วัดพระขาว พระนครศรีอยุธา ถิ่นพระเกจิดังหลวงปู่ทิม อัตตสันโต ชมจิตรกรรมลายรดน้ำบนเรือนศาลาไม้และจิตรกรรมฝาผนังโบสถ์สวยงามอลังการที่ละครหลายเรื่องมาขอใช้เป็นฉาก… ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดพระขาว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อไปกราบสังขารหลวงปู่ทิม พระเกจิดังในอดีตแห่งอยุธยา รวมถึงจะพาทุกท่านไปชมความสวยงามของจิตรกรรมลายรดน้ำที่ศาลาไม้ 2 หลัง รวมถึงจิตรกรรมฝาผนังโบส์ ที่ใช้เทคนิคเขียนภาพสามมิติ สวยสดงดงามอย่างยิ่ง
ลานจอดรถ
ใช้เวลาไม่นานนักในการเดินทางมาถึงวัดพระขาว จากตัวเมืองอยุธยาไม่น่าเกิน 20 กิโลเมตร พื้นที่ใช้สอยของวัดดูกว้างขวาง โดยเรามาจอดรถกลางลานวัด ด้านหน้าอุโบสถ
จุดแรกที่ผมจะเข้าไปชมคืออุโบสถ เพื่อไปกราบพระประธานและชมความสวยงามของภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวพุทธประวัติ
อุโบสถ วัดพระขาว อยุธยา
หลวงพ่อขาว พระประธานในอุโบสถ
พระพุทธรูปประธานในอุโบสถ ชาวบ้านขนาดนามท่านว่าหลวงพ่อขาว …มีอัครสาวกเบื้องซ้ายและขวา เป็นแบบทรงเครื่องสวยงาม
หลวงพ่อขาว
ลักษณะของหลวงพ่อขาว เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นสีขาว ปางมารวิชัยพระโขนงโก่งยาว พระโอษฐ์ยิ้มเล็กน้อย ขนาดหน้าตักกว้าง 2 เมตร สูง 2 เมตร 40 เซนติเมตร ประดิษฐ์อยู่บนแท่นชุกชี ปิดทองประดับกระจก ปัจจุบันองค์พระพุทธรูปอยู่ในสภาพสมบูรณ์
พระสาวกทรงเครื่อง (พระโมคคัลลานะ)
ภาพจิตรกรรมในอุโบสถ ตอนชนะมาร
ภาพจิตรกรรม นายทวารบาร
ภาพจิตกรรม นายทวารบาล
ภาพจิตกรรมภายในอุโบสถ มีความสวยงามสีสันสดด้วยเพราะเขียนได้ไม่นาน… ถ้าเราสังเกตุภาพ จะเห็นถึงมิติเหมือนภาพนูนออก ซึ่งเป็นฝีมือของช่างในยุคปัจจุบัน
วิหารข้างพระอุโบสถ
เมื่อกราบพระประธานในอุโบสถและชมความงดงามของจิตรกรรมเป็นที่เรียบร้อย ผมจึงเดินออกมาชมศาลาไม้ของวัดที่มีลวดลายรดน้ำอันวิจิตร
รูปหล่อแม่โพสพและแม่นางกวัก (บริเวณทางเข้าอุโบสถ)
เรือนศาลาไม้
ที่เรือนศาลาไม้นี้ จะประดิษฐานรูปหล่อหลวงปู่ทิม ให้เราปิดทองสักการะครับ… ด้านบนมีภาพลายรดน้ำอันวิจิตรส่วยงาม และเคยใช้เป็นฉากในละครหลายเรื่อง เช่น ศรีอโยธยา, พิษสวาส
รูปหล่อหลวงปู่ทิม อัตตสันโต
เมื่อขึ้นมาบนศาลาเรือนไม้ ผมจึงได้กราบรูปหล่อหลวงปู่ทิม เพื่อเป็นสิริมงคล
ตู้ลายรดน้ำ
จิตรกรรมลายรดน้ำ
ลายรดน้ำ (มักกะรีผล)
ลายรดน้ำ (เปรต)
ลายรดน้ำ (กินรี, กินนร)
ลายรดน้ำ (แดนนิพพาน)
ลายรดน้ำ (สิมพลีนรกหรือนรกต้นงิ้ว)
ลายรดน้ำ (สัตว์นรก)
จิตรกรรมลายรดน้ำ มีความสวยงามอย่างยิ่ง บนเรือนไม้หลังนี้ จะเป็นภาพภพภูมิต่างๆ ทั้งแดนนิพพาน สวรรค์ โลกทิพย์ เปรต และนรก… เดินชมไป ก็ให้จินตนาการถึงหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาในเรื่องภพภูมิได้เป็นอย่างดีครับ
เมื่อผมทำการเก็บภาพลายรดน้ำเป็นที่เรียร้อยแล้ว จึงได้ไปกราบสังขารหลวงปู่ทิมบนศาลาเรือนไม้อีกหลังหนึ่ง
ศาลาเรือนไม้เก็บรักษาสังขารหลวงปู่ทิม
ด้านในศาลาเรือนไม้เก็บสังขารหลวงปู่ทิม
สังขารหลวงปู่ทิมในโลงแก้ว
ความสวยงามของลายรดน้ำ
