ขอสวัสดีกันอีกครั้ง กับการเดินทางท่องเที่ยววัดในวันหยุดสบายๆของผม … ผมห่างหายจากการเขียนบทความไปนานร่วมเดือนเต็มๆ เพราะว่าแทบไม่มีเวลาเขียนบทความกันเลยครับ ประมาณว่าเที่ยวจไม่เหลือเวลากันเลยทีเดียว… พอกลับมาดู โอ้ว ห่างหายไปนานแรมเดือนเลยทีเดียว เพื่อไม่ให้ความทรงจำหายไป จึงรีบกลับมาเขียนบทความกันอีกครั้ง
ครั้งนี้ ผมได้เดินทางไปท่องเที่ยววัด ในโปรแกรมการตามรอยพระอภิญญาแห่งลพบุรี รูปหนึ่งนั่น ก็คือ หลวงพ่อสาย ติสสโร แห่งวัดพยัคฆาราม หรือชาวบ้านพากันเรียกติดปากว่า วัดเสือ ที่อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี
การเดินทางก็เช่นเดินมครับ ผมได้อาศัยวันว่างจากเวลางานมาท่องเที่ยว จึงได้นัดแนะเพื่อนๆ เดินทางไปเที่ยวด้วยกันเป้าหมายคือที่วัดพยัคฆารามหรือวัดเสือแห่งนี้
แต่เดิมผมไม่ทราบเรื่องราวของวัดนี้เท่าไรนัก จนบังเอิญไปได้หนังสือเก่าเล่มหนึ่ง พอเปิดอ่านก็ได้พบเรื่องราวของหลวงพ่อสาย ติสสโร แห่งวัดพยัคฆาราม ซึ่งเป็นพระอภิญญา รูปหนึ่งที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างมากในจังหวัดลพบุรี ทั้งๆที่ผมก็เดินทางผ่านวัดแห่งนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็แค่เพียงผ่านเลยไป … ดังนั้น ผมจึงได้หาโอกาสเดินทางเพื่อไปชมบรรยากาศและตามรอยเรื่องราวในครั้งนี้
หน้าวัดเสือในปัจจุบัน (พ.ศ. 2559)
เมื่อเดินทางมาถึงวัด ก็พบกับความเงียบสงบ ทางเข้าวัดไม่มีกำแพงล้อมรอบ พื้นที่โล่งๆ ผมก็นำรถไปจอดใต้ต้นโพธิ์ จากนั้นก็พากันเดินชมบรรยากาศภายในวัด
ทางเข้าวัดเสือในอดีต
ภายในวัดมีสุนัขค่อนข้างเยอะครับ แต่ก็ดูเป็นมิตรกับเราดี แต่การเดินชมบรรยากาศให้ระวังกับระเบิดที่สุนัขปล่อยทิ้งไว้ด้วยนะครับ บอกเลยมีเยอะพอสมควร ฮ่าๆ
เรื่องราวของวัดพยัคฆารามหรือวัดเสือ ต่อไปในบทความผมจะเรียกสั้นๆว่าวัดเสือนะครับ
วัดพยัคฆารามหรือวัดเสือ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี เป็นวัดที่เก่าแก่มาหลายร้อยปี แต่ไม่พบหลักฐานการสร้างว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่ได้อาศัยการสันนิษฐานจากการขุดสำรวจของกรมศิลปากรซึ่งค้นพบวัตถุโบราณสมัยลพบุรี และเครื่องสังคโลก สมัยสุโขทัย
จากการสันนิษฐาน เชื่อกันว่าวัดแห่งนี้อาจจะเป็นวัดที่ชาวบ้านในสมัยโบราณที่หนีสงครามจากพม่าแล้วตั้งรกรากมาสร้างไว้ ซึ่งอาจจะเป็นดงเสือมาก่อน จึงให้ชื่อว่าวัดเสือ ตั้งแต่นั้น
หลวงพ่อสาย
ในสมัยหลวงพ่อสาย ติสสโร ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสนั้น วัดเสือมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก จึงมีการก่อสร้างเสนาสนะต่างๆมากมาย อาทิ กุฏิ หอระฆัง พระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ และอีกมากมาย ด้วยชาวบ้านต่างมีความศรัทธาเคารพนับถือในองค์หลวงพ่อสาย เป็นอย่างมาก
ชาติกำเนิดของหลวงพ่อสาย ท่านเกิดเมื่อวันพุธ เดือน 4 พ.ศ. 2397 ณ ตำบลโพธิ์ตลาดแก้ว อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ท่านได้อุปสมบทเมื่ออายุครบ 21 ปี ณ พัทธสีมาพยัคฆาราม เมื่อปี พ.ศ. 2418 โดยมีหลวงพ่อพุก เจ้าอาวาสวัดเสือในสมัยนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์ และมีหลวงพ่อก๋ง แห่งวัดเขาสมอคอน เป็นพระกรรมวาจาจารย์
