สวัสดีครับท่านผู้ติดตามเรื่องราว วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางตามรอยตำนานนางผมหอม ที่มีปรางค์นางผมหอม เป็นโบราณสถานในตำนานเรื่องเล่านี้ ปรางค์นางผมหอมเป็นปรางค์โบราณแบบขอม ตั้งอยู่โดดเดี่ยว ที่บ้านโคกคลี อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี สันนิษฐานว่ามีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 โดยในแถบนี้ จะเป็นเส้นทางโบราณในอดีต
การเดินทางครั้งนี้เป็นการตามรอยตำนานรักของนางผมหอมที่เล่าสืบต่อกันมา ทั้งนี้มีเรื่องราวตำนานหลายตำนานและในหลายๆพื้นที่ ส่วนเรื่องราวที่ผมจะนำเสนอในวันนี้ ก็เป็นอีกเพียงเรื่องราวหนึ่งเท่านั้น
การเดินทางค่อนข้างไกลพอสมควรครับ แต่เส้นทางก็ถือว่าสะดวก เมื่อมาถึงพื้นที่ จะต้องขับรถผ่านเข้ามาเส้นทางลูกรังเล็กน้อย จะมองเห็นปรางค์ตั้งอยู่ บรรยากาศโดยรอบเป็นพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน
เมื่อมาถึงปรางค์นางผมหอม ผมก็ได้สัมผัสบรรยากาศชายทุ่ง ที่มีลมพัดเย็นสบาย และยังมีโต๊ะหินอ่อนให้นั่งพักผ่อนอีกด้วย
วันที่เดินทางแม้ว่าแสงแดดจะแรง แต่ก็ไม่ร้อนอย่างที่คิด ทำให้ได้ชมบรรยากาศอย่างเต็มที่
บริเวณกรอบประตูของปรางค์เป็นหินทราย ชาวบ้านเล่าว่า แต่เดิมมีทับหลังแต่ได้สูญหายไป
เนื่องจากมีความเชื่อและตำนาน จึงได้มีการนำหุ่นจำลองตัวแทนนางผมหอมมาไว้ด้านในปรางค์ ซึ่งเป็นเรื่องราวความเชื่อของคนในท้องถิ่นครับ
ตำนานนางผมหอม
ต้องบอกก่อนว่า ตำนานนางผมหอมมีเรื่องราวมากมายในหลายท้องถิ่น ซึ่งเรื่องราวที่ผมจะนำเสนอนี้ก็เป็นเพียงอีกหนึ่งตำนานเท่านั้น
ในสมัยขอมเรืองอำนาจมีเมืองหนึ่งชื่อเมืองศรีเทพ มีพระมหากษัตริย์ปกครองอย่างผาสุก พระองค์มีพระโอรสพระองค์หนึ่งไม่ปรากฏนามซึ่งมีพระชันษาสมควรที่จะมีคู่ครอง พระองค์จึงสั่งให้เหล่าเสนาอำมาตย์ตีฆ้องร้องป่าวหาคนที่จะมาอภิเษกสมรสกับเจ้าชาย
พระองค์จึงชุกคิดได้ว่ามีพระสหายปกครองบ้านเมืองอยู่เมืองพิมายและมีพระธิดาที่มีสิริโฉมงดงามกว่านางใดในแผ่นดินชื่อว่านางผมหอม พระองค์จึงได้ตั้งขบวนกับพระโอรสเพื่อไปสู่ขอนางผมหอมที่เมืองพิมาย
เมื่อเดินทางไปถึงเมืองพิมายก็ได้เที่ยวชมเมืองพิมายซึ่งเป็นนครกว้างใหญ่และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากพระสหาย พระองค์ทรงพอพระทัยมาก
ฝ่ายพระโอรสก็ได้เจอกับนางผมหอมซึ่งเกิดมีความรักต่อกัน เมื่อถึงวันต้องเสด็จกลับเมืองศรีเทพ พระองค์จึงทรงสู่ขอนางผมหอมจากเจ้าเมืองพิมาย เพื่อกลับไปอภิเษกสมรสกับพระโอรสของพระองค์
ซึ่งพระสหายก็ทรงอนุญาตให้นางผมหอมไปด้วย นางผมหอมมีม้าตัวหนึ่งคู่พระทัยซึ่งทรงโตมาด้วยกันตั้งแต่ทรงพระเยาว์นางจึงนำม้าไปด้วยโดยขี่หลังม้าไป ขบวนเสด็จของพระราชาเมืองศรีเทพก็ได้เดินทางกลับ เมื่อเดินทางมาถึงช่องเขาขาดซึ่งปัจจุบันเป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดนครราชสีมากับจังหวัดลพบุรี ขบวนของพระองค์ก็ทรงหยุดตั้งพลับพลาที่ประทับริมฝั่งแม่น้ำแห่งหนึ่ง
