ตามรอยเสด็จประพาส ร.๕ วัดศาสดา วัดร้างอยุธยาที่ไม่เคยรู้… สวัสดีครับท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางตามรอยเสด็จประพาสในรัชกาลที่ ๕ โดยเราจะเดินทางไปที่วัดศาสดา ซึ่งปัจจุบันเป็นวัดร้างไปเสียแล้ว มีซากเจดีย์โบราณที่ถูกปกคลุมด้วยต้นโพธิ์ ที่ยังหลงเหลือให้เห็นเป็นสัญลักษณ์
วัดศาสดาตั้งอยู่ในเขตบ้านเรือน แต่เราสามารถเข้ามาถ่ายรูป ท่องเที่ยวกันได้ แต่อาจจะมีเหล่าสุนัขคอยเห่ารบกวนสมาธิบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ต้องกังวลครับ (ไม่กัด)
เมื่อผมเดินทางมาถึง จะเห็นต้นโพธิ์สูงใหญ่ชัดเจน แลดูช่างคลาสสิคเป็นอย่างยิ่ง
ผมได้สอบถามป้าที่บ้านทางเข้าเขตวัดศาสดา ป้าบอกว่ากรมศิลปากรจะส่งเจ้าหน้าที่คอยมาทำความสะอาดและตัดต้นไม้ไม่ให้รกตามเวลาที่กำหนดไว้
ในเขตพื้นที่บ้านแต่เดิมจะมีแนวกำแพงและผนังโบสถ์ แต่ปัจจุบันได้ทลายหายไปหมดสิ้นแล้ว
แนวผนังอาคาร ยังพอให้เห็นเศษอิฐโบราณที่กระจัดกระจายอยู่ครับ
จากนั้นผมได้ขึ้นไปสำรวจเจดีย์ด้านบน ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังเพราะมีความสูงชัน
ตามรอยเส้นทางเสด็จประพาส รัชกาลที่ ๕
วัดศาสดา เป็นจุดหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จมาถึง ปรากฏในพระราชหัตถเลขา เรื่องเสด็จประพาสลำน้ำมะขามเฒ่าและพระราชกระแสเรื่องจัดการทหารมณฑล กรุงเทพฯ ในรัชกาลที่ ๕
มีเนื้อหาเกี่ยวกับวัดศาสดาบางตอนดังนี้
๒๗ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๗ (พ.ศ ๒๔๕๑)
ลงเรือล่องลงมาเข้าคลองบางนางร้า หาที่พักทำกับข้าวไม่เหมาะจนมาออกปากคลอง เลยขึ้นไปดูข้างเหนือเห็นว่าจะช้าเสียเวลาไปจึงได้แล่นกลับลงมา ไม่ช้าเท่าใดก็ถึงวัดวรนายกรังสรรค์วัดเขาดิน ที่จริงภูมิฐานดี แลเห็นเด่นแต่ไกล เป็นที่ประชุมไหว้พระใหญ่ไม่มีที่ไหนเท่าสุพรรณ อ่างทอง ลพบุรีก็ลงมาพร้อมกันหมด เสียแต่การก่อสร้างไม่แข็งแรงเลยพูนดินขึ้นไปที่โคกโบสถ์สูงครากแบะจะพัง มาไลยเจดีย์ปูนยังไม่ทันจะดำมีต้นไม้ขึ้นมาก ทำกำมะลอเสียแต่แรกแล้ว ไม่ได้แวะเลยลงมาตามลำน้ำโพธิ์สามต้นไปทางบางขวดถึงปากช่องที่จะเข้าไปวัดตูม วัดศาสดา จอดเรือโมเตอร์ที่นั้นลงเรือสามสิบหกศอกแจวเข้าไป
หยุดทำกับข้าวที่วัดศาสดา ซึ่งมีการเปรียญน้ำพอปริ่ม ๆ ที่จริงไม่เห็นท่าทางที่น่าจะอด หน้าวัดก็มีบ้าน การเปรียญก็ดูเป็นที่เทศนาวาการกันอยู่ แต่มีพระองค์เดียวเท่านั้น
พระองค์เดียวก็มิใช่อยู่อย่างจนๆ อยู่กุฏิฝากระดานยังใหม่ มีคฤหัสถ์ที่เป็นพวกพ้องนั่งอยู่เป็นหลายคน เรือท่านเล็กมาแต่ป่าโมกพบกันได้เรียกให้หยุดพักที่นี้ กินข้าวแล้วขึ้นดูพระอุโบสถและวิหาร มีพระเจดีย์กลมองค์หนึ่งอยู่ตรงหลังวิหาร อุโบสถและวิหาร ๔ ห้อง ๒ หน้าต่างเท่ากัน วิหารไม่มีหลังคา มีพระพุทธรูป ๖ องค์ เป็นพระศิลาปั้นปูนเพิ่มเติมชนิดพระลพบุรี แต่ในพระอุโบสถเป็นพระไม่สู้เก่า ผนักครากหลังคาโปร่ง สกปรก
ที่มา : www.suphan.biz
สรุปปิดท้ายการเดินทาง
จากบันทึกนี้ จะเห็นได้ว่า ช่วงปี พ.ศ. 2451 วัดศาสดายังคงมีพระจำพรรษาอยู่ และได้มาร้างลงในภายหลัง… หลักฐานที่หลงเหลือให้เห็นในปัจจุบันเหลือเพียงซากเจดีย์ที่ถูกปกคลุมโดยต้นโพธิ์สูงใหญ่ให้ได้แลเห็นเป็นสัญลักษณ์
ส่วนตัวอาคารวิหารและโบสถ์ รวมถึงซากพระพุทธรูปไม่หลงเหลือให้เห็นแล้วในปัจจุบันนี้ (พ.ศ. 2561) แต่ยังเหลือซากอิฐที่บ่งบอกถึงแนวอาคารบางส่วน
ขอบพระคุณการติดตามเรื่องราวการเดินทาง แล้วพบกันใหม่ในอกาสต่อไป สวัสดีครับ…
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด
เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com