สวัสดีครับ กับวันสบายๆอีกครั้งหนึ่งของการหยุดงานสุดสัปดาห์ ครั้งนี้ผมจะเดินทางไปยังจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อไปเที่ยวและทำบุญที่วัดอโศการาม ด้วยจุดประสงค์หลักๆคือ การได้มากราบไหว้บูชาพระอรหันตธาตุสายหลวงปู่เสาร์ และหลวงปู่มั่น ถึง 28 องค์… ถ้าเราได้กล่าวถึงหลวงปู่มั่น พุทธศาสนิกชนน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักหลวงปู่มั่น และตัวผมเองนั้นก็ได้ยินชื่อของท่านมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะท่านเป็นพระอริยะสงฆ์ที่ปฏิบัติเคร่งครัดในธรรมวินัย สายวิปัสสนากรรมฐาน รักสันโดษ ตามรูปแบบของพระป่า ทำให้เป็นที่เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและบรรลุธรรมได้ง่ายกว่า
ต้องขอบอกก่อนนะครับว่า ก่อนเดินทางมาที่วัดอโศการาม ผมไม่เคยรู้จักวัดแห่งนี้มาก่อน แต่มีเพื่อนท่านหนึ่งกล่าวถึง ผมจึงเริ่มค้นหาข้อมูลทันที และจากข้อมูลทำให้ผมวางแผนเดินทางมาวัดแห่งนี้โดยไม่ต้องเตรียมตัวมากมาย พอถึงวันหยุดงานผมก็เดินทางมาวัดแห่งนี้ทันที
จุดสำคัญของวัดอโศการาม สมุทรปราการ มีดังนี้
1. พระธุงตังคเจดีย์ เป็นพระเจดีย์หมู่รวม 13 องค์ ซึ่งมีความหมายถึง ธุงควัตร 13 ข้อ
2. วิหารพระสุทธิธรรมรังสี เป็นสถานที่เก็บสังขารของท่านพ่อลี
3. อนุสาวรีย์พระเจ้าอโศกมหาราช
5. ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย ในสถานที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้
การเดินทางมายังวัดอโศการาม สมุทรปราการ
ก่อนการเดินทางผมก็กังวลใจในเรื่องการเดินทางเหมือนกัน เพราะต้องผ่านกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองที่ผมไม่ชอบที่จะขับรถเข้ามาเลย เกรงเรื่อการหลงทาง ผมจึงเริ่มศึกษาเส้นทาง ซึ่งก็ไม่ได้ยากอะไรเลย สามารถใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์มายังสมุทรปราการ สถานที่ของวัดจะตั้งอยู่ใกล้เคียงกับเมืองโบราณ ถ้าสนใจที่จะเดินทางมา ลองศึกษาเส้นทางดูครับ แม้แต่ผมเป็นคนต่างจังหวัดก็ยังสามารถมาได้ถูก ก็คงไม่ยากอะไร
เรื่องราวพอสังเขป ของวัดอโศการาม สมุทรปราการ
การก่อกำเนิดของวัดอโศการาม เกิดจากปณิธานของหลวงพ่อลี ธัมมธโร หรือท่านพ่อลี โดยเริ่มต้นจากเหตุการณ์เมื่อปี พ.ศ. 2482 ท่านพ่อลีได้เดินทางจาริกธุดงค์ไปยังพม่า และอินเดีย ไปยังสังเวชนียสถานทั้ง 4 ตำบล ที่มีความสำคัญในเหตุการณ์ต่างๆของพระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาล อันได้แก่ สถานที่ประสูติ สถานที่ตรัสรู้ สถานที่แสดงปฐมเทศนา และสถานที่ปรินิพพาน… ท่านพ่อลีได้เกิดสลดใจเพราะได้เห็นสถานที่ต่างๆทรุดโทรมไปมาก และมีบางจุดได้สูญหายไป
จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2493 ท่านพ่อลีได้จาริกไปยังประเทศอินเดียอีกครั้ง โดยจำพรรษาที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันซึ่งเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนาแก่เหล่าปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ท่านพ่อลีได้บำเพ็ญภาวนาปฏิบัติธรรม ณ ที่แห่งนั้นช่วงเวลาหนึ่ง จนได้ทราบถึงความมีพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าอโศกมหาราช ที่เป็นกำลังสำคัญหลักในการเผยแพร่พระพุทธศาสนามายังดินแดนสุวรรณภูมิ
ท่านพ่อลีจึงได้รำพึงและตั้งจิตอธิษฐานที่จะสร้างวัดอโศการาม ขึ้นที่ประเทศไทยเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงคุณของพระเจ้าอโศกมหาราชให้ได้ อีกทั้งจะสร้างพระเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขึ้นในวัดแห่งนี้