นางผอมหอมมีความต้องการที่จะสรงน้ำจึงเสด็จไปสรงน้ำที่แม่น้ำใกล้ๆลำน้ำแห่งนั้น นางได้นั่งสรงน้ำที่แท่นหิน(ภายหลังต่อมาเรียกแท่นนางผมหอม) ด้วยพระทัยที่เบิกบาน ในขณะนั้นนางได้สระผมแล้วเส้นผมของนางก็ได้หลุดลอยไปตามกระแสน้ำ
ต่อมาเจ้าชายแห่งเมืองละโว้ ได้เสด็จประพาสป่า พระองค์มีความรู้สึกกระหายอย่างเป็นกำลังจึงลงไปที่ลำน้ำ เมื่อไปถึงลำน้ำพระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นพระเกศาติดอยู่ที่ท่าน้ำมีกลิ่นหอมมาก ส่งผลให้พระองค์เกิดหลงรักเจ้าของเส้นผมที่มีกลิ่นหอมนางนี้ ทั้งที่พระองค์ยังไม่เคยเห็นหน้านางมาก่อน
พระองค์จึงตั้งสัตย์อธิษฐานว่า ถ้าเคยทำบุญร่วมกันก็ขอให้ได้พบนางผู้นี้ พระองค์จึงขี่ม้าคู่พระทัยขึ้นไปตามลำน้ำ เมื่อพระองค์ขี่มาเรื่อยๆจนมาถึงพลับพลาที่ประทับของพระราชาเมืองศรีเทพ จึงเสด็จเข้าไปซักถาม
พระองค์จึงระลึกได้ว่าพระโอรสของเมืองศรีเทพเป็นพระสหายรักของพระองค์ พระองค์ดีพระทัยมากที่ได้เจอพระสหายจึงได้สนทนากันเป็นการใหญ่ ภายหลังพระองค์จึงได้บอกวัตถุประสงค์ที่ได้เสด็จมาทางมาถึงที่นี้
มาภายหลังเมื่อเจ้าชายเมืองละโว้ได้พบเจอกับนางผมหอมละรู้ว่านางเป็นเจ้าของเส้นผมที่ตนตามหา เจ้าชายเมืองละโว้จึงเกิดหลงรักนางทันทีและปรารถนานางมาเป็นพระชายา แต่รู้ว่านางเป็นคู่หมั้นหมายของพระสหายเสียแล้ว
เจ้าชายเมืองละโว้เสียพระทัยเป็นอย่างมาก แต่ก็เพราะความที่ว่าพระองค์หลงรักนางผมหอมเป็นอย่างมาก ความปรารถนาจึงแรงกล้าที่จะต้องมีนางผมหอมเป็นพระชายาให้ได้
เจ้าชายเมืองละโว้จึงทรงท้าพนันตีคลีกับเจ้าชายเมืองศรีเทพ ผู้ใดแข่งชนะจะได้ครอบครองนางผมหอม เจ้าชายทั้งสองแข่งขันตีคลีขับเคี่ยวกันเป็นเวลานานยังไม่รู้แพ้รู้ชนะ (บริเวณที่ตีคลีกันนั้นปัจจุบันเรียกว่า บ้านโคกคลี) นางผมหอมรู้ว่าตนเป็นต้นเหตุ ด้วยความเสียพระทัยจึงผูกคอสิ้นพระชนม์ เจ้าชายทั้งสองเสียพระทัยเป็นอย่างมากจึงพากันกระโดดน้ำสิ้นพระชนม์ไปตามกัน ร่างที่ไร้วิญญาณของนางผมหอม ได้ถูกนำไปบรรจุไว้ในปรางค์ ผู้คนจึงเรียกปรางค์นั้นว่า “ปรางค์นางผมหอม”
ปรางค์นางผมหอม ทางโบราณคดี
ลักษณะปรางค์นางผมหอมเป็นปรางค์องค์เดียวโดดๆ นักโบราณคดีสันนิษฐานว่ามีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 16 – 17 เป็นศิลปสถาปัตยกรรมแบบขอม ก่อด้วยอิฐก้อนใหญ่ไม่มีปูนสอ เช่นเดียวกับปรางค์แขก สภาพปัจจุบันยอดหักลงมาหมดแล้ว มีประตูเข้าไปภายในปรางค์ได้ ภายในปรางค์เป็นห้องโถง กรอบประตูสร้างด้วยแท่งหิน รอบๆ เล่ากันว่าส่วนของทับหลังได้สูญหายไป
ปรางค์ยังมีก้อนหินใหญ่อยู่กระจัดกระจาย ห่างจากปรางค์ผมหอมไม่มากนัก เป็นด่านกักสัตว์บ้านโคกคลี เป็นเนินดิน มีซากอิฐอาจจะเป็นฐานวิหาร หรือเจดีย์ ชาวบ้านเรียกว่า “โคกคลี” และยังมีเนินกว้างอีกแห่งหนึ่งเรียกว่า “โคกคลีใหญ่” ที่ตั้งปรางค์นางผมหอมมีแม่น้ำมาบรรจบกัน 2 สาย คือ ลำสนธิ กับ ลำพระยากลาง สันนิษฐานว่าสถานที่แห่งนี้แต่เดิมเป็นเมืองโบราณ
ขอขอบคุณการติดตามเรื่องราว สำหรับเรื่องราวการตามรอยก็มีเพียงเท่านี้ พบกันใหม่ในบทความต่อไปครับ สวัสดีครับ…
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com