วันนี้ผมจะพาเดินทางไปทำบุญและสักการะบูชาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่งที่จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือที่เราเรียกติดปากว่า เมืองแปดริ้ว ถ้าจะกล่าวถึงเมืองแปดริ้ว ฉะเชิงเทราแล้วหล่ะก็ มั่นใจเลยครับว่าต้องนึกถึงองค์หลวงพ่อพุทธโสธรเป็นอันดับต้นๆแน่นอน เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรามาช้านาน และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวไทยทั่วสาระทิศ จะสังเกตุได้จากที่วัดโสธรวรารามวรมหาวิหาร จะมีผู้คนผ่านเข้ามากราบไหว้ ขอพรไม่ขาดสาย ยิ่งถ้าเป็นวันเสาร์ อาทิตย์และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาแล้ว ยิ่งมีผู้คนมากมายที่เดินทางมาจากหลายๆจังหวัดเพื่อมาทำบุญและขอพร ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธรเป็นที่กล่าวขานมานมนาน หลายคนสัมฤทธิ์ผลตามปรารถนาและก็ได้เล่าขานสืบต่อกันจนเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ
หลวงพ่อพุทธโสธรประดิษฐานอยู่ในพระมหาอุโบสถหลังใหม่ ความใหญ่โตของพระอุโบสถได้รับการบันทึกเป็นพระอุโบสถที่ใหญ่ที่สุดในโลก แบบพระอุโบสถเป็นหลังคาประกอบเครื่องยอดชนิดยอดทรงมณฑปแบบไทย ต่อเชื่อมด้วยวิหารทั้งด้านหน้าและ ด้านหลังด้านข้างต่อเชื่อมด้วยอาคารรูปทรงเดียวกับพระวิหารเป็นอาคารมุขเด็จ จึงมีลักษณะเป็นอาคารมีหลังคา แบบจตุรมุขอย่างปราสาทไทย กว้าง 44.5 เมตร ยาว 123.50 เมตร ส่วนกลางพระอุโบสถมียอดมณฑปสูง 85 เมตร ยอดมณฑปมีลักษณะเป็นฉัตร 5 ชั้น มีความสูง 4.90 เมตร ยอดฉัตรเป็นทองคำน้ำหนัก 77กิโลกรัม มูลค่า 44 ล้านบาท ผนังด้านนอกพระอุโบสถปูด้วยหินอ่อนจากเมืองคาร์ราร่า ประเทศอิตาลี ผนังด้านในเป็นงาน จิตรกรรมฝาผนัง โดยศิลปินแห่งชาติซึ่งเป็นผู้เขียนภาพประกอบพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก
ส่วนสำคัญที่สุดคือ ส่วนกลางของพระอุโบสถซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวง พ่อพุทธโสธร ประกอบ ด้วยภาพ จิตรกรรมฝาผนังโดยรอบนับตั้งแต่พื้นพระอุโบสถ เสา ผนัง และเพดานจะบรรจุเรื่องราวให้เป็นแดนแห่งทิพย์เป็น เรื่องราว ของสีทันดร มหาสมุทร จตุโลกบาล สวรรค์ดาวดึง พรหมโลก ดวงดาว และจักรวาลตำแหน่งของ ดวงดาวบนเพดาน จะกำหนดตำแหน่งตามดาราศาสตร์ ตรงกับวันที่ 5 กันยายน พ.ศ.2539 ซึ่งเป็นวันยกยอด ฉัตรทองคำเหนือมณฑป พระอุโบสถ และภาพของจักรวาลบนเพดานจะเป็นภาพเขียน ประดับโมเสกสี จึงเป็น พระอุโบสถที่มีขนาดใหญ่ และสวยงามที่สุด
>>>ตำนานหลวงพ่อพุทธโสธร<<< คลิก!!!
