Tag Archives: โบราณ

วัดปราสาท จิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ที่สุดในนนทบุรี

  YouTube : FaithThaiStory สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านเข้าไปชมความสวยงามของอุโบสถวัดปราสาท ที่ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณที่ถือได้ว่ามีความเก่าแก่ที่สุดในนนทบุรี แม้จะลบเลือนไปมาก แต่ก็ยังคงเห็นความงดงามวิจิตร วัดปราสาท ตั้งอยู่ที่ ต.บางกร่าง อ.เมือง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยา ที่มีความสวยงามของอุโบสถและภาพจิตกรรมฝาผนังโบราณอยู่ภายใน ฐานอุโบสถแอ่นคล้ายโค้งเรือสำเภา เป็นรูปแบบที่นิยมในสมัยอยุธยา หน้าบันอุโบสถเป็นไม้จำหลักรูปพระนารายณ์ทรงครุฑที่มีความสวยงามยิ่งนัก แต่เป็นที่น่าเสียดายที่พญาครุฑของเดิมนั้น ถูกลักขโมยไป ซึ่งปัจจุบันทางกรมศิลปากรได้ทำขึ้นใหม่ ติดตั้งไว้ทดแทนของเดิม อุโบสถมีลักษณะเป็นมหาอุด คือ ผนังทั้งสองด้านไม่มีหน้าต่าง ผนังด้นหลังพระประธานมีเพียงช่องแสงสว่างขนาดเล็กเท่านั้น ในอุโบสถมีพระประธานประดิษฐานบนฐานชุกชีสูง รายล้อมไปด้วยพระสาวกและหมู่พระพุทธรูปหลายองค์ ภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณภายในอุโบสถเขียนด้วยสีฝุ่น แม้จะเลือนลางไปมากกว่า 50% ซึ่งเป็นไปตามกาลเวลา แต่ยังมองเห็นลวดลายอันวิจิตร โดยภาพจิตกรรมฝาผนังตอนบนเป็นภาพอดีตพระพุทธเจ้า ถัดลงมาเป็นภาพในชาดกและพุทธประวัติ คั่นด้วยภาพเทพนม ผนังด้านหลังและหน้าพระประธานคงเคยมีภาพจิตรกรรมแต่เลือนหายไปหมดสิ้นแล้ว ตามประวัติวัดกล่าวว่า วัดปราสาทแห่งนี้ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พุทธศตวรรษที่ 22 หรืออยุธยาตอนกลาง เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวในนนทบุรี ทางวัดได้จัดแสงไฟส่องสว่างภายในอุโบสถทำให้มีบรรยากาศที่สวยงามยิ่งนัก จึงมีผู้เดินทางเข้าชมอยู่เป็นระยะตลอดทั้งวัน เพื่อเข้าชมความงดงามของอุโบสถ รวมถึงมานั่งทำสมาธิให้จิตสงบในช่วงเวลาหนึ่ง ความงดงามภายในของอุโบสถด้วยการจัดแสงไฟเช่นนี้ มีอีกแห่งหนึ่งที่ผมประทับใจคือ ที่วัดเพลง ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เป็นโบราณสถานวัดร้างในสมัยอยุธยา ที่น่าไปท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งเช่นกันครับ นอกจากความงดงามของอุโบสถ ภายในวัดยังมีสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่อื่นๆเช่นศาลาไม้ หมู่กุฏิเก่าให้ได้เที่ยวชม แต่เนื่องด้วยในวันที่ผมเดินทางไปนั้น มีฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงได้เข้าชมเพียงภายในอุโบสถเท่านั้น แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าที่ได้เห็นความงดงามของจิตรกรรมในครั้งนี้ ท่านที่สนใจเดินทางไปชมความงดงาม สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ทุกวัน โดยอุโบสถจะเปิดตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00… Read More »

