Faiththaistory.com

เที่ยววัดสาวชะโงก ตำนานโศกนาฏกรรมความรัก และกราบหลวงพ่อเหลือ


https://youtu.be/y0fjstQmsI8

สวัสดีครับ วันนี้ผมเดินทางมาถึงจังหวัดฉะเชิงเทราและเป็นช่วงจังหวะพายุเข้าประเทศไทยพอดิบพอดี เล่นเอาผมถึงกับเซ็งไปพอสมควรเพราะหลายๆโปรแกรมที่ตั้งใจไว้ก็ได้ยกเลิกไปด้วยเพราะสภาวะอากาศไม่เอื้ออำนวย

แต่ก็ได้เดินทางไปเที่ยววัดบ้างเช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือ “วัดสาวชะโงก” ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ที่ผมตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวที่วัดแห่งนี้ ก็เนื่องด้วยเหตุผล 2 ประการหลักคือ

  1. ที่วัดแห่งนี้มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับการสร้างวัดในชื่อว่า “วัดสาวชะโงก” ซึ่งเป็นตำนานโศกนาฏกรรมความรัก ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวคู่หนึ่ง
  2. ตำนานเครื่องรางวัตถุมงคลอันลือลั่น นั่นก็คือ “ปลัดขิก” ของหลวงพ่อเหลือ ที่เชื่อกันว่าเป็นปลัดขิกอันดับหนึ่งของเมืองไทย

การเดินทางไปวัดสาวชะโงก

ผมได้เดินทางตามเส้นทางมาจากวัดสมานรัตนาราม มาตามเส้นทางถนนหมายเลข 304 ซึ่งท่านสามารถดูตามแผนที่การเดินทางด้านล่างนี้

ผมเดินทางไปถึงวัดก็ยังมีบรรยากาศฝนปรอยๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังสามารถที่จะเดินชมพื้นที่ในวัดได้สะดวกอยู่ระดับหนึ่ง … วัดสาวชะโงกจะอยู่ติดกับแม่น้ำบางปะกง ทำให้มีบรรยากาศที่ดี มีวิวทิวทัศน์สวยงาม เหมาะแก่การเดินทางมาท่องเที่ยว

ศาลแม่เฒ่า

บริเวณที่จอดรถ ผมจอดอยู่ใกล้กับศาลแม่เฒ่าซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง

ศาลแม่เฒ่า ได้สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อเหลือ เป็นเจ้าอาวาส… ครั้งนั้นกำลังมีการก่อสร้างกุฏิพระในวัด จึงมีการลอยท่อนซุงมาตามลำแม่น้ำบางปะกง เพื่อใช้ในการก่อสร้าง แต่ปรากฏว่ามีท่อนซุงตะเคียนท่อนหนึ่งได้เกิดการแสดงปาฏิหาริย์ ไม่สามารถลากขึ้นมาบนฝั่งได้ … จึงได้แจ้งหลวงพ่อเหลือ จึงมีพิธีอัญเชิญท่อนซุงท่อนนั้นขึ้นจากน้ำ และทำการตั้งศาลแม่เฒ่าไว้บริเวณหน้าวัด ริมแม่น้ำบางปะกงตั้งแต่นั้นมา … เป็นศาลที่ได้รับความเคารพนับถือของผู้คนในท้องถิ่นมาเป็นเวลาช้านาน

ศาลาริมน้ำแม่น้ำบางปะกง

แม่น้ำบางปะกง หน้าวัดสาวชะโงก

ผมเดินวนเวียนที่ริมแม่น้ำบางปะกง สังเกตุเห็นปริมาณน้ำที่เยอะมากพอสมควร อาจจะเป็นเพราะช่วงหลังๆ มีพายุเข้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่าเวลาผ่านไปไม่ได้ไม่นาน ซึ่งก่อนหน้านี้น้ำแล้งมาก แต่ตอนนี้น้ำเยอะมากจริงๆ

หน้าพระวิหารหลวงพ่อเหลือ

ทางเข้าวิหารหลวงพ่อเหลือ

รูปหล่อหลวงพ่อเหลือ และอดีตเจ้าอาวาสรูปอื่นๆ

ภายในพระวิหารหลวงพ่อเหลือ จะมีรูปหล่อหลวงพ่อเหลือและอดีตเจ้าอาวาสรูปอื่นๆ ให้กราบไหว้บูชาและปิดทอง ส่วนด้านหลังเป็นองค์หลวงพ่อโสธรจำลอง และพระพุทธชินราชจำลอง

ตู้แสดงโชว์วัตถุมงคลหลวงพ่อเหลือ

บันทึกอักษรโบราณ

รูปถ่ายหลวงพ่อเหลือ

จุดบูชารูปหลวงพ่อเหลือ

บูชาวัตถุมงคล

หลวงพ่อเหลือ หรือพระครูนันทธีราจารย์ เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดสาวชะโงก ดำรงตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ. 2474 ท่านได้มรณภาพเมื่อวันศุกร์ ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2488 ขึ้น 7 ค่ำเดือน 2 ปีระกา เวลา 04.00 น. ด้วยโรคประจำตัวและแก่ชรา

ความโ่งดังของหลวงพ่อเหลือ นอกจากจะเป็นพระนักพัฒนา และปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว ก็ยังมีชื่อเสียงในเรื่องการปลุกเสกวัตถุมงคล โดยเฉพาะ “ปลัดขิก” ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นปลัดขิกอันดับ 1 ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ ทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสมวัตถุมงคลอย่างมาก และเป็นวัตถุมงคลที่หายากมากในปัจจุบันนี้

