่า “มีพระพุทธรูปเหลืองอร่ามไปด้วยทองคำ และมีพระสงฆ์กว่า 1,000 รูปจำวัดอยู่ ได้ยินเสียงสวดมนต์ของพระสงฆ์ก้องกังวานไปทั่วทั้งหุบเขา

สำหรับผู้ค้นพบพระพุทธรูปประทับยืนหินแกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งบามิยัน (Buddhas of Bamiyan) คือ ศาสตราจารย์เซมาร์ยาไล ทาร์ซี นักโบราณคดีเอกของโลก มหาวิทยาลัยสตาร์สบูรก์ ประเทศฝรั่งเศส

ที่นี่มีอารามมากกว่า 10 แห่ง มีพระสงฆ์หลายพันรูป ล้วนเป็นฝ่ายโลกุตตรยาน (โลกุตตรวาทิน) สังกัดนิกายหินยาน (เถรวาท) พระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ คือ พระอารยทูต (Aryaduta) และพระอารยเสน (Aryasena) มีความรู้ในพระธรรมวินัยเป็นอย่างดี ที่เนินเขาของนครหลวงมีพระพุทธรูปปางประทับยืนซึ่งจำหลักด้วยศิลา สูง 150 เฉี๊ยะ (มาตราวัดจีน) ถัดจากนี้ไปเป็นอาราม และพระปฏิมาจำหลักด้วนแก้วกาจ สูง 100 เฉี๊ยะ อารามแห่งนี้มีพระพุทธไสยาสน์ความยาว 1,000 เฉี๊ยะ บรรดาพระพุทธรูปเหล่านี้ล้วนเป็นฝีมือที่ปราณีต สวยงาม นอกจากนี้แล้วยังมีอารามประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว พระทันตธาตุของพระปัจเจกพุทธเจ้าในอดีต

ในระหว่างช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,500 ปี ของพระพุทธรูปแห่งนี้ ได้พบเจอกับสงครามและการจู่โจมมาโดยตลอด ถึงแม้จะมีชนพื้นเมืองชาวมุสลิมกลุ่มหนึ่งคือชาวฮาซารัส ได้ปกป้องศาสนสถานแห่งนี้มาก็ตาม เริ่มต้นด้วยการเสื่อมถอยของศาสนาพุทธในบริเวณนี้และการมาของศาสนาอิสลาม การทำลายและการบุกรุกโจรกรรมวัตถุต่างๆ จากถ้ำภายในตั้งแต่ 900 ปีที่แล้ว จนมาถึงปี พ.ศ. 2522 (ค.ศ. 1979) เมื่อสหภาพโซเวียตนำทหารเข้าบุกเข้าโจมตีอัฟกานิสถาน ตามมาด้วยสงครามอัฟกัน และสิ้นสุดลงด้วยการระเบิดของรัฐบาลตาลีบันในปี พ.ศ. 2544 จากการสำรวจได้มีรายงานว่า กว่า 80% ของภาพตามฝาผนังถ้ำได้ถูกทำลายลงไปแล้ว

คำให้การของ นายชีค มีร์ซา ฮุสเซน มือระเบิดทำลายพระพุทธรูปบามิยันตามคำสั่งของรัฐบาลตาลีบัน กล่าวว่าถ้าเขาไม่ระเบิดพระพุทธรูปรัฐบาลตาลีบันจะฆ่าเขาทิ้ง เพราะก่อนหน้านั้นรัฐบาลตาลีบันฆ่าลูกชายสองคนของเขาเหมือนสุนัขข้างถนน เขาจึงต้องทำเพื่อการอยู่รอด เขามีความเชื่อว่าด้านหน้าของพระพุทธรูปที่ถูกทำลายลง มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่มีพระพักตร์อมยิ้มฝังอยู่ใต้ดิน ซึ่งเป็นความเชื่อที่ได้ยินมาจากบรรพบุรุษสืบขานกันต่อหลายชั่วอายุคน สอดคล้องกับคำบอกกล่าวของพระถังซัมจั๋ง ที่ได้เห็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์นี้เช่นกัน ซึ่งนักโบราณคดีได้ขุดพบส่วนพระบาทของพระนอนเมื่อปี ค.ศ. 2005

ที่มา : www.palungdham.com

วีดีโอสถานที่ภายในวัดป่าสว่างบุญ


https://youtu.be/hKbFaR4YpKc


https://youtu.be/PLTe9A2EIqM


https://youtu.be/WPiRJH99QOA


https://youtu.be/35UtrnJciX0>


https://youtu.be/f1PUgU-aln0


https://youtu.be/_720S-KdK0o


https://youtu.be/um6DCw1p1kI

จุดเด่นของวัดป่าสว่างบุญ
จะเป็นเจดีย์ทองคำ 500 ยอดและสิ่งปลูกสร้างมากมาย รวมถึงพระพุทธรูปและเทพต่างๆมากมาย และในอนาคต ผมคิดว่าจะมีสิ่งปลูกสร้างเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีเนื้อที่ค่อนข้างกว้างถึง  400 ไร่

ประกอบกับบนพื้นที่ ยังมีลักษณะของธรรมชาติที่สมบูรณ์ดี มีต้นไม้ใหญ่น้อยปกคลุมและมีหุบเขา ทำให้พื้นที่มีความร่มรื่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและท่องเที่ยวมาก และสถานที่ก็ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพเท่าไรนัก ผมตั้งใจว่าจะเดินทางไปอีกแน่นอน ขอเชิญเดินทางมาท่องเที่ยวกันเยอะๆครับ

 >>> เชิญ ร่วมทำบุญ สร้างพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่วัดป่าสว่างบุญ <<<

พระมหาเจดีย์เทพนิธากร วัดป่าสว่างบุญ

พระมหาเจดีย์เทพนิธากร วัดป่าสว่างบุญ

พระมหาเจดีย์เทพนิธากร วัดป่าสว่างบุญ  <<< ชมเจดีย์เทพนิธากรที่นี่