ความเชื่อของคนไทย ตำนาน เรื่องผีเปรต

ความเชื่อของคนไทย ตำนาน เรื่องผีเปรต ความเชื่อเรื่องผีเปรตมีอยู่ในสังคมไทยมาแต่โบราณว่ามีอยู่จริง อีกทั้งคำสอนของศาสนาพุทธก็ได้ยืนยันว่าเปรตนั้นมีอยู่จริง ความคุ้นเคยของสังคมไทยเกี่ยวกับเรื่องเปรตนั้นจะได้ยินกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ โดยหลายๆคนคงมักได้ยินคำสอนและคำเตือนของพ่อแม่ (บางคนคิดว่าเป็นคำขู่) เช่น พูดไม่ดีกับพ่อแม่ระวังจะเป็น “เปรตปากเท่ารูเข็ม” นะ หรือ ตีพ่อแม่ระวังจะเป็น “เปรตมือเท่าใบลาน” และผมก็คิดมาแต่เด็กว่าคำขู่นี่มันได้ผลจริงๆ เพราะไม่กล้าจะทำผิดเลย ผมเองก็คิดว่าเป็นกุศโลบายที่ดีของสังคมไทย ที่ใช้สอนและปลูกฝังให้เด็กๆ มีสำนึกที่ดีได้พอสมควร แต่เมื่อเติบโตขึ้นสังคมเปลี่ยนไป ได้รับการศึกษามากยิ่งขึ้น หลายคนก็อาจจะเปลี่ยนความคิดไปว่า เป็นเรื่องความเชื่อที่ไม่มีอยู่จริงเพราะพิสูจน์ได้ยาก หรือพิสูจน์กันไม่ได้เลย วันนี้ผมได้ลองหาข้อมูลเรื่องเปรตมาสรุปไว้พอสังเขป เนื่องจาก ได้รับชมรายการ “คนอวดผี” ออกอากาศวันที่ 20 สิงหาคม 2557 ในรายการได้นำเสนอเรื่องราวความอาถรรพ์ของป้อมตำรวจที่ตั้งภายในวัดศาลาครืน ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ ในย่านธนบุรี กรุงเทพมหานคร โดยมีเรื่องราววิญาณที่มีผู้คนในละแวกนั้นได้พบเห็น แล้วนำมาเล่าต่อๆกันไป เรื่องราวที่เล่ากันมาเช่น มีคนพบผู้ชายตรงคอสะพานนั่งอยู่บนพื้นแต่เมื่อขี่จักรยานมาถึงก็ไม่พบชายคนนั้นแล้ว และอีกเรื่องราวจากวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ว่ามีคนเรียกมารับจากวัดศาลาครืน แต่เมื่อมาถึงจุดหมายได้หายตัวไป เป็นต้น จากเรื่องราวในรายการคนอวดผี คุณริว จิตสัมผัส จะเป็นผู้ที่ดำเนินรายการในช่วงนี้ และได้กล่าวว่า เขาได้เห็นเปรตที่วัดศาลาครืน และผู้ที่ร่วมรายการก็ได้กล่าวว่าคนในละแวกนั้นก็ได้เจอเปรตมาเช่นกัน โดยมีชาวบ้านคนหนึ่งชื่อ คุณประไท กิ่งทองสุข ซึ่งอาศัยในละแวกนี้กว่า 60 ปี เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยเป็นวัยรุ่น ได้มานอนกับหลวงปู่ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้น ช่วงเวลาประมาณตี 4 เป็นเวลาที่ตื่นนอน หลวงปู่ได้เรียกให้มาดูช่องไม้แตก ปรากฎว่าได้พบเจอกับเปรตประมาณ 4 ตนยืนค่อมหอระฆังอยู่ เรื่องผีเปรตพิสูจน์ได้ยากแต่มีบันทึกในพระไตรปิฎก หลักฐานปรากฎในพุทธพจน์ที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎก… Read More »

สารคดีชีวประวัติ และผลงาน คำสอน หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ วัดป่าสุคะโต ชัยภูมิ

สารคดีชีวประวัติ และผลงาน หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ วัดป่าสุคะโต ชัยภูมิ สารคดีชุดนี้ จัดทำขึ้นเพื่อถวายเป็นอาจารยบูชา แด่หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ ผู้อุทิศชีวิตเพื่อพระธรรม และสรรพชีวิต ธรรมในตัวท่านแสดงออกมาด้วยการพูดให้ฟัง ทำให้ดู อยู่ให้เห็น เย็นให้สัมผัส จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต มีความรู้สึกตัวรับความตายที่เข้ามาอย่างงดงาม ละสังขารไปด้วย “ไม่เป็นอะไร กับอะไร” ผลิตเพื่อเผยแพร่โดยคณะศิษยานุศิษย์หลวงพ่­อคำเขียน สุวัณโณ เป็นที่ระลึกในงานถวายเพลิงสรีระสังขารหลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2557 ข้อคิดการดำเนินชีวิตจากการเป็นพระนักพัฒนา นอกจากการปฏิบัติธรรม ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านยังเป็นนักพัฒนาสังคม โดยท่านได้เข้ามาพัฒนาหมู่บ้านในตำบลท่ามะไฟหวาน อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ เป็นเวลากว่า 5 ปี เพื่อให้ความเป็นอยู่ของชาวบ้านดีขึ้น เช่น งานพัฒนาชุมชน งานเกษตรผสมผสาน งานอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งมีทั้งงานที่สำเร็จ และงานที่ล้มเหลว แต่ท่านก็ได้กล่าวกับลูกศิษย์อยู่เสมอว่า “แม้งานจะล้มเหลว แต่ตัวเราไม่ล้มเหลว” จากคำบอกเล่าของพระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาส วัดป่าสุคะโต ได้กล่าวไว้ว่า หลวงพ่อคำเขียนได้กล่าวยอมรับว่า การเข้ามาพัฒนาที่ท่ามะไฟหวาน ทางชาวบ้านไม่ค่อยได้ตื่นตัวสักเท่าไหร่ ตามเหตุปัจจัยของแต่ละคน แต่ท่านก็ได้กล่าวไว้ว่า “แม้งานจะล้มเหลว แต่ตัวเราไม่ล้มเหลว” ซึ่งเป็นข้อเตือนใจเราว่า การทำงานให้ทำเต็มที่ ผลจะเป็นเช่นไรอย่าไปทุกข์กับมัน งานไม่ใช่ตัวเรา แต่บางคนงานสำเร็จ แต่ตัวล้มเหลว ก็มีอันนี้ต้องระวัง หลวงพ่อคำเขียนได้วางรากฐานหลายอย่างที่วัดป่าสุคะโต ตั้งแต่… Read More »

ความเชื่อตำนานอาถรรพ์ ลี้ลับ ของเสือสมิง

ความเชื่อตำนานอาถรรพ์ เสือสมิงสู่จอภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของคนไทย เนื่องจากผมได้ดูรายการทไวไลท์โชว์ เรื่องของภาพยนตร์ “สมิง พรานล่าพราน” ซึ่งเป็นตำนานลี้ลับมาตั้งแต่โบราณของผืนป่า และจากตัวอย่างภาพยนตร์ดูแล้วมสร้างได้ดีมาก เอฟเฟ็ค CGI ครบถ้วน ยิ่งทำให้ผมเองรู้สึกสนใจเรื่องราวของเสือสมิงขึ้นมาทันที ผมจึงได้ลองค้นหาข้อมูลเรื่องราวเกี่ยวกับเสือสมิงว่ามีความเป็นมาอย่างไร จากทางอินเตอร์เน็ต และก็ได้สรุปเนื้อหามาเขียนเป็นบทความนี้ เรื่องเสือสมิงเป็นตำนานอาถรรพ์ที่ถูกเล่าขานก็มานมนาม ตำนานพอคร่าวๆจะกล่าวถึงเสือดุร้ายที่คอยจับคนกินเป็นอาหาร จนกระทั่งมีวิญญาณสิงสถิตในตัวเสือ ทำให้เสือตัวนั้นมีอำนาจฤทธิ์เดชมากยิ่งขึ้น ตามตำนานที่เล่าขานกันมานั้น กล่าวไว้ว่าเสือสมิงมีจุดกำเนิดอยู่ 2 แบบ ดังนี้ 1. ผู้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้า โดยมีการฝึกวิชาอาคมกับครูบาอาจารย์ ด้วยเชื่อว่าจะมีฤทธิ์เดช อยู่ยงคงกระพัน ไม่เกรงกลัวต่อวิชาคุณไสยใดๆ แต่ด้วยตามคำบอกเล่าจะกล่าวว่า ผู้ที่เรียนวิชานี้มักจะกลายไปเป็นเสือสมิงแทบทั้งสิ้น ซึ่งอาจจะเพราะการผิดสัจจะกับครูบาอาจารย์หรือเหตุผลอื่นใดก็แล้วแต่ 2. เกิดจากวิญญาณผีตายโหง ที่ต้องการไปผุดไปเกิด จึงได้สิงสถิตในตัวเสือแล้วทำการล่ามนุษย์เพื่อเป็นตัวตายตัวแทน เมื่อได้ฆ่าคนจนครบจำนวนก็จะไปผุดไปเกิด ส่วนวิญญาณของผู้ที่ถูกฆ่า ก็จะเข้าสิงสถิตเป็นเสือสมิงต่อไป จนกว่าจะมีตัวตายตัวแทนหรือถูกผู้เก่งกล้าวิชาอาคม มาทำการปราบเท่านั้น วิธีปราบเสือสมิงมี 2 วิธี คือ 1. ใช้กระสุนเงินบริสุทธิ์ (เหมือนตำนานมนุษย์หมาป่า ของฝรั่งเลยครับ) 2. ใช้วิชาอาคมปราบ โดยผู้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้า จะทำการปลุกเสกของอาถรรพ์ เช่น วัวธนู หรือหุ่นพยนต์ เข้าทำการต่อสู้ ถ้าผู้ที่เสกของอาถรรพ์มีวิชาแก่กล้าไม่พอ ก็จะพ่ายแพ้หรือเสียชีวิตเอง เรื่องเล่าเกี่ยวกับเสือสมิง โดยหลวงพ่อลุน วัดโพนแพง จังหวัดขอนแก่น ในพรรษาที่ 23 ของการอุปสมบทหลวงพ่อลุนได้ทพการเดินธุดงค์ไปที่ป่าภูเขาควายเพื่อเสาะแสวงหาพระอาจารย์ผู้เก่งกล้าทางอภิญญาและคาถาอาคม ท่านมีโอกาสได้กราบฝากตัวเป็น ศิษย์หลวงปู่หวล ฐิตสีโล… Read More »

เที่ยว ทำบุญ นมัสการพระพุทธไสยาสน์ วัดขุนอินทประมูล อ่างทอง

เที่ยว ทำบุญ นมัสการพระพุทธไสยาสน์ วัดขุนอินทประมูล อ่างทอง อีกครั้งสำหรับการเดินทางเที่ยววัดของผม และครั้งนี้ผมได้วางแผนเดินทางมาเที่ยวที่วัดขุนอินทประมูล จังหวัดอ่างทอง เป็นวัดที่เก่าแก่มากพอสมควรวัดหนึ่ง มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี อีกทั้งมีเรื่องราวอาถรรพ์เกี่ยวกับพระวิหารที่ไม่เคยสร้างแล้วเสร็จ และจุดเด่นสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ พระนอนองค์ใหญ่ หรือพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่มีความยาวเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทย ด้วยความยาวองค์พระประมาณ 50 เมตร ความเป็นมาของพระพุทธรูปปางไสยาสน์ พระพุทธรูปปางไสยาสน์นี้ หรือปางโปรดอสุรินทราหู เป็นพระพุทธรูปอยู่ในอิริยาบถ นอนตะแคงขวา พระบาททั้งสองข้างซ้อนทับเสมอกัน พระหัตถ์ซ้ายทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาตั้งขึ้นรับพระเศียรและมีพระเขนย (หมอน) รองรับ บางแบบพระเขนยวางอยู่ใต้พระกัจฉะ (รักแร้) ลักษณะเดียวกับปางปรินิพพานและปางทรงพระสุบิน หรือเรียกโดยทั่วไปว่าพระปางไสยาสน์ พระพุทธรูปปางไสยาสน์นี้ เรียกกันอีกชื่อคือ “ปางโปรดอสุรินทราหู”  (พระราหู) ซึ่งมีเรื่องราวเมื่อครั้งสมัยพุทธกาลที่พระพุทธองค์แสดงปาฏิหาริย์ปราบทิฏฐิขององค์พระราหู  ผู้เป็นราชาครองอสูร เนื่องจากพระราหูได้ทราบว่าเหล่าเทวดาให้ความเคาระพนับถือพระพุทธเจ้า จึงอยากที่จะฟังธรรม แต่ด้วยทิฏฐิคิดว่าพระพุทธเจ้าเป็นเพียงมนุษย์มีร่างกายเล็ก จึงไม่มีความอ่อนน้อมต่อพระพุทธเจ้า  พระพุทธองค์จึงได้แสดงปาฏิหาริย์เนรมิต ร่างของพระองค์ให้มีขนาดองค์ใหญ่ในลักษณะอริยาบถนอนตะแคง พระบาทซ้อนทับสูงใหญ่กว่าพระราหู จนพระราหูต้องแหงนหน้าเพื่อชมพุทธลักษณะ จากนั้นพระพุทธองค์ได้พาพระราหูเที่ยวชมชั้นพรหม ซึ่งเหล่าพรหมล้วนมีองค์ขนาดใหญ่กว่าพระราหูทั้งสิ้น จนพระราหูเกิดความกลัวต้องหลบอยู่ข้างหลังพระพุทธองค์ นับแต่นั้นมาก็ลดทิฐิมานะ อ่อนน้อมต่อพระพุทธองค์ และเมื่อได้สดับฟังพระธรรมเทศนาจึงเกิดความเลื่อมใส ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งสูงสุดแห่งชีวิต การเดินทางและแผนที่ไปวัดขุนอินทประมูล การเดินทางให้ขับรถเข้าตัวเมืองอ่างทอง และเลี้ยวขวาไปทางป้ายสุพรรณบุรี ทางหลวงหมายเลข 3064 ขับตรงไปประมาณ 9 กิโลเมตร เมื่อเห็นโรงพยาบาลโพธิ์ทอง จะสังเกตุเห็นป้ายชี้ทางไปวัดขุนอิน ให้ชิดขวาเพื่อเตรียมกลับรถเลยครับ ทางเข้าวัดขุนอินทประมูล จะอยู่อีกฝั่งตรงข้ามกับโรงพยาบาลโพธิ์ทอง โดยเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร … Read More »