หลวงพ่อสาย ได้เล่าเรียนวิชาวิทยาคมต่างๆกับหลวงพ่อพุก ซึ่งเป็นพระอภิญญารูปหนึ่งในสมัยนั้น อีกทั้งได้เล่าเรียนวิชาจากหลวงพ่อก๋ง แห่งวัดเขาสมอคอน พระผู้ทรงพลังจิตหาใครเทียบได้ยากในจังหวัดลพบุรี จึงทำให้หลวงพ่อสายได้รับวิชาความรู้ จนเชื่อกันว่าท่านก็เป็นพระผู้ทรงอภิญญารูปหนึ่งด้วยเช่นกัน
หลวงพ่อสาย ติสสโร ท่านได้มรณภาพเมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ พ.ศ. 2498
ศาลาไม้สัก
ศาลาไม้สักในวัดมีความโดดเด่น ดูสวยงามมาก ซึ่งตั้งอยู่หลังวัด
ลวดลายหน้าบันศาลาไม้สัก
วิหารพระพุทธรูปอู่ทอง
หน้าบันวิหารพระอู่ทอง
เยื้องมาด้านหน้า ถัดศาลาไม้สัก จะเป็นวิหารหลวงพ่ออู่ทอง ซึ่งมีหน้าบันที่สวยงามมากครับ
พระพุทธรุปอู่ทองในวิหาร
พระอุโบสถ วัดเสือ
หอระฆังและศาลาการเปรียญ
ซุ้มประตูวัดเดิม ฝั่งแม่น้ำ
ใกล้กับศาลาการเปรียญ เราจะมองเห็นซุ้มประตูวัดเดิม ที่เป็นทางเข้าวัดอีกทางหนึ่ง ซึ่งต้องอาศัยสะพานข้ามแม่น้ำ แต่ปัจจุบันสะพานได้ชำรุดและพังทลายไปจนไม่สามารถใช้การได้แล้ว
ภาพเปรียบเทียบอดีตกับปัจจุบัน ทางเข้าวัดฝั่งแม่น้ำ
หลังจากผมเดินวนเวียนภายในวัดได้สักพักใหญ่ๆ ก็เลยเดินไปทางหน้าวัด เพื่อเก็บบรรยากาศเพิ่มเติม จนไปเจอกับสิ่งปลูกสร้างหนึ่ง ซึ่งเป็นภาพที่แปลกตาสำหรับผมเอามากๆ ในใจก็คิดว่าที่เก็บกระดูกคนตายหรือเปล่า แต่ก็ได้ทราบความจริงภายหลังว่า นั่นคือห้องสุขาสมัยก่อน…
ห้องสุขาสมัยก่อน
คลิปยูทูปจาก : FaithThaiStory
ผู้ที่บอกผมว่าเป็นห้องสุขา ก็คือลุงพยงค์ ซึ่งลุงเป็นมัคทายกอยู่ที่วัดเสือ เนื่องจากว่าเห็นกลุ่มพวกผมเดินวนเวียนถ่ายรูป เดินไปเดินมากันนานพอสมควร ลุงพยงค์เลยขับมอเตอร์ไซต์มาพูดคุยด้วย ซึ่งลุงก็ใจดีมาก เล่าเรื่องราวในอดีตของวัดให้ฟังอย่างสนุกสนาน ปัจจุบันลุงมีอายุ 73 ปีแล้วครับ แต่ดูสุขภาพแข็งแรงมาก อีกทั้งยังอุทิศตนเป็นประโยชน์ในชุมชนอีกด้วย
ลุงพยงค์ ผู้ที่เล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง
หลังจากที่พูดคุยกับลุงพยงค์ ได้นานพอสมควร ลุงก็เลยแนะนำให้ไปดูเรือที่หลวงพ่อสายได้ใช้ในสมัยก่อน ซึ่งปัจจุบันก็มีการบูรณะดูใหม่ขึ้น และแนะนำให้เข้าไปกราบไหว้ขอพรหลวพ่อสาย ภายในวิหารด้วย
เรือหลวงพ่อสาย
วิหารหลวงพ่อสาย
รูปหล่อหลวงพ่อสาย
วัตถุมงคลหลวงพ่อสาย ในอดีต
กลุ่มผมก็เดินวนเวียนถ่ายรูปภายในวัดอีกสักระยะ จนหนำใจจึงได้พากันเดินทางไปยังวัดอื่นๆต่อ ซึ่งการเดินทางมาวัดเสือแห่งนี้ ก้ได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆอีกเยอะ และได้ความอิ่มเอมใจกลับไปอีกมากด้วยครับ หวังว่าท่านผู้อ่านจะชอบเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยววัดของผมเช่นกัน แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้าครับ สวัสดีครับ
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม เที่ยววัดและโบราณสถาน
เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com