ลายรดน้ำ (ผจญมาร)
จิตรกรรมลายรดน้ำในเรือนศาลาไม้ที่เก็บสังขารหลวงปู่ทิม มีความสวยงามมากเช่นกัน โดยจะเป็นภาพเรื่องราวในพุทธประวัติ
ประวัติวัดพระขาว พอสังเขป
วัดพระขาว ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ตำบลพระขาว อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา วันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2470
ซึ่งชื่อของวัดนั้นตั้งตามชื่อของหลวงพ่อขาว ซึ่งเป็นพระพุทธรูปรูปปั้นสีขาวมาแต่โบราณ เป็นพระพุทธรูปประติมากรรม พระประธานอุโบสถวัดพระขาว ตำบลพระขาว อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สืบเนื่องมาจากที่วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ องค์ใหญ่ สีขาวมาแต่โบราณ ชาวบ้านเรียกวัดนี้ว่า“วัดพระขาว” จนกลายมาเป็นชื่อที่ใช้เรียกกันจวบจนทุกวันนี้นั่นเอง
หนังสือประวัติและคำสอนหลวงปู่ทิม ที่ผมใช้เดินทางตามรอย
ประวัติหลวงปู่ทิม อัตตสันโต
หลวงปู่ทิม เกิดเมื่อปีพ.ศ.2456 ที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายพร้อม และนางกิ่ม ชุ่มโชคดี เป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวนลูกทั้งหมด 6 คน
ช่วงวัยเยาว์ หลวงปู่ทิมได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดพิกุล จนถึงอายุ 13 ปี เมื่อจบ ป.4 จึงออกจากโรงเรียนมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพทำนา ก่อนจะถูกเกณฑ์เป็นทหาร ถูกส่งตัวไปปฏิบัติราชการสงครามฝรั่งเศส รวมทั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 กระทั่งปลดประจำการ หลวงปู่ทิมจึงได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2475 ณ วัดพิกุล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี หลวงพ่อปุ๋ย วัดขวิด เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อหลิ่ว วัดโพธิ์กบเจา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการหลิ่ว เจ้าอาวาสวัดพิกุล เป็นพระอนุสาวนาจารย์
แต่ท่านบวชอยู่ในบวรพระพุทธศาสนาได้เพียง 1 พรรษา ท่านได้ลาสิกขาแต่งงานมีครอบครัวและมีบุตร-ธิดา 4 คน
หลังจากนั้น หลวงปู่ทิมท่านได้กลับมาอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2491 ขณะอายุได้ 35 ปี ณ วัดพิกุล อ.บางบาล โดยมี พระครูอุดมสมาจารย์ (หลวงพ่อสังข์) วัดน้ำเต้า เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา อัตตสันโต
หลังอุปสมบท หลวงปู่ทิมได้อยู่จำพรรษาอยู่ที่วัดพิกุล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ในระหว่างที่หลวงปู่ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดพิกุลนั้นได้มีชาวบ้านนำเอาศพคนตายมาฝากไว้ในกุฏิถึง 2ศพด้วยกัน ทำให้เกิดมีแนวกรรมฐานด้วยตนเองที่ว่า สามัญในลักษณะ หมายความว่า ลักษณะที่เสมือนกันใน สังขารทั้งหลายทั้งปวง สิ่งนั้นก็คือ
อนิจจัง ( ความไม่แน่นอนในสังขาร )
ทุกข์ขัง (ความวุ่นวาย , ไม่สงบสุข ในสังขาร )
อนัตตา (ความตาย , ไม่มีตัวตน )
