บทความนี้ผมจะพาเดินทางไปชมวัดร้างอีกแห่งหนึ่ง ที่แต่เดิมนั้น ยังไม่ได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากร เพิ่งจะได้รับการปรับแต่งพื้นที่ได้ไม่นานนี้เองครับ นั่นก็คือวัดพระนอน หรือ บางคนเรียกว่า วัดโคกพระนอน การที่เรียกว่าวัดพระนอนนั้น จะมีจุดเด่นสำคัญอย่างหนึ่งคือ จะมีพระนอนขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ แต่ก็ชำรุดทรุดโทรมไปอย่างมาก จะมองเห็นได้เพียงรูปทรงว่าเป็นพระนอนขนาดใหญ่ โดยทางกรมศิลปากรได้นำชิ้นส่วนต่างๆขององค์พระมาประกอบกันไว้ คงจะอีกสักระยะที่จะมีการบูรณะให้ดูมั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น
การเดินทางจากเจดีย์วัดสามปลื้ม (เจดีย์วงเวียน) ผ่านมายังวัดใหญ่ชัยมงคล แล้วเลี้ยงซ้ายเมื่อถึงโค้งแรกให้สังเกตุซอยทางเข้าหอพัก แล้วกลับรถเข้าซอยครับ บริเวณนี้จะมีวัดร้างที่ได้รับการบูรณะไปจำนวนถึง 3 วัด ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกัน คือ วัดชุมพล วัดประโดก และวัดพระนอนที่ผมกำลังจะพาไปชมนี่แหละครับ
สภาพพิ้นที่วัดพระนอนปัจจุบัน (24 มกราคม 2558) ได้รับการบูรณะอย่างชัดเจน มีป้ายบอกชื่อวัด และมีการปรับพื้นที่ ทำให้มองเห็นสภาพของโบราณสถานได้ดียิ่งขึ้น
พื้นที่โดยรอบของวัดรพระนอน จะมีเพียงโคกอิฐของฐานเจดีย์ ที่ยังมองเห็นอยู่ในปัจจุบัน
ทีมนักเดินทางที่ไปด้วยกัน ได้เข้าไปสำรวจดูองค์พระ และบอกว่าสภาพขององค์พระมีการแตกร้าวบริเวณพระพักตร์ ทำให้เห็นรอยการบูรณะมาหลายสมัย ตั้งแต่สมัยอยุธยาเป็นต้นมา และถูกทิ้งร้างเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2
ประวัติจากการสันนิษฐาน
จากข้อมูลแหล่งข่าว มีรายละเอียดว่า นายเอนก สีหามาตย์ รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า วัดโคกพระนอนแห่งนี้อายุกว่า 600 ปี มีเนื้อที่ 2 ไร่ สร้างในสมัยอยุธยาช่วง พ.ศ.1901 ถึง พ.ศ. 2000 บูรณะต่อเนื่องหลายสมัยแต่ไม่พบบันทึกประวัติการสร้าง
จากการสำรวจเบื้องต้นที่เคยทำประวัติไว้ โดยภายในวัดจะมีวิหารขนาดใหญ่ คลุมองค์พระนอนองค์ใหญ่ ลักษณะปูนปั้น มีความยาวประมาณ 8 เมตร เป็นพระนอนที่มีความงดงามองค์หนึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีลักษณะคล้ายกับพระนอนวัดธรรมิกราช จ.พระนครศรีอยุธยา พระนอนภายในวัดพระนอนจักรศรี จ.สิงห์บุรี และนอนในวัดขุนอินทรประมูล จ.อ่างทอง และวัดโคกพระนอนแห่งนี้ จัดอยู่ในกลุ่มโบราณทางทิศตะวันออก หรือกลุ่มโบราณสถานอโยธยา ซึ่งโบราณที่สำคัญได้แก่วัดใหญ่ชัยมงคล วัดสามปลื้ม วัดอโยธยา
ช่วงที่ผมเดินทางมาถึงก็ใกล้จะพลบค่ำพอดี จุดนี้ก็เลยเป็นจุดสุดท้ายที่เราได้เดินทางมาสำรวจพื้นที่กัน เป็นการซึมซับบรรยากาศเก่าๆ ได้ดีมากเลยครับ เดินทางมาก็สะดวกยิ่งขึ้น และในอนาคตก็คงจะมีป้ายบอกทางและทำทางเข้าให้ง่ายต่อนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น การเดินทางวันนี้ทำให้ผมได้รู้เลยว่า อยุธยากรุงเก่าของเรายังมีอะไรอีกมากมาย ที่เรายังไม่รู้
แล้วโอกาสต่อไป ผมจะทยอยเขียนเรื่องราวการเดินทางไปยังวัดอื่นๆ อีกมากมายให้ได้ติดตามกันนะครับ ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านและสนใจเรื่องราวของผม
เดินทางเก็บภาพเพิ่มเติม หลังการบูรณะ
ผมได้เดินทางมาเก็บภาพเพิ่มเติมหลังการบูรณะในเดือนเมษายน พ.ศ.2561 จึงนำภาพมาให้ชมครับ
คลิปก่อนการบูรณะองค์พระนอน
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด
เว็บไซต์หลัก www.faiththaistory.com