Faiththaistory.com

ตำนานพระศรีอาริย์ วัดไลย์ ลพบุรี พระที่หลวงพ่อปานอธิษฐานเสี่ยงทายพระโพธิญาณ


https://youtu.be/wx6syFvPXFs

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่านวันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางท่องเที่ยวและไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์อีกแห่งหนึ่งที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งมีเรื่องเล่าขานตำนานที่น่าสนใจ อีกทั้งเป็นวัดที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี นั่นก็คือวัดไลย์

วัดไลย์ ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี เป็นวัดที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของจังหวัด อีกทั้งยังมีรูปหล่อพระศรีอาริย์ที่ได้รับความเคารพนับถือจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจ แอบแฝงไปด้วยความเร้นลับที่ต้องอาศัยวิจารณญาณของแต่ละท่านได้การรับทราบข้อมูล

ผมได้วางแผนการเดินทางท่องเที่ยวที่จังหวัดลพบุรี แต่เดิมนั้นไม่ได้มีชื่อวัดไลย์อยู่ในโปรแกรม แต่พบว่าเราต้องเดินทางผ่านวัดไลย์ จึงทำการแวะท่องเที่ยวและกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ … เมื่อเราเดินทางกันเข้ามาแล้ว ก็ต้องบอกว่าถ้าไม่แวะนี่คงเสียใจไปอีกนาน เพราะไม่รู้ว่าจะมีโปรแกรมมาเที่ยวที่นี่หรือไม่ … เรื่องราวประวัติมีความน่าสนใจ มีความเก่าแก่ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความเคารพนับถือ อีกทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับหลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำอีกด้วย ซึ่งผมจะขอเล่ารายละเอียดต่อไปในบทความนี้

เมื่อได้ทราบเรื่องราวความสำคัญและความน่าสนใจนี้ จึงถือว่าเป็นวาสนาของผมเช่นกัน ที่ได้แวะเข้ามาทั้งๆที่ไม่มีโปรแกรมเที่ยวที่วัดนี้เลย

พระอุโบสถสีทอง ณ วัดไลย์

จุดแรกที่เราได้เห็นความสวยงามชองวัดไลย์ ก็คือพระอุโบสถสีทองอร่ามเด่นเป็นสง่า แล้วพวกเราทีมนักเดินทางก็นำรถมาจอดไว้บริเวณพระอุโบสถหลังนี้

วิหารเก่า

วิหารเก่าเป็นจุดแรกที่ทีมนักเดินทางเข้าไปชมความงาม เป็นวิหารทรงยาว ฐานรับตัวอาคารทำเป็นบัวคว่ำชั้นเดียว ไม่มีหน้าต่าง แต่เจาะช่องลมที่ผนังทั้งสองข้าง ข้างละห้าช่อง ซึ่งเป็นความนิยมของสถาปัตยกรรมก่อนสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

ลวดลายปูนปั้นที่วิหารเก่า(ด้านหน้า)

ลายปูนปั้นประดับอยู่ที่ผนังนอกวิหารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และมุขตอนในวิหาร เป็นลายปูนปั้นเต็มพื้นผนัง มีความงดงามและสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ที่ผนังด้านหน้าเป็นเรื่องพุทธประวัติและทศชาติชาดก ส่วนด้านหลังยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ บ้างว่าเป็นพุทธประวัติตอนมารผจญ บ้างก็ว่าเป็นตอนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุแต่บางคนก็ว่าเป็นเรื่องมโหสถชาดก หรือเรื่องพุทธประวัติตอนเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช

ลายปูนปั้นมุขด้านหลัง

พระประธานในวิหาร

เป็นพระปางสมาธิในซุ้มเรือนแก้วคล้ายพระพุทธชินราช ศิลปะอู่ทองสังเกตได้จากพระพักตร์เป็นรูปไข่ แต่ดูเข้มแข็งบึกบึน มีไรพระศก และชายสังฆาฏิตัดตรง เดิมองค์พระเป็นหินทรายแดง แต่ปัจจุบันมีการพอกปูนและลงรักปิดทอง

ลวดลายปูนปั้นในวิหาร

หลังจากที่กลุ่มของเราได้เข้าชมและกราบไหว้พระประธานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็พากันเดินไปยังวิหารพระศรีอาริย์ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างมากองค์หนึ่ง