พระพุทธรูปในโลงพระศพ วิหารโบราณ วัดสรรพยาวัฒนาราม ชัยนาท

YouTube : FaithThaiStory ผมมีโอกาสเดินทางไปจังหวัดชัยนาท เพื่อไปสักการะรูปหล่อหลวงพ่อกวย ณ วัดโฆสิตาราม จึงได้เดินทางไปเที่ยวชัมโบราณสถานที่วัดสรรพยาวัฒนารามเพราะอยู่ห่างกันไม่มากนัก วัดสรรพยาวัฒนาราม ตั้งอยู่ที่ ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท สังกัดสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นราวปี พ.ศ.2410 ปลายรัชกาลที่ 4 เดิมเรียกชื่อว่า วัดเสาธงหิน และ วัดวังหิน เพราะหน้าวัดติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสมัยก่อนเป็นวังน้ำวน น้ำหมุนเป็นเกลียวเห็นเป็นเสาหิน ต่อมาปีพ.ศ.2495 ได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็นวัดสรรพยาวัฒนาราม เป็นวัดประจำอำเภอในปัจจุบัน สิ่งปลูกสร้างในวัดสรรพยาวัฒนาราม ที่สำคัญ ได้แก่ วิหารน้อย เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก่ออิฐถือปูน หลังคาจั่วทรงไทยเป็นเครื่องไม้ มุงกระเบื้องดินเผา ผนังด้านหน้าเป็นประติกรรมพระพุทธฉายปางถวายเนตรมีพระสาวกพนมมือเบื้องซ้ายและขวา ด้านบนเป็นจิตกรรมภาพเทพธิดาผนังด้านหลังประดับประติมากรรมพระพุทธเจ้าปางแสดงธรรม ภายในประดิษฐานโลงพระบรมศพพระพุทธเจ้า มีพระมหากัสสปะเถระพนมมือที่เบื้องพระพุทธบาทที่โผล่ยื่นออกมา แต่ความน่าสนใจพิเศษคือ การสร้างประติมากรรมนี้ จะเปิดโลงด้านบน ทำให้เรามองเห็นพระพุทธรูปนอนหงาย เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งเสด็จดับขันธปรินิพพาน วิหารแกลบ อยู่ข้างวิหารน้อย เป็นวิหารเปิดโล่ง ประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์ เจดีย์ มีเจดีย์ทรงปราสาทยอด ฐานสิงห์ซ้อนสามชั้น รองรับด้วยฐานเขียงย่อมุมไม้สิบสอง มีฐานทักษิณ เรือนธาตุเป็นมณฑป มีบันไดทางขึ้น 2 ทาง และมีเจดีย์รายหน้าวิหารน้อยอีกหนึ่งองค์ นอกจากนี้ภายในอุโบสถประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลองขนาดหน้าตัก 3 ศอก และประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากศรีลังกา เนื่องในวโรกาสเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในสมัยรัชกาลที่ 9 ข้างอุโบสถมีมณฑป ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อเฟื่องอดีตเจ้าอาวาสที่ได้รับความเคารพศรัทธาจากคนในท้องที่ ความโดเด่นคือวิหารน้อย… Read More »