จากนั้นหลวงปู่ทิม ท่านได้ไปจำวัดอยู่ที่วัดน้ำเต้ากับพระอุปัชฌาย์ของท่าน คือ หลวงพ่อสังข์ เป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ในระหว่างที่อยู่กับหลวงพ่อสังข์นั้น หลวงพ่อสังข์ได้ไต่ถามถึงความเป็นไปของการปฏิบัติกรรมฐานที่ผ่านๆมา
เมื่อหลวงพ่อสังข์ ทราบเรื่องแล้ว หลวงพ่อสังข์ก็กล่าวชมเชยว่า ใช้ได้ พร้อมทั้งพูดเสริมขึ้นอีกว่า “ฉันบวชให้เธอ ฉันได้บุญมากจริงๆ”
ต่อจากนั้น หลวงปู่ทิมได้ศึกษาธรรมอยู่กับหลวงพ่อสังข์วัดน้ำเต้าอย่างใกล้ชิด และซาบซึ้งในธรรมะมากยิ่งขึ้นเพราะได้ฝึกกรรมฐานใกล้ชิดกับพระอาจารย์นั่นเอง
ต่อมาหลวงปู่ทิมจึงย้ายมาจำพรรษาที่วัดพระขาว ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2492 และขึ้นเป็นเจ้าอาวาสใน พ.ศ.2498
จนในที่สุด ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามสัจธรรม หลวงปู่ทิม ได้ละสังขาร เมื่อเวลา 10.55 น. ของวันที่ 22 มีนาคม 2552 สิริรวมอายุได้ 96 ปี พรรษา 61
สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจชาวบ้านนอกจากคำสอนของหลวงปู่แล้ว ก็คือ วัตถุมงคล ซึ่งหลวงปู่เน้นย้ำเสมอว่า วัตถุมงคลทั้งหลายล้วนเข้มขลังด้วยอำนาจแห่ง พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แต่ไม่ว่าใครจะมีพระเครื่องที่ดี เด่น ดังเพียงใดก็ตาม ที่สุดแล้วก็ไม่สามารถหนีความตายไปได้เพราะนี่คือสัจธรรมของชีวิต
พระอาจารย์ของหลวงปู่ทิม
ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสังข์ วัดน้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งหลวงพ่อสังข์นั้น เป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อีกทั้งหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ก็เคยมาศึกษาธรรมด้วย
หลวงพ่อสังข์แห่งวัดน้ำเต้า เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อปั้น แห่งวัดพิกุล อยุธยา ท่านเป็นพระผู้ทรงอภิญญา ได้กำหนดดูจิตของหลวงพ่อปาน โสนันโทขณะใกล้ละสังขาร ปรากฏเห็นเหล่าเทวดามารอรับหลวงพ่อปานสู่สวรรค์ชั้นดุสิตเป็นจำนวนมาก
และหลวงพ่อสังข์ นี่เองคือพระอุปัชฌาย์และพระอาจารย์ของหลวงปู่ทิม วัดพระขาว… ทำให้หลวงปู่ทิมได้ศึกษาธรรมกับหลวงพ่อสังข์อย่างใกล้ชิด
หลวงพ่อสังข์ วัดน้ำเต้า อยุธยา… พระอาจารย์ของหลวงปู่ทิม
ปิดท้าย
ผมเดินชมวัดแห่งนี้ใช้เวลานานพอสมควร เพราะชมชอบความงดงามของจิตรกรรมทั้งในอุโบสถและลายรดน้ำบนเรือนไม้เป็นอย่างยิ่ง ด้วยความงดงามเช่นนี้ ย่อมใช้งบประมาณที่สูงตามไปด้วย จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่านี่คือด้วยบารมีของหลวงปู่ทิม จึงทำให้วัดพระขาวมีความเจริญมาจนถึงทุกวันนี้
เป็นวัดอีกแห่งหนึ่งที่เราจะได้มากราบระลึกถึงครูบาอจารย์ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชน และได้ชมความงดงามของภาพจิตรกรรม ที่แม้แต่ละครก็ยังมาขอใช้เป็นฉากในละครหลายเรื่องอีกด้วย จึงขอเรียนเชิญมาท่องเที่ยวและทำบุญกันครับ
ขอขอบพระคุณการติดตาม แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไป…สวัสดีครับ…
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด
เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com