วิหารพระศรีอาริย์

ที่พระวิหารพระศรีอาริย์มีความวิจิตรสวยงามยิ่งนัก ประดิษฐานพระพุทธรูปรอบพระวิหาร จัดไว้เป็นระเบียบสวยงาม

พระพุทธรูปประดิษฐานรอบพระวิหาร

ภายในพระวิหารพระศรีอาริย์

พระศรีอาริย์

ตำนานพระศรีอาริย์ วัดไลย์ ลพบุรี

เรื่องราวตำนานของพระศรีอาริย์ วัดไลย์ มีเรื่องเล่าที่ค่อนข้างแปลก ซึ่งก็เป็นคำบอกเล่าต่อๆกันมา ขอให้ใช้วิจารณญาณเพราะเรื่องราวของพระศรีอาริย์อาจจะไม่ตรงกันในบางตำรา และตำนานพระอนาคตวงศ์ ที่กล่าวว่าพระศรีอาริย์ปัจจุบันนี้ได้จุติเป็นเทพบนสวรรค์ชั้นดุสิต เพื่อรอมาจุติเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต

ทั้งนี้ขอให้อ่านเรื่องราวตำนานนี้ไว้เป็นการประดับความรู้นะครับ ผมเองได้คัดลอกจากเรื่องราวที่มีการบอกเล่าไว้เท่านั้น

ตำนานเล่าเกี่ยวกับพระศรีอาริย์นี้ว่า ชายแก่คนหนึ่งชื่อว่ามณฑา หมั่นทำบุญรักษาศีลภาวนาอยู่เป็นนิจ เพื่อจะได้มีอายุยืนให้ถึงสมัยพระศรีอาริย์มาโปรดโลกมนุษย์ ก่อนจะตายแกได้สั่งญาติไว้ว่าให้เอาศพแกไว้ 7 วันแล้วค่อยเผา เมื่อเฒ่ามณฑาตายไป ด้วยบุญกุศลที่แกสร้างสมไว้ พระอินทร์จึงเป็นผู้มารับวิญญาณและแจ้งว่า พระศรีอาริย์มาเกิดเป็นมนุษย์แล้วและบวชเป็นพระอยู่วัดไลย์ แต่ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร พระอินทร์จึงมอบดอกบัวหนึ่งดอกแก่เฒ่ามณฑา เพื่อนำไปกราบพระศรีอาริย์ แล้วส่งวิญญาณแกกลับสู่ร่าง เฒ่ามณฑาฟื้นขึ้นมาแล้วเล่าเรื่องไปพบพระอินทร์ให้ญาติพี่น้องฟัง และรีบไปวัดไลย์

เมื่อไปถึงพระกำลังสวดปาฏิโมกข์อยู่ในโบสถ์ แกจึงนั่งรออยู่ที่บันไดโบสถ์พร้อมกับพนมมือชูดอกบัวขึ้นถวาย พระได้เดินออกจากโบสถ์ทีละรูป แต่ไม่มีพระองค์ใดรับดอกบัวเลย เนื่องจากพระมองไม่เห็นดอกบัว เห็นเพียงเฒ่ามณฑานั่งพนมมืออยู่ เมื่อพระออกจากโบสถ์จนหมดแล้ว เฒ่ามณฑาจึงถามเณรว่า พระวัดนี้หมดแล้วหรือ เณรบอกว่ายังมีอีกรูปหนึ่งชื่อพระศรี วันนี้อาพาธไม่ได้ลงโบสถ์ แกจึงรีบไปหาพระศรีที่กุฏิเพื่อถวายดอกบัว พระศรีเห็นดอกบัวก็รีบลุกขึ้นรับ เฒ่ามนฑารู้ทันทีว่าเป็นพระศรีอาริย์ยังความปลาบปลื้มปิติให้แก่เฒ่ามณฑาเป็นอย่างยิ่ง จึงขออยู่รับใช้พระศรีอาริย์ โดยพระศรีอาริย์ไม่ให้แกเล่าเรื่องที่พระศรีอาริย์ลงมาเกิดในโลกมนุษย์และบวชเป็นพระอยู่วัดไลย์ให้แกรู้ อยู่ต่อมาพระศรีก็ถึงแก่มรณภาพ พระภิกษุสามเณรและประชาชนผู้มีจิตศรัทธาจึงร่วมกันหล่อรูปพระศรีอาริย์แต่ทำอย่างไรก็ไม่เสร็จ พระอินทร์จึงแอบมาหล่อให้ในเวลาเพลที่ภิษุสามเณรไปฉันเพล เมื่อกลับจากฉันเพลก็เห็นรูปหล่อพระศรีอาริย์เสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นที่อัศจรรย์