วัดเทียนถวาย วิหารโบราณสุดขลัง และตำนานเก่าแก่ก่อนอยุธยา

YouTube : FaithThaiStory สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปท่องเที่ยวปทุมธานี หลังจากที่ไปท่องเที่ยวไหว้พระที่วัดไก่เตี้ย สามโคก ปทุมธานีแล้ว จึงมาชมโบราณสถาน ณ วัดเทียนถวาย ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตำนานว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 1880 เล่ากันว่า พระเจ้าอู่ทองในฐานะเป็นเจ้าเมืองขณะนั้น ทรงรับสั่งให้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นเมื่อครั้งที่ได้อพยพหนีโรคระบาดมาตั้งกองเกวียนพักอาศัย ยามถึงกลางคืนจะจุดไฟสว่างไสว โดยพักอาศัยอยู่ประมาณ 1 เดือนเศษ ก่อนที่จะอพยพกลับเมือง จึงได้พาขนานนามวัดแห่งนี้ว่า “วัดเกวียนไสว” และต่อมาได้เรียกว่า “วัดเทียนถวาย” บางกระแสว่าชื่อวัดมาจากคำว่า “เกรียนสวาย” มาจากภาษาเขมรที่แปลว่า “ป่ามะม่วง” พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เคยเสด็จทางชลมารคพร้อมด้วยข้าราชบริพารเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ร.ศ. 125 (พ.ศ. 2449) ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ 20 บาท เพื่อเป็นพระราชกุศล พร้อมกับโปรดให้ถ่ายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับพระธรรมานุสสารี หลวงพ่อสว่าง ธมฺมโชโต เจ้าอาวาสขณะนั้นด้วย ความโดดเด่นของวัดได้แก่อุโบสถเก่า ซึ่งรัชกาลที่ 5 เคยถ่ายภาพอุโบสถหลังนี้ไว้ด้วย ครั้งเสด็จประพาส เมื่อปี 2449 โดยรอบอุโบสถมีใบเสมาแบบอยุธยาตอนปลายล้อมรอบ ทั้ง 8 ทิศ  ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประธานแบบอู่ทองปางมารวิชัย และพระปางป่าเลไลย์ หน้าบันอุโบสถมีลวดลายปูนปั้นก้านขดสวยงาม มีสัตว์ในป่าหิมพานต์คือ อรหันประดับไว้ด้วย มีลักษณะรูปร่างตัวและปีกเป็นนก มีสองเท้า ศีรษะเป็นมนุษย์… Read More »

วัดเจตวงศ์(ร้าง) ปทุมธานี จิตรกรรมโบราณอดีตพระพุทธเจ้า

ข้อมูลทั่วไป วัดเจตวงศ์(ร้าง) วัดเจตวงศ์(ร้าง) ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี เป็นโบราณสถานวัดร้าง มีสิ่งปลูกสร้างสำคัญ คือ อุโบสถที่มีภาพจิตรกรรมโบราณที่สวยงามและหลงเหลืออยู่ และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายรูปสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมโบราณ วัดเจตวงศ์ไม่พบบันทึกประวัติการสร้าง แต่สันนิษฐานจากรูปแบบสถาปัตยกรรมฐานอุโบสถมีบัวลูกแก้วอกไก่ ที่น่าจะสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ทั้งนี้โดยรอบอุโบสถพบฐานใบเสมาทั้ง 8 ทิศ แต่ไม่พบใบเสมา  รูปแบบอุโบสถเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน หน้าบันประดับลวดลายปูนปั้นพรรณพฤกษา มีเทพพนมอยู่ตรงกลาง มีพาไลชายคายื่นออกมา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประธานปางมารวิชัยบนฐานชุกชีประดับกระจก มีพระอันดับลดหลั่นซ้ายและขวาข้างละ 1 องค์ ภาพจิตรกรรมโบราณหลังพระประธาน หลงเหลือภาพอดีตพระพุทธเจ้าประทับในซุ้มเรือนแก้วเพียงองค์เดียว ผนังหุ้มกลองหน้าด้านบนเป็นภาพพุทธประวัติตอนพระพุทธเจ้าชนะมาร ผนังด้านข้างเหนือหน้าต่างเป็นภาพอดีตพระพุทธเจ้าในซุ้มเรือนแก้วมีพระสาวกประนนมือซ้ายและขวา เหนือขึ้นไปเป็นภาพเหล่าเทวดา ภาพจิตรกรรมช่องระหว่างหน้าต่าง เป็นภาพในพุทธประวัติแต่ลบเลือนไปเกือบทั้งหมด การเดินทาง วัดจะอยู่ในซอยวัดชินวราราม ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยตั้ง Google map เดินทางไปถึงได้สะดวก เมื่อไปถึงแล้วสามารถเปิดประตูเข้าชมอุโบสถได้ครับ @tum_faiththaistory จิตรกรรมฝาผนังโบราณ วัดเจตวงศ์(วัดร้าง) เมืองปทุมธานี เป็นภาพอดีตพระพุทธเจ้า #วัดร้าง #faiththaistory #ปทุมธานี #โบราณ ♬ แขกไทร (เดี่ยวขลุ่ย) – สำนักการสังคีตกรมศิลปากร ช่องทางการติดตาม Facebook เพจภารกิจเที่ยววัด – Faiththaistory.com Facebook กลุ่มเที่ยววัดและโบราณสถาน  YouTube Channel FaithThaiStory Instagram TikTok

