การเดินทางมาทำบุญที่วัดพระพุทธฉายสามารถเดินทางได้สะดวก ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ให้ขับตรง เส้นพหลโยธิน เข้าสู่จังหวัดสระบุรี ประมาณกิโลเมตรที่ 112 ให้เข้าเส้นคู่ขนาน ที่จะไปจังหวัดนครราชสีมาแล้วขับตรงมาเรื่อยๆอีกประมาณ 5 กิโลเมตรก็จะถึงสี่แยกไฟแดง เราก็จะเห็นป้ายบอกทางไปวัดพระพุทธฉายแล้วครับ โดยให้เลี้ยวขวาตรงไปอีกสักระยะประมาณ 1 กิโลเมตรแล้วก็เลี้ยวขวาก็ถึงวัดแล้วครับ
สี่แยกไฟแดงจากเส้นคู่ขนาน ไปนครราชสีมาให้รอเลี้ยวขวาได้เลยครับ
เราจะมองเห็นป้ายวัดขนาดใหญ่ แล้วก็หาที่จอดรถไปด้เลยครับ ที่จอดรถมีพื้นที่กว้างขวางครับ
หลังจากจอดรถแล้ว อันนดับแรกเราก็เดินเข้ามาเพื่อทำการขึ้นนมัสการ พระพุทธฉายหรือเงาพระพุทธเจ้ากันก่อน
หลังจากเดินขึ้นบันไดมาก็จะมองเห็นสถานที่ปรากฏของระพุทธฉาย ให้พวกเราเข้าไปทำการสักการะบูชาและปิดทองกันได้เลยครับ
ถัดขึ้นไปจะพบการสลักพระปรมาภิไธย ของพระบรมวงศานุวงศ์ หลายพระองค์ สามารถดูรายละเอียดแต่ละพระองค์ได้ในคลิปบนยูทูปได้ที่นี่ >>> Link
บรรยากาศด้านบนจะค่อนข้างร่มรื่น เพราะมีต้นไม้ใหญ่มากมาย แต่ถ้าเป็นฤดูร้อนช่วงเดือนมีนาคม ถึงเดือนพฤษภาคม ก็จะร้อนมากหน่อยนะครับ
หลังจากทำการนมัสการพระพุทธฉายกันแล้ว ก็อย่าลืมที่จะไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเบื้องขวากันนะครับ ซึ่งจะประดิษฐานอยู่ด้านบน ในมณฑปที่สร้างใหม่
สำหรับท่านที่เดินขึ้นไปเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาไม่ไหว ก็ให้เดินลงบันไดมาแล้วสามารถใช้รถยนต์ส่วนตัวขับขึ้นไปได้นะครับ ให้ดูเส้นทางตามป้ายได้เลย ขับไปไม่นานครับแป๊บเดียวก็ถึงทางขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทเบื้องขวากันแล้ว
หลังจากขับรถขึ้นมาแล้ว ก็จะมีลานจอดรถให้จอดรถไว้ แล้วเดินขึ้นบันไดไปอีกสักนิดนะครับ ไม่สูงมากก็จะพบกับมณฑปของหลวงพ่อหยกขาว และมณฑปรอยพระพุทธบาท
ในมณฑปหลวงพ่อหยกขาว เราสามารถทำการนมัสการปิดทองลูกนิมิตรได้
บรรยากาศด้านบนรอบมณฑปหลวงพ่อหยกขาว
หลังจากนมัสการหลวงพ่อหยกขาวกันแล้ว ก็ให้เดินลงมาขึ้นบันไดสู่มณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา กันอีกเล็กน้อย
ภายในมณฑป เราก็จะเห็นรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา ให้เราทำการสักการะบูชาครับ ซึ่งจะมีพระพุทธบาทจำลองให้เราได้ปิดทองบูชา ส่วนพระพุทธบาทองค์จริงจะครอบอยู่ในกระจกไม่สามารถปิดทองได้
ความเป็นมา สันนิษฐานว่าค้นพบในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรมในสมัยกรุงศรีอยุธยา ราวพุทธศักราช 2163 – 2171 จึงโปรดให้สร้างเจดีย์มณฑปครอบรอยพระพุทธบาทไว้ เป็นระยะเวลานานซึ่งไม่เกิดหลักฐานว่านานเท่าไหร่ ที่รอยพระพุทธบาทถูกปิดทับด้วยซีเมนต์ จนมาถึงปี พ.ศ.2537 มีการทุบพื้นซีเมนต์ออก จึงได้พบเห็นทรายหยาบอยู่โดยรอบ จึงทำการคุ้ยทรายออก จึงได้พบรอยพระพุทธบาทอย่างเด่นชัด เป็นลักษณะรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา ตรงกลางเป็นรอยธรรมจักร
คลิปเดินขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาท ที่วัดพระพุทธฉาย
หลังจากทำบุญนมัสการทั้งพระพุทธฉายและพระพุทธบาทเบื้องขวากันแล้ว ก็อย่าลืมซื้ออาหารเลี้ยงลิงบนเขากันด้วยนะครับ บนเขาจะมีลิงค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ต้องกลัวอันตรายนะครับ เพราะไม่เคยมีประวัติทำอันตรายคน เพียงแต่จะมือไวเท่านั้น ยังไงก็ระวังทรัพย์สินไว้ด้วยก็ดีครับ
>>> อ่านตำนานเรื่องราวพระพุทธฉายที่นี่ <<<
ลิ้งค์เพิ่มเติม
หลวงพ่อปานโสนนันโทได้เคยพาคณะศิษย์ธุดงค์มายังเขตพระพุทธฉาย แล้วยืนยันถึงพระพุทธฉายว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จริงตามตำนานที่กล่าวไว้ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งก์ด้านล่างนี้ครับ
หลวงพ่อปานนมัสการพระพุทธฉาย และยืนยันว่าเป็นพระพุทธฉายแท้จริง
รัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสเมืองสระบุรี ตอนเสด็จพระพุทธฉาย
วันจันทร์ที่ ๑๗ ธันวาคม เวลาเช้า หนึ่งโมงเศษ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จทรงม้าพระที่นั่ง ออกพลับพลาไปตามทางหลวงข้ามทางรถไฟออกทุ่งนา และเข้าดงถึงพระพุทธฉาย เวลาเช้า ๓ โมงเศษ ระยะทาง ๒๒๓ เส้น มีพระสงฆ์สวดชยันโตรับเสด็จอยู่ที่เชิงเขา เสด็จพระราชดำเนินขึ้นนมัสการพระพุทธฉาย แล้วประทับเสวยเช้าที่ศาลาแล้วทรงจารึกอักษรพระนาม จ.ป.ร. ที่เพิงผา และมีปีที่เสด็จพระราชดำเนินมา ณ ที่นี้ ร.ศ.๗๙ และ ๙๑ และ ๑๐๔ และ ๑๑๕ แล้วโปรดให้อาราธนาเจ้าอธิการลัน วัดพระพุทธฉาย มาถวายเทศนามหาชาติคำลาว เวลาบ่ายเสด็จพระราชดำเนินขึ้นเขาลม มีมณฑปพระบาทบนยอดเขา เสด็จลงจากเขาลมแล้วเสวยกลางวันที่ศาลานั้น แล้วทรงฉายพระรูป เวลาบ่าย ๓ โมงครึ่ง เสด็จกลับพระฉาย
ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จวัดพระพุทธฉาย
วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2516 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายผ้าพระกฐินส่วนพระองค์ และทรงเยี่ยมราษฎร ที่วัดพระพุทธฉาย
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด
เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com
รูปแรกถ่ายติด ยัยเขียว รถเราด้วย เอิ๊กๆๆ ^_^
อ้าวเหรอครับ… ช่างบังเอิญจริงๆ เจ้าตัวมาอ่านเจอด้วย ฮ่าๆ