นอกจากเรื่องราวตำนานที่มีความแปลกอัศจรรย์นี้ ก็ยังมีเรื่องราวอัศจรรย์เกิดแก่หลวงพ่อปาน โสนันโท ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำอีกด้วย โดยได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำในเรื่องราวการเสี่ยงทายพระโพธิญาณของหลวงพ่อปานกับรูปหล่อพระศรีอาริย์องค์นี้ ซึ่งมีเรื่องเล่าดังต่อไปนี้

หลวงพ่อปานเสี่ยงทายพระโพธิญาณ ยกพระศรีอาริย์

เรื่องราวนี้ได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งได้บันทึกในหนังสือชื่อ ” เรื่องจริงอิงนิทาน เล่มที่ 1 “ ซึ่งผมจะขอนำมาเรียบเรียงให้กระชับ อ่านเข้าใจกันง่ายดังนี้

เรื่องราวมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งเจ้าอาวาสวัดไลย์ ได้อัญเชิญรูปหล่อพระศรีอาริย์ มาที่วัดบางนมโค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้เหล่าสาธุชนได้มาทำบุญปิดทองและหาปัจจัยในการบูรณะวัด โดยมีกำหนดงานบุญทั้งสิ้น 7 คืน

มีอยู่คืนหนึ่ง หลวงพ่อปานได้ให้ตาเชิดเข้ามาปลุกหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งเวลานั้นประมาณตี 2 หลวงพ่อฤาษีลิงดำจึงไปพบหลวงพ่อปานที่ศาลาการเปรียญ ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อปานกำลังจุดธูปเทียนบูชารูปหล่อพระศรีอาริย์อยู่ หลังจากที่หลวงพ่อปานได้บูชาพระศรีอาริย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงหันมาที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำแล้วกล่าวกับหลวงพ่อว่า

คอยดูนะ ฉันจะอธิษฐานให้ดู หลวงพ่อปานได้ยกมือขึ้นนมัสการไหว้ตั้งแต่พระพุทธเจ้าลงมาถึงพระศรีอาริยเมตไตรยแล้วก็กล่าวคำอธิษฐานว่า การที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญกุศลใดๆ ก็เพื่อปรารถนาพระโพธิญาณ หากข้าพเจ้านี้จะได้สำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณในอนาคตกาลภายภาคหน้าแล้ว ขอให้ยกพระศรีอาริย์นี้ขึ้นได้โดยง่าย แล้วท่านก็นั่งคุกเข่า เอามือ 2 มือช้อน ยกขึ้นอย่างสบายไม่ยากเลย คล้ายๆ กับไปยกพระพุทธรูปขนาด 3 นิ้ว ท่านยกชูขึ้นแล้วก็วางลง ชูขึ้นแล้วก็วางลง ทั้งสิ้น 3 ครั้ง เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ขณะนั้นก็แปลกใจจนสุดประมาณ เพราะขนาดรูปหล่อของพระศรีอาริย์นั้น ต้องใช้คนยกถึง 7 คน แต่หลวงพ่อปานยกขึ้นราวกับว่าพระพุทธรูปมีความเบาอย่างมาก

จากนั้นหลวงพ่อปานก็ได้เรียกหลวงพ่อฤาษีลิงดำเข้าไปยกพระศรีอาริย์บ้าง ปรากฏว่าหลวงพ่อฤาษีลิงดำไม่สามารถยกขึ้นได้ … หลวงพ่อปานจึงกล่าวว่า บารมีเธอนั้นยังอ่อนนัก … หลวงพ่อปานจึงให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำยืนขึ้นและบอกวิธียกให้ สุดท้ายแล้วหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็สามารถยกขึ้นได้ แต่ต้องยืนยก ไม่เหมือนหลวงพ่อปานที่ท่านคุกเข่ายก

จากนั้นหลวงพ่อปานก็ได้กล่าวให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำอธิษฐานยกว่าจะตายเมื่อไหร่โดยให้ยกนับไปตามอายุ ถ้าอธิษฐานถึงอายุที่ต้องตายเท่าไหร่ขอให้ยกขึ้น ปรากฏว่า ถึงอายุ 27 ปี หลวงพ่อฤาษีลิงดำจะถึงกาลมรณภาพ

