วัดโคกพระยา เป็นวัดร้างที่สำคัญมากอีกวัดหนึ่งในสมัยอยุธยา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับวัดหน้าพระเมรุ ความสำคัญของวัดแห่งนี้คือ เป็นสถานที่สำเร็จโทษเจ้านายชั้นสูงในสมัยอยุธยา ซึ่งตามหลักฐานที่บันทึกไว้มากมายเกี่ยวกับเรื่องการสำเร็จโทษ (ประหารชีวิต) พระบรมวงษานุวงศ์ จึงน่าจะเป็นสถานที่ใกล้กับวัดหน้าพระเมรุ ใกล้เคียงกับวัดหัสดาวาส
สันนิษฐานกันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น และร้างไปหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2310
ทั้งนี้วัดโคกพระยา ตามบันทึกมีอยู่ 2 แห่ง คือ ใกล้กับวัดหน้าพระเมรุ และบริเวณกลางทุ่งภูเขาทอง
ข้อสันนิษฐานว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำเร็จโทษเจ้านายชั้นสูง เพราะว่า เป็นสถานที่ใกล้กับวังหลวง ถ้ามีการเคลื่อนย้ายนักโทษจะถึงเร็วกว่าการเดินทางไปถึงบริเวณวัดภูเขาทอง และลดความเสี่ยงเรื่องการชิงตัวนักโทษ อีกทั้งชื่อวัดหน้าพระเมรุ จึงมีส่วนเกี่ยวข้องว่าจะเกี่ยวกับวัดโคกพระยา ที่เป็นสถานที่สำเร็จโทษด้วยเช่นกัน
พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาได้กล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับวัดโคกพระยาหลายตอน ผมจะขอยกตัวอย่างบางตอนดังนี้
1. ในแผ่นดินสมเด็จพระราเมศวร (ครั้งที่ 2) ในพงศาวดารระบุว่า “สมเด็จพระราเมศวรเสด็จลงมาแต่เมืองลพบุรีเข้าในพระราชวัง กุมเอาเจ้าทองลันได้ ให้พิฆาตเสีย ณ วัดโคกพระยา”
2. ในแผ่นดินขุนวรวงศาธิราช พ.ศ. 2072 ขุนวรวงศาธิราชเจ้าแผ่นดินคิดกับเจ้าแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ให้เอาพระยอดฟ้าไปประหารชีวิตเสีย ณ วัดโคกพระยา
ที่จริงแล้วยังมีเรื่องราวอีกเยอะนะครับ จะใช้เป็นสถานที่ประหารชีวิตชนชั้นสูงอีกมากมาย
การเดินทางมาที่วัดโคกพระยา จะใช้ถนนเส้นเดียวกับการเดินทางไปวัดหัสดาวาส และวัดตะไกร แต่จะต้องเลี้ยวเข้าไปในซอยอีกเล็กน้อย
>>> แผนที่วัดต่างๆ ในอยุธยา <<<
การเดินทางไปวัดโคกพระยา
ผมได้วนเวียนหาวัดโคกพระยาสักพักใหญ่ๆ เพราะคิดว่าวัดจะตั้งติดริมถนน ก็เลยขับมอเตอร์ไซต์วนไปมาหลายรอบ และไปถามทางกับชาวบ้านแถวนั้น ก็เลยรู้ว่าเส้นทางไปวัดโคกพระยา จะต้องเลี้ยวเข้าซอยไปอีกเล็กน้อย โดยซอยไปวัดโคกพระยาจะอยู่สุดเขตวัดหน้าพระเมรุพอดีเลยครับ
ถนนเส้นนี้จะอยู่ข้างวัดหน้าพระเมรุ ติดกับวัดหัสดาวาส ให้ขับตรงไปประมาณ 500 เมตร สุดเขตวัดหน้าพระเมรุ จะมีซอยให้เลี้ยวซ้ายเลยครับ และตรงไปอีกเพียง 20 เมตรโดยประมาณจะมีซอยเล็กๆให้เลี้ยวซ้ายอีกครั้งจะเห็นวัดโคกพระยา ป้ายวัดชัดเจนเลยครับ
ผมมาถึงวัดก็มองเห็นสิ่งก่อสร้างที่ยังหลงเหลือคือ เจดีย์ประธาน วิหาร และกำแพงแก้ว มีร่องรอยซากปรักหักพังในบริเวณบางส่วน และมีบ้านเรือนตั้งอยู่โดยรอบ พื้นที่วัดในปัจจุบันถูกขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติเรียบร้อยแล้ว โดยมีเนื้อที่โดยประมาณ 2 ไร่เศษๆ
ส่วนพระพุทธรูปที่มองเห็นเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นใหม่นะครับ
ผมได้เดินดูโดยรอบ แต่ไม่ได้เข้าไปจนถึงพระวิหารมากนัก เพราะเมื่อรู้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำเร็จโทษเจ้านายชั้นสูง เลยรู้สึกปอดๆพิกล เลยเก็บภาพมาได้เล็กน้อย ประกอบกับการเดินทางมาครั้งนี้ ผมมาคนเดียว (หลายๆครั้งผมก็มาคนเดียวอยู่แล้วครับ) บางทีก็รู้สึกว่าชาวบ้านบางคนก็มองผมแปลกๆ เพราะวัดร้างแบบนี้ ไม่ค่อยจะมีใครจะมากันนัก
ส่วนท่านที่ต้องการจะเดินทางมา ก็พาเพื่อนๆมาด้วยแล้วกันนะครับ จะได้ไม่วังเวงใจแบบผม – -”
หลังจากเดินวนเวียนสักพักผมได้เดินทางไปเที่ยววัดอื่นๆ ต่ออีกสักเล็กน้อย ในใจก็คิดเหมือนกันว่า ชาตินี้จะเก็บวัดในอยุธยาได้หมดหรือเปล่า เพราะเยอะมากจริงๆ ผมก็พยายามนึกภาพอยู่ว่าในอดีตบ้านเรือนจะตั้งอยู่กันยังไง เพราะวัดมีเต็มแทบทุกตารางเมตร และในปัจจุบัน แม้หลายๆวัดจะเป็นวัดร้าง และหายสาบสูญไปก็เยอะ แต่ก็ยังเห็นได้ว่าปริมาณวัดก็ยังมีอย่างหนาแน่นเหมือนเดิม
แล้วผมจะทยอยเขียนเรื่องราวการเดินทางของผมต่อไปเรื่อยๆ ขอขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขครับ
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด