วิหารหลวงพ่อคอหัก(หลวงพ่อสุริยมุนี) วัดโคกกระบือ(ร้าง) สถานีรถไฟอยุธยา… สวัสดีครับท่านผู้ติดตามและรักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธาทุกท่าน วันนี้แอดมินตั้มจะพาทุกท่านเดินทางไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เราจะไปเที่ยวชมวัดร้างเดิม ที่มีชื่อว่าวัดโคกกระบือ คนในพื้นที่ไม่คุ้นชื่อนี้นัก แต่จะไปคุ้นเคยในชื่อวิหารหลวงพ่อคอหัก
ด้วยชื่อที่แปลก ทำให้ผมเกิดความสนใจที่จะเดินทางไปชมสถานที่ และหาที่มาของชื่อนี้
วิหารหลวงพ่อคอหักถูกสร้างภายหลังบนพื้นที่วัดร้างที่ชื่อวัดโคกกระบือ ติดสถานีรถไฟ อยุธยา ซึ่งทราบชื่อนี้ได้จากแผนที่โบราณจากกรมศิลปากร
จากตำแหน่งวัดโคกกระบือ จะอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟอยุธยา ซึ่งการเดินทางสะดวกมากครับ
หลังจากเดินทางมาถึงสถานีรถไฟและหาที่จอดรถได้เป็นที่เรียบร้อย เราต้องเดินเข้าไปยังสถานีรถไฟและข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง
เมื่อข้ามทางรถไฟมาอีกฝั่ง จะมีสะพานเล็กๆเชื่อมกับหมู่บ้าน และมีป้ายบอกวิหารหลวงพ่อสุริยมุนี หลวงพ่อคอหัก อย่างชัดเจน
เมื่อข้ามฝั่งมาจะเห็นที่ทำการชุมชน และวิหารจะอยู่ถัดเข้าไปเล็กน้อย
หลวงพ่อสุริยมุนี (หลวงพ่อคอหัก) เป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก สันนิษฐานอายุในสมัยทวารวดีสลักจากศิลาเนื้อละเอียดสีเขียวเข้มเจือดำ ขนาดหน้าตักกว้าง 69 ซม. สูง 89 ซม. เดิมพระพักตร์กระเทาะหลุดหายไปและได้รับการบูรณะราวปี พ.ศ.2507
เรื่องราวตำนานหลวงพ่อสุริยมุนี (หลวงพ่อคอหัก)
จากหนังสือประวัติพระสุริยมุนี ศรียะลา ได้กล่าวถึงประวัติหลวงพ่อคอหักไว้ว่า คุณพวง อุณจักร ได้เล่าไว้เมื่อปี พ.ศ.2475 ได้ย้ายมาจากอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช มาดำรงตำแหน่งนายสถานีรถไฟอยุธยาในสมัยนั้น และได้เห็นโคกแห่งหนึ่งเป็นที่เลี้ยงกระบือของชาวบ้าน (สันนิษฐานน่าจะเป็นที่มาของชื่อวัดโคกกระบือ) ที่โคกแห่งนี้มีซากพระพุทธรูปถูกทิ้งกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ จึงได้เก็บรวบรวมมาไว้เป็นที่เป็นทาง รวมถึงการแผ้วถางทำความสะอาดพื้นที่ และนำพระพุทธรูปมาประกอบร่วมกับชาวบ้าน และขนานนามว่า “หลวงพ่อคอหัก” และมีพิธีพุทธาภิเษกโดยหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม อยุธยา เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2507
ครั้งนั้น คุณพวงได้ชักชวนเสมียนและพนักงานสถานีรวมเงินกันเพื่อซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หุ้นละ 10 สตางค์ รวม 10 หุ้น เป็นเงิน 1 บาท
และได้ทำการขอพรหลวงพ่อคอหัก ให้ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล ปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 1 ได้เงินมา 80,000 บาท
จึงได้นำเงินบางส่วนมาสร้างวิหารไม้ ถวายหลวงพ่อคอหัก และหาช่างมาซ่อมแซมพระพุทธรูปต่อเศียรขึ้นอีกหลายองค์ ซึ่งประดิษฐานในพระวิหารแห่งนี้
ในช่วงหลังมีผู้มาขอพรต่อหลวงพ่อคอหักมากมาย จนได้รับโชคลาภกันมาก จึงมีการบูรณะวิหารเป็นปูนให้ถาวรขึ้น
หลังการสร้างวิหารมั่นคงถาวร ชาวบ้านต่างพากันคิดว่าจะเรียกชื่อหลวงพ่อคอหักต่อไปอีกหรือไม่
จนกระทั่งมีพระสงฆ์รูปหนึ่งได้มาปฏิบัติภาวนา ณ บริเวณนี้ และได้เปลงเสียงว่า “พระสุริยมุนี” จึงขนานนามหลวงพ่อสุริยมุนี ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
กล่าวปิดท้าย
วิหารหลวงพ่อสุริยมุนี (หลวงพ่อคอหัก) เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน มีการรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี และเป็นที่นับถือมากราบขอพรของนักเดินทางด้วยรถไฟและพนักงานสถานีรถไฟ อยุธยา
ท่านใดที่เดินทางด้วยรถไฟ แล้วมาถึงอยุธยา สามารถเข้ามากราบขอพรและเที่ยวชมสถานที่กันได้ทุกวันครับ
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด
เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com