เมื่อทราบผลดังนั้น หลวงพ่อฤาษีลิงดำ จึงสอบถามหลวงพ่อปานว่า จะต่ออายุได้หรือไม่และต้องทำอย่างไร …ซึ่งหลวงพ่อปานก็ได้แนะนำให้ซื้อปลามาปล่อย แต่ถ้าจะเป็นการประดับบารมีเราให้มากขึ้นให้ซื้อผ้าไตรจีวรและพระพุทธรูปมาถวายพระ… ฝ่ายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ก็เพียงแต่รับปาก แต่ในใจไม่คิดจะทำเพราะคิดว่า ตายตอนหนุ่มดีกว่าตายตอนแก่ เพราะเกรงจะลำบากหูตาฝ้าฟาง ดูแล้วลำบากยิ่งนัก

แต่พอถึงรุ่งเช้า ปรากฏว่า ตาเชิดได้นำปลามาให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แล้วบอกว่าหลวงพ่อปานซื้อมาให้ปล่อยและเรียกให้ไปพบ… เมื่อไปพบหลวงพ่อปาน ท่านก็บอกว่า เธอนี่คิดจะตายตอนหนุ่มเพราะคิดว่าตายตอนแก่มันลำบากใช่มั้ย ทำเอาหลวงพ่อฤาษีลิงดำต้องแปลกใจว่าหลวงพ่อปานได้รู้วาระจิตของตนเอง

และหลวงพ่อปานก็ได้กล่าวเทศนาต่อว่า ฉันซื้อปลามาให้เธอ เพื่อให้อยู่ช่วยงานกันก่อน ตัวฉันเองก็แก่มากแล้ว เดี๋ยวไม่มีใครมารับงานต่อพระศาสนาและคอยสั่งสอนเป็นที่พึ่งของญาติโยมต่อไป ไม่ใช่จะหวังให้ใครก็ได้มาคอยสั่งสอนกันได้ง่ายๆ เพราะแต่ละคนถ้าวาสนาบารมีไม่ถึงกันก็ไม่สามารถจะสอนกันได้ ขอให้เธออยู่ต่อไป ฉันจะถ่วงเธอไว้ก่อน

เรื่องราวนี้ก็เป็นอันว่าหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ก็เลยต้องนำปลาไปปล่อยตามที่หลวงพ่อปานได้บอกไว้

หลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค

รูปหล่อพระศรีอาริย์ ตามสันนิษฐานทางประวัติศาสตร์

รูปหล่อพระศรีอาริย์ เป็นปูชนียวัตถุสำคัญของวัดไลย์ จังหวัดลพบุรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่แรกตั้งกรุงศรีอยุธยา หรือในสมัยสุโขทัย เป็นการหล่อแบบพุทธสาวก ศีรษะโล้น ไม่มีเปลวรัศมี ลักษณะคล้ายมนุษย์สามัญ นั่งขัดสมาธิคล้ายปางมารวิชัย ศิลปะรัตนโกสินทร์ ทำจากสำริด ลงรักปิดทอง ตามตำนานว่าหล่อขึ้นแทนองค์พระศรีอาริยเมตไตรองค์เดิมซึ่งสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง ที่อยู่ในวิหารที่ถูกไฟใหม้ ต่อมาในรัชกาลที่ 5 จึงโปรดฯ ให้พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ ซ่อมสร้างขึ้นใหม่

รูปวัดไลย์เมื่อในอดีต

กลุ่มของเราได้เดินวนเวียนถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก สักระยะหนึ่ง เพราะวัดมีความสวยงามมาก บรรยากาศสงบ คนไม่เยอะ ทำให้มีสมาธิในการเดินชมและไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ … เมื่อผมได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของพระศรีอาริย์องค์นี้ ทำให้ผมทวีความศรัทธาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นไปอีก เพราะครูบาอาจารย์ท่านก็ได้กล่าวไว้ชัดเจนดีแล้ว…

ผมจึงขอแนะนำให้ท่านผู้อ่าน ได้เดินทางมาทำบุญกันที่วัดไลย์และกราบพระศรีอาริย์กันนะครับ เพื่อขอพร ซึ่งผมเชื่อว่าองค์พระท่านมีความศักดิ์สิทธิ์มากอย่างแน่นอน ตามที่หลวงพ่อปานและหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านได้เคยกราบไหว้เสี่ยงทายจนเกิดปาฏิหาริย์ไว้แล้ว…

แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อๆไปนะครับ … สวัสดี…

ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด

ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108

หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory

แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด

เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com

Exit mobile version