บางคนอาจจะสับสนว่าองค์หลวงพ่อพุทธโสธรนั้นคือองค์ไหนกันแน่ เพราะมีอีกองค์อยู่ในศาลาด้านนอก ซึ่งสามารถทำการปิดทองบูชากันได้ ความเป็นจริงก็คือ หลวงพ่อพุทธโสธรประดิษฐานด้านในอุโบสถหลังใหม่นะครับ ส่วนองค์ในศาลานั้นเป็นองค์จำลอง เนื่องจากการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ใช้เวลานานมาก จึงต้องสร้างองค์จำลองให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชา และก็อาจจะสงสัยอีกว่าในอุโบสถหลังใหม่ก็มีอยู่ 2 องค์ที่ไม่แน่ใจว่าองค์ไหน องค์จริงก็คือองค์ที่อยู่ด้านหน้านะครับ
ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพุทธโสธรได้ถูกกล่าวขานกันไปทั่วสาระทิศ จะเห็นได้จากมีการบนบานองค์หลวงพ่อ โดยเฉพาะมีการถวายไข่ต้ม และถวายการรำแก้บน ซึ่งจะเห็นในศาลาด้านนอกนะครับ
พระพุทธโสธรองค์จำลองในศาลาด้านนอกสามารถที่จะปิดทองบูชาได้
สำหรับพระอุโบสถหลังใหม่นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อ พ.ศ. 2531 และทรงประกอบพิธียกยอดฉัตรทองคำ น้ำหนัก 77 กิโลกรัม ประดิษฐานเหนือยอดมณฑป การก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ สร้างขึ้นครอบพระอุโบสถหลังเดิม โดยใช้เทคนิควิศวกรรมสมัยใหม่ โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อพุทธโสธร และพระพุทธรูปทั้ง 18 องค์ ไปไว้ที่อื่นก่อน
อุโบสถมี กำแพงที่ปุด้วยหินอ่อนจากเมืองคาร์ราร่า ประเทศอิตาลี เป็นสุดยอดศิลปกรรมบนพื้นแกรนิตภาพมหาสมุทรที่สวยงามวิจิตรในพระอุโบสถหลัง ใหญ่นี้ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธโสธรองค์จริงเป็นพระประธาน และพระพุทธรูปอื่นรวม 18 องค์ ประดิษฐานในดอกบัวขนาดใหญ่สวยงาม พระอุโบสถสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2541 พระอุโบสถมีลักษณะทรงไทยประยุกต์ กว้าง 44.50 เมตร ยาว 123.50 เมตร
ลักษณะเป็นอาคารหลังคาประกอบเครื่องยอด ชนิดยอดทรงมณฑปแบบไทย ต่อเชื่อมด้วยวิหารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านข้างต่อเชื่อมด้วยอาคารรูปทรงอย่างเดียวกันกับพระวิหาร เป็นอาคารจัตุรมุข ซึ่งเมื่อประกอบเข้าด้วยกันแล้วจะเป็นหลังคาแบบจัตุรมุข อย่างอาคารปราสาทแบบไทย จัดเป็นพระอุโบสถที่งดงามมาก และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
บริเวณด้านนอกพระอุโบสถกว้างขวางเป็นสนามหญ้าสวยงามสลับแซมกับต้นไม้นานาพันธุ์ มีศาลานั่งพักผ่อนโดยรอบพระอุโบสถเราสามารถเข้าไปนั่งพักผ่อนได้ อากาศเย็นสบายมีลมพัดมาตลอดเวลาเพราะบริเวณวัดติดกับแม่น้ำบางปะกง และในบริเวณริมน้ำเราสามารถเข้าไปทำบุญปล่อยปลาได้อีกด้วย
จุดเด่นของพระอุโบสถหลังนี้ก็คือ ศิลปกรรมบนพื้นแกรนิตภาพมหาสมุทร แสดงให้เห็นถึงตำนานหลวงพ่อพุทธโสธรที่ลอยน้ำมายังบริเวณนี้ มีปลาขนาดใหญ่ประจำเมืองแปดริ้ว 5 ตัว ว่ายวนเวียนอัญเชิญดอกบัว รอบๆ มีสัตว์น้ำนานาชนิด ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา คาบดอกบัวมาสักการะบูชาองค์หลวงพ่อ ลวดลายบนภาพพื้นพระอุโบสถ มีความสมจริงดั่งพื้นน้ำซึ่งเป็นงานศิลปกรรมที่สร้างสรรค์โดยฝีมือช่างผู้ชำนาญฝีมือเอกของเมืองไทยหลายท่าน แกะสลักหินแกรนิตหลากสี ให้เป็นลวดลายได้อย่างสมจริง
ภายในศาลาด้านนอกจะมีวัตถุมงคลของทางวัดให้บูชาครับ
ประวัติวัดโสธรวรารามวรวิหาร
วัดโสธรวรารามวรวิหาร เดิมมีชื่อว่า “วัดหงส์” มีหลักฐาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยมีประวัติที่เล่าสืบทอดกันมายาวนาน และเมื่อเวลาผ่านไป แม่น้ำบางปะกงไหลกัดเซาะตลิ่งพังลงมา วัดหงส์จึงหมดไป จึงมีการสร้างวัดขึ้นใหม่
วัดโสธรวรารามวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองฉะเชิงเทรา เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวแปดริ้ว และคนต่างบ้านต่างเมืองมาแต่อดีตกาล ตั้งอยู่บนถนนสายมรุพงษ์ ห่างจากตลาดกลางเมืองประมาณ 2 กิโลเมตร
วัดนี้แต่เดิมเป็นวัดราษฎร์ สร้างขึ้นตอนปลายของกรุงศรีอยุธยา ตามประวัตินั้นแต่แรกมีชื่อว่า “วัดหงส์” เพราะมี “เสาหงส์” อยู่ในวัด เป็นเสาสูงมียอดเป็นตัวหงส์อยู่บนปลายเสา ต่อมาหงส์บนยอดเสาหักตกลงมาเหลือแต่เสา และมีผู้เอาธงขึ้นไปแขวนแทน จึงได้ชื่อว่า “วัดเสาธง” ครั้นเมื่อเสาธงหักเป็นสองท่อน จึงเรียกชื่อใหม่ว่า “วัดเสาธงทอน” ส่วนชื่อ “วัดโสธร” อันมีความหมายว่า “บริสุทธิ์” และ “ศักดิ์สิทธิ์” นั้น เรียกตามพระนามของพระพุทธโสธร หรือหลวงพ่อโสธรซึ่งได้มาประดิษฐานในวัดนี้
ในภายหลังวัดโสธรได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร มีนามว่า “วัดโสธรวรารามวรวิหาร” เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2501
>>>ตำนานหลวงพ่อพุทธโสธร<<< คลิก!!!
หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรีได้กล่าวถึงองค์พระพุทธโสธร
อาตมาถามว่าเทวดาไปชวนคนสวดมนต์ทุกบ้านหรือเปล่า เทวดาบอกว่า “เปล่า บ้านไหนจัดที่บูชามีโต๊ะหมู่ มีพระพุทธรูปตั้งไว้ แล้วเจ้าของบ้านสวดมนต์ เทวดาก็มาร่วมสวดมนต์ด้วย พระพุทธรูปเหล่านั้น ที่ไม่ได้เข้าพิธีอะไร เช่ามาบูชาจากเสาชิงช้า หากเจ้าของบ้านเอามาสวดมนต์ไหว้พระทุกวันด้วยใจศรัทธา เทวดามาสวดมนต์ หนักเข้าก็เลยเข้าสิงรักษาองค์พระเอาไว้ ก็เลยศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ ทำให้เกิดสิริมงคลในครัวเรือน”
หลวงพ่อพระพุทธโสธรนั้น คนกราบไหว้บูชากันมากเลยมีเทวดามารักษา 16 องค์ ทำให้เกิดอภินิหารนานาประการ พระพุทธรูปสำคัญๆ ก็มีเทวดารักษาทั้งนั้นแหละ
เทวดา ท่านว่าอย่างนั้นและเทวดาก็ว่าบ้านไหนมีพระพุทธรูปแค่ตั้งโชว์ เทวดาก็ไม่ไปสวดมนต์ เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยทำวัตรสวดมนต์ เทวดาก็ไม่มา ผ่านเลยไปเลย มาไม่ลงมาสวดมนต์ คนเราก็มีเทวดารักษา คนดีมีศีลธรรม เทวดาที่เป็นบัณฑิตรักษา ถ้าคนชั่วขี้เหล้าเมายาทำชั่ว เทวดาพาลพวกมิจฉาทิฐิก็มารักษา
ตามคำกล่าวข้างต้นของหลวงพ่อจรัญ ว่ามีเทวดาคอยรักษาองค์หลวงพ่อพุทธโสธรถึง 16 องค์ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดปาฏิหาริย์และบันดาลความสุขให้แก่พุทธศาสนิกชนที่เข้ามากราบไว้บูชาขอพรก็ได้ครับ
แผนที่เส้นทางไปวัดโสธรวรารามวรวิหาร
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด
เว็บไซต์หลัก www.faiththaistory.com