จารึกโบราณ ถ้ำวิมานจักรี สระบุรี เส้นทางประพาสหลายรัชกาล

คลิปจาก FaithThaiStory ท่องเที่ยวสระบุรี ชมถ้ำวิมานจักรีได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478 ตั้งอยู่ไหล่เขาดอกไม้ ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เป็นหนึ่งในถ้ำของเทือกเขาวง ในหลวงรัชกาลที่ 4 ค้นพบถ้ำนี้เมื่อครั้งทรงผนวช และโปรดเกล้าฯให้ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณปางประทับยืนไว้ในถ้ำแห่งนี้ เมื่อปี พ.ศ.2370 ซึ่งขณะนั้นตรงกับรัชสมัยของรัชกาลที่ 3 ซึ่งพระองค์ดำรงพระยศเป็นเจ้าฟ้ามงกุฎ การอัญเชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐานไว้ในถ้ำ ปรากฏการจารึกในผนังถ้ำแห่งนี้อีกด้วย นอกจากนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 5 ก็เคยเสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ เมื่อปีพ.ศ.2426 และได้จารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ไว้ที่ผนังถ้ำ แต่ปัจจุบัน จารึก จปร.นี้ได้ชำรุดหลุดหายไปด้วยแรงระเบิดจากการสัมปทานภูเขาหิน และในปี พ.ศ.2495 ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ก็เคยเสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้เช่นกัน เนื้อหาจารึกนี้ จารึกขึ้นในปี พ.ศ.2370 ตรงกับรัชกาลที่ 3 โดยมีเนื้อหาพอสังเขปว่าพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฎ ซึ่งต่อมาคือรัชกาลที่ 4 ได้ทรงอัญเชิญพระพุทธรูปจากรุงเทพ มาประดิษฐานไว้ในถ้ำวิมานจักรีแห่งนี้ เพื่อเป็นสถานที่สักการะบูชาของเหล่าภิกษุสงฆ์ สามเณร และประชาชนทั่วไป เป็นสิริมงคลก่อนเดินทางไปสักการะรอยพระพุทธบาทต่อไป รวมถึงพระองค์ได้อำนวยพรแผ่ส่วนกุศลแด่ผู้ที่เดินทางมาสักการะ ทั้งนี้ ในจารึกได้ระบุไว้ด้วยว่า อย่าเข้าใจผิดคิดว่ามีการฝังสมบัติไว้ในถ้ำนี้ ไม่ควรขุนค้นเพราะเสียงแรงเปล่าและยังเกิดบาปอกุศลอีกด้วย ขอบคุณข้อมูลจาก ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) จากประชุมพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 4 ประกาศเรื่อง-ประดิษฐานพระพุทธรูปในถ้ำวิมานจักรี กล่าวถึงพระพุทธรูปที่อัญเชิญมาครั้งนั้น เป็นพระพุทธรูปโบราณ เดิมประดิษฐานในถ้ำแขวงเมืองอุทัยธานี มีลักษณะงดงาม… Read More »