หลังจากที่ผมกราบไหว้บูชาพระในวิหารหลวงพ่อเหลือแล้ว ก็ได้เดินชมวัตถุมงคลสมัยที่หลวงพ่อเหลือยังไม่มรณภาพในตู้แสดงโชว์ และจึงเดินไปด้านหลังวิหารหลวงพ่อเหลือเพื่อไปกราบไหว้พระเจดีย์หลวพ่อเหลือต่อไป

เจดีย์หลวงพ่อเหลือ

เนื่องจากฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ผมจึงต้องรีบเดินเข้าร่ม ซึ่งตั้งอยู่หน้าพระเจดีย์หลวงพ่อเหลือพอดีเลยครับ ส่วนพระเจดีย์องค์อื่นๆ ก็เป็นพระเจดีย์ของอดีตเจ้าอาวาสรูปอื่นๆครับ

ผมได้กราบไหว้บูชาพระเจดีย์แล้วจึงเดินไปกราบไหว้บูชาพระที่มณฑปพระพุทธบาทจำลอง

ทางเข้ามณฑปพระพุทธบาทจำลอง

ด้านในมณฑปพระพุทธบาทจำลอง

ในมณฑปพระพุทธบาทจำลอง จะประดิษฐานพระพุทธรูป และรอยพระพุทธบาทจำลองให้กราบไหว้บูชาและปิดทอง … ฝาผนังมีความสวยงามของจิตรกรรมศิลป์ และมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุในผนังให้กราบไหว้บูชากันอีกด้วย

รอยพระพุทธบาทจำลอง

พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุบรรจุในผนัง

ที่พระมณฑปรอยพระพุทธบาทจำลอง เป็นจุดสุดท้ายที่ผมได้เดินชมสถานที่ แต่ฝนก็ยังเทลงมาไม่ขาดสาย เรื่องเปียกผมไม่กลัวเท่าไหร่นัก แต่กลัวกล้องจะพังนี่แหละครับ เลยต้องรอจังหวะฝนซาแล้วรีบเดินกลับ

แม้ฝนจะตกลงมาอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังมีผู้มีจิตศรัทธาเดินทางมากราบไหว้หลวงพ่อเหลือกันอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นการบ่งบอกว่า วัดสาวชะโงก เป็นวัดหนึ่งที่มีชื่อเสียง และได้รับความศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนเช่นกัน

ประวัติวัดสาวชะโงก พอสังเขป

เรื่องราวของประวัติวัดสาวชะโงก มีตำนานเล่าขานกันมาแต่โบราณ ถึงเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวคู่หนึ่ง โดยมีเรื่องเล่ากันว่า ได้มีการจัดพิธีแต่งงานโดยเจ้าบ่าวเป็นคนอำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ได้ล่องเรือใหญ่มาตามแม่น้ำบางปะกง เพื่อแห่ขบวนขันหมากมาขอเจ้าสาว และได้มาจอดเรือบริเวณคุ้งน้ำใกล้บ้านเจ้าสาวเพื่อรอฤกษ์

ฝ่ายครอบครัวเจ้าสาวก็รู้สึกดีใจ ที่มีขบวนขันหมากจัดมาใหญ่โต ดูสนุกสนาน ด้วยเจ้าสาวอยากเห็นหน้าเจ้าบ่าว จึงได้ชะโงกหน้าออกทางหน้าต่างออกมาดู และได้เกิดอุบัติเหตุทำให้เจ้าสาวพลัดตกจากเรือนไทยลงมาเสียชีวิต

เหตุการณ์นี้ ทำให้พ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาวเสียใจอย่างยิ่ง จึงได้ทำการถวายที่ดิน 6 ไร่ ในการสร้างวัด เพื่อเป็นอนุสรณ์และอุทิศส่วนกุศลให้แก่ลูกสาวของตน และตั้งชื่อว่า “วัดสาวชะโงก” ตั้งแต่นั้นมา

ทั้งนี้วัดสาวชะโงก เป็นวัดในสังกัดมหานิกาย ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2356 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยการบริจาคที่ดิน 6 ไร่ ของนายนุช และนางยัง ผู้เป็นพ่อแม่ของเจ้าสาว

บทสรุป

วัดสาวชะโงก มีพื้นที่ใช้สอยกว้างพอสมควร ติดริมแม่น้ำบางปะกง ทำให้มีทิวทัศน์ที่ดีและสวยงาม เหมาะกับการท่องเที่ยวทำบุญวัดหนึ่ง … มีพระวิหารหลวงพ่อเหลือให้ทำการบูชาพระปิดทองและเช่าบูชาวัตถุมงคลของทางวัด ด้านหลังพระวิหารหลวงพ่อเหลือ จะมีพระเจดีย์ของอดีตเจ้าอาวาสรูปอื่นๆและพระเจดีย์หลงพ่อเหลือ ซึ่งบรรจุอัฐิธาตุของท่านให้กราบไหว้บูชา

ใกล้เคียงกัน จะเป็นมณฑปพระพุทธบาทจำลอง สามารถที่จะปิดทองบูชากันได้และมีพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ให้บูชาด้านในอีกด้วย

ในเรื่องเส้นทางเดินทาง จะมีถนนบางช่วงที่ขรุขระ ก็ขอให้ใจเย็นๆนะครับ ไม่ต้องรีบร้อน

เรียนเชิญกันมาทำบุญและเรียนรู้ตำนานวัดสาวชะโงกกันได้นะครับ … แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อๆไป ขอบพระคุณครับ…

 

ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด

ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108

หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory

ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด

เว็บไซต์หลัก www.faiththaistory.com

Exit mobile version