และเมื่อ ปี พ.ศ. 2503 ท่านพ่อลี ได้เริ่มสร้างพระประธานเจดีย์เพื่อบรรจุประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ให้เป็นศูนย์กลางดินแดนธรรม กรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่าน ตลอดไป
หลังจากนั้นไม่นาน ท่านพ่อลี ได้มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2504
ในหลวงเสด็จเป็นองค์ประธานในการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่คอระฆังของพระประธานเจดีย์ เมื่อวันที่ 24 เมษายน และ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2509
คลิปเสียงหลวงตามหาบัวกล่าวถึงท่านพ่อลี ธัมมธโร
ต่อไปผมจะพาเดินทางไปชมสถานที่ต่างๆของวัดอโศการาม กันเลยครับ
ผมเดินทางตั้งแต่เช้าจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เวลาโดยประมาณ 06.00 น. เหตุผลที่ผมเดินทางตั้งแต่เช้าเพราะจะเดินทางไปยังวัดอื่นๆด้วย คือ วัดมงคลโคธาวาส และ วัดหงษ์ทอง ซึ่งจะใช้เส้นทางเดียวกัน…พอถึงเวลาเดินทาง ทำเอาผมใจไม่ดีเอาซะเลย เพราะเกิดฝนตกหนักตั้งแต่เช้า ท้องฟ้ามืดครึ้ม แต่ด้วยความตั้งใจไว้แล้ว ก็เลยออกเดินทางตามปกติ … ระหว่างการเดินทาง ไม่สามารถทำความเร็วได้มากนักเพราะฝนตกตลอดเส้นทาง ผมขับรถตั้งแต่อยุธยา ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ ไปบางนา และไปลงที่สำโรง ฝนก็ยังไม่หยุดตกแถมตกอย่างหนัก จนกระทั่งสักพัก ฝนก็เริ่มซาลง ทำเอาใจผมแช่มชื่นขึ้นมาทันที
และในที่สุดเมื่อเดินทางใกล้จะถึงวัดฝนก็หยุดสนิท ท้องฟ้าเริ่มแจ่มใส ในใจผมก็คิดฟ้าหลังฝนมันช่างสดใสซะจริงๆ ยอมรับว่าจิตใจเบิกบานมาก ตอนแรกคิดว่าจะมาเที่ยวแบบเปียกๆซะอีก
พอมาถึงวัด จุดแรกที่ผมเห็นถึงความยิ่งใหญ่สวยงามคือ พระธุตังคเจดีย์ เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุในยุคปัจจุบันถึง 28 องค์ โดยการคัดเลือกของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
พระธุงตังคเจดีย์ เป็นพระเจดีย์หมู่รวม 13 องค์ ซึ่งมีความหมายถึง ธุงควัตร 13 ข้อ ได้แก่
1. การสมาทานผ้าบังสุกุลเป็นวัตร
2. การสมาทานธุดงค์ด้วยการถือใช้ผ้าเพียงสามผืนเป็นวัตร
3. การสมาทานบิณฑบาตเป็นวัตร
4. การเที่ยวไปบิณฑบาตลำดับเรือนเป็นวัตร
5. การสมาทานถือธุดงค์การฉันอาสนะเดียวเป็นวัตร
6. การสมาทานฉันเฉพาะอาหารในบาตรเป็นวัตร
7. การสมาทานไม่รับภัตรที่นำมาส่งทีหลังเป็นวัตร
8. การสมาทานอยู่ป่าเป็นวัตร
9. การสมาทานอยู่รุกขมูลโคนไม้เป็นวัตร
10. การสมาทานถืออยู่กลางแจ้งเป็นวัตร
11. การสมาทานอยู่ในป่าช้าเป็นวัตร
12. การสมาทานยินดีในเสนาสนะที่ถูกจัดให้เป็นวัตร
13. การสมาทานไม่นอนเป็นวัตร
เจดีย์ประธานอยู่ตรงกลางขนาดใหญ่ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุโดยพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จเป็นองค์ประธานในการบรรจุเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2509
ปัจจุบันได้ปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 มาจนเสร็จ โดยพระธรรมวิสุทธิกมล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) เป็นองค์อุปถัมป์สร้าง
ชั้นล่างสุดของพระธุตังคเจดีย์ จะประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และมีรูปเหมือนของพระสงฆ์รูปต่างๆในอดีต เมื่อผมได้ชมบรรยากาศภายในสักพัก ก็เดินขึ้นไปยังชั้ต่อไป
บริเวณชั้นที่ 2 ของ พระธุตังคเจดีย์ ถือได้ว่าเป็นจุดไฮไลท์สำคัญสำหรับักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นสถานที่ประดิษฐานพระอรหันตธาตุสายหลวงปู่มั่น ถึง 28 องค์ และมีรูปเหมือนของแต่ละองค์ประดิษฐานอยู่
รูปเหมือนพระสงฆ์แต่ละองค์นั้น จะประดิษฐานพระอรหันตธาตุไว้ด้านหน้าทุกองค์ ทำให้เราสามารถมองเห็นและกราบไหว้ได้อย่างใกล้ชิด
>>> ดูรูปพระอรหันตธาตุ ทั้ง 28 องค์ ได้ที่ นี่ <<<
นอกจากที่เราจะได้ใกล้ชิดกับพระอรหันตธาตุองค์ต่างๆแล้ว เรายังสามารถนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมกันได้ โดยทางวัดได้จัดสรรพัดลม เพื่อระบายความร้อนไว้ให้ด้วย ดังนั้น ถ้าเดินทางมากันแล้ว จะต้องรักษาความสงบด้วยนะครับ
คลิปเสียงหลวงตามหาบัวกล่าวถึง พระธุงตังคเจดีย์
รูปพระอรหันตธาตุ ทั้ง 28 องค์
รูปภาพพระอรหันตธาตุ ทั้ง 28 องค์ ผมได้ใส่ไว้ในอีกบทความหนึ่งเพราะเกรงว่าบทความนี้จะยาวจนเกินไป สามารถดูได้ที่ ลิ้งค์ด้านล่างนี้ครับ
>>> รูปพระอรหันตธาตุ ทั้ง 28 องค์ ที่นี่<<<
หลังจากได้ใช้เวลาอยู่ในพระธุตังคเจดีย์ เป็นเวลาพอสมควร ผมจึงไปพระวิหารสุทธิธรรมรังสีต่อไป
ภายในวิหารสุทธิธรรมรังสี จะประดิษฐานพระพุทธชินราชองค์จำลอง ภายในมีความสวยงามจากลายวิจิตรและประดับไป ส่วนผนังมีภาพวาดสวยงาม
หลายๆคนที่เดินทางมาที่วัดอโศการาม จะมานั่งสมาธิเพื่อสงบจิตใจกันเยอะ ซึ่งสามารถใช้พัดลมเปิดระบายความร้อนกันได้นะครับ ทางวัดได้จัดเตรียมไว้ให้หลายตัว
และอีกจุดหนึ่งที่สำคัญของวิหารสุทธิธรรมรังสี คือเป็นสถานที่เก็บสังขารของท่านพ่อลี … พุทธศาสนิกชนจะเข้ามากราบไหว้กันมาก
บรรยากาศโดยรวมสงบดีครับ แม้จะมีคนเดินทางมากันเยอะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียบรรยากาศ บางกลุ่มมากันเป็นครอบครัว ยิ้มแย้มแจ่มใสกันมาก บรรยากาศพักผ่อนดีๆแบบนี้ผมชอบมากจริงๆ
หลังจากนั้นผมก็เดินไปยังวิหารหลวงพ่อเศียรและไปชมต้นพระศรีมหาโพธิ์
หลวงพ่อเศียร ประดิษฐานที่วิหารหน้าพระอุโบสถ แต่เดิมนั้นท่านพ่อลี ได้มีจุดประสงค์ให้หล่อเศียรพระเพื่อนำไปประกอบกับองค์พระที่วัดเวฬุวัน จังหวัดลพบุรี แต่ได้เกิดเหตุขัดข้องบางประการ ไม่สามารถอัญเชิญไปได้ ท่านพ่อลีจึงให้สร้างวิหารและประดิษฐานหลวงพ่อเศียรไว้ที่นี่
ตำนานศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อเศียร
อ่านตำนานศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อเศียรที่ลิ้งก์ >> https://www.faiththaistory.com/lp-sian
ภายในวัดจะมีการปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ ที่ได้อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย ในสถานที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ มีความเชื่อกันว่า เมื่อได้รดน้ำต้นศรีมหาโพธิ์ ที่นี่แล้วจะมีปัญญาปราดเปรื่อง
บริเวณต้นศรีมหาโพธิ์ เป็นจุดสุดท้ายที่ผมได้เดินทางมาถึง จากนั้นผมก็ได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังวัดอื่นๆต่อไป สำหรับบรรยากาศโดยรวม สำหรับผมนั้นประทับใจอย่างมาก เพราะภายในพุทธสถานเอื้ออำนวบต่อการพักผ่อน บางคนก็มานั่งสมาธิ ที่วิหารหลวงพ่อเศียรมีต้นไม้ร่มรื่นมากมายคลายร้อนไปได้เยอะ ผมตั้งใจว่าจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีกเพราะไม่รู้สึกเบื่อเลย
สุดท้ายนี้ ขอแนะนำให้มาเที่ยวและทำบุญกันที่นี่นะครับ แวะมาเที่ยวกินอาหารทะเล และกราบไหว้พระอรหันตธาตุของพระอรหันต์ ที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนโดยทั่วไป และเป็นการพักผ่อนของครอบครัวไปด้วย…ธรรมะสวัสดี…
คลิปวิหารหลวงพ่อเศียรและต้นศรีมหาโพธิ์
คลิปวิหารสุทธิธรรมรังสี
ฟังแอดมินเล่าเรื่อง
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
เว็บไซต์หลัก www.faiththaistory.com