ขุดพบเศียรพระพุทธรูปโบราณอายุพันปี สวยงามที่สุด ณ เมืองโบราณซับจำปา

https://youtu.be/F1anpvudLhU วันนี้ผมจะพาไปชมความงดงามของเศียรพระพุทธรูปโบราณที่มีอายุกว่าพันปี หรือสมัยทวารวดี ที่มีความสมบูรณ์สวยงามมากที่สุดเศียรหนึ่งที่เคยค้นพบ เศียรพระพุทธรูปนี้ ขุดพบที่เมืองโบราณซับจำปา อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี จากการศึกษาและสำรวจทางโบราณคดี สันนิษฐานอายุราว พุทธศตวรรษที่ 11 – 12 ก่อนการค้นพบเมืองโบราณซับจำปา ได้พบโบราณวัตถุต่างๆตามพื้นที่เกษตรกรรมโดยรอบ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ตั๊กแตนปาทังการะบาดในพื้นที่ ราวปี พ.ศ.2513 กรมการเกษตรจึงส่งอากาศยานเพื่อโปรยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช จึงได้เห็นสัณฐานคูเมืองโบราณซับจำปาทางอากาศ คล้ายรูปหัวใจ จึงเกิดข่าวโด่งดังแพร่กระจายในแวดวงโบราณคดี และเริ่มมีการสำรวจทางโบราณคดีนับแต่นั้นมา โดยนำทีมสำรวจโดยอาจารย์วีระพันธ์ มาลัยพันธ์ อาจารย์วีระพันธ์ มาลัยพันธ์ ได้กล่าวว่าการสำรวจเมืองโบราณซับจำปามีความน่าสนใจเพราะมีความผสมผสานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์และยุคประวัติศาสตร์ในสมัยทวารวดี เช่น มีการขุดพบเครื่องมือเครื่องใช้ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และพบเศษภาชนะ รวมถึงรูปปั้นตุ๊กตาดินเผายุคประวัติศาสตร์ในสมัยทวารวดีเป็นต้น การขุดสำรวจทางโบราณคดี ได้ค้นพบโบราณวัตถุสำคัญหลายชิ้น แต่ในสมัยนั้น การควบคุมยังลำบากเพราะเป็นพื้นที่ห่างไกล ทำให้มีโบราณวัตถุบางชิ้นได้หลุดรอดถูกลักขโมยไปขายในตลาดต่างประเทศ โบราณวัตถุที่ขุดพบในเมืองโบราณคดีซับจำปามีมากมาย จัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ทั้งที่พิพิธภัณฑ์ซับจำปา และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ลพบุรี ส่วนโบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่ขุดพบคือ เศียรพระพุทธรูปโบราณ สมัยทวารวดี อายุกว่าพันปี ราวพุทธศตวรรษที่ 11-12 ที่มีความงดงามและสมบูรณ์มากเศียรหนึ่ง ภาพด้านบนที่ท่านได้เห็นในขณะนี้ เป็นภาพเมื่อครั้งขุดพบเศียรพระพุทธรูปครั้งแรก จากเพจเมืองโบราณซับจำปา และชมรมรักษ์เมืองโบราณซับจำปาและป่าจำปีสิรินธร คุณศุภชัย นวการพิศุทธิ์ นักโบราณคดี ผู้ขุดสำรวจในไซต์งานครั้งนั้น ได้กล่าวว่าตั้งแต่เขาได้เรียนและอ่านหนังสือทางโบราณคดี ไม่เคยพบเศียรพระพุทธรูปโบราณเก่าแก่ที่สวยงามขนาดนี้ โดยปกติจะพบพระพุทธรูปสมัยทวารวดีเป็นแบบพระเนตรโปนพระโอษฐ์ใหญ่ แต่การค้นพบครั้งนี้ถือว่ามีความงดงามแตกต่างจากข้อมูลที่เคยรับรู้มาก่อน และโบราณวัตถุสำคัญอีกชิ้นที่ค้นพบคือ ฐานและเสาธรรมจักรแปดเหลี่ยม มีจารึกภาษาบาลี ตัวอักษรปัลลวะ คาถาในพระไตรปิฎก 4 คาถา อายุราวพุทธศตวรรษที่… Read More »