เที่ยวชมโบสถ์ร้างโบราณ โอบด้วยต้นโพธิ์ วัดสังกระต่าย อ่างทอง

เที่ยวชมโบสถ์ร้างโบราณ โอบด้วยต้นโพธิ์ วัดสังกระต่าย อ่างทอง วันหยุดสุดสัปดาห์อีกครั้งที่ผมได้เดินทางท่องเที่ยววัดวาอาราม เมื่อเร็วๆนี้ผมได้ทราบข่าวจากทั้งทางสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ เกี่ยวกับโบสถ์ร้างโบราณแห่งหนึ่งที่มีความแปลกคือ มีต้นโพธิ์ที่โอบรอบผนังทั้งสี่ด้านของโบสถ์ไว้อย่างมั่นคง แม้ว่าหลังคาทั้งหมดจะพังทลายลงมาหมดแล้ว ได้เพียงร่มเงาของต้นโพธิ์ที่คอยบังแดดฝนไว้เท่านั้น โบสถ์ร้างโบราณแห่งนั้นคือ โบสถ์โบราณของวัดสังกระต่าย โบสถ์ร้างโบราณ วัดสังกระต่าย ตั้งอยู่ที่ตำบลศาลาแดง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง อยู่ในความดูแลของเทศบาลตำบลศาลาแดง ผมได้เริ่มวางแผนการเดินทางเพื่อมาที่วัดแห่งนี้ ก็ได้ทราบว่า การเดินทางค่อนข้างง่ายและสะดวกเพราะเดินทางมาเส้นทางเดียวกับ วัดม่วง พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก การเดินทางและแผนที่มาวัดสังกระต่าย การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกับการเดินทางไปวัดม่วง  โดยขับรถเข้ามาเมืองอ่างทอง จากถนนสายเอเชีย หมายเลข 32 ผ่านไฟแดง 2 จุด แล้วจะข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จะมาถึงไฟแดงที่ 3 เป็นไฟแดงในเมืองอ่างทอง จากนั้นให้ตรงไป แล้วจะเจออีก ไฟแดงให้เลี้ยวขวาไปตามป้ายจังหวัดสุพรรณบุรี (ถนนหมายเลข 3064) ขับไปอีกประมาณ 2 – 3 กิโลเมตร ให้สังเกตุด้านซ้ายมือจะเห็นปั้ม ปตท. และ โลตัส Express ให้ชิดขวาเพื่อกลับรถ เลยครับ เมื่อกลับรถแล้ว ให้สังเกตุป้ายบอกทางเข้าวัดสังกระต่าย จะเลยวัดไผ่ล้อมไปเล็กน้อย ทางเข้าเป็นถนนเส้นเล็กๆ แต่ก็มีป้ายวัดชัดเจนดีครับ ให้ดูตามแผนที่ด้านล่าง เมื่อกลับรถ เราจะมองเห็นป้ายบอกทางไปเทศบาลตำบลศาลาแดง ให้เลี้ยวซ้านเข้าไปได้เลยครับ อีกประมาณ 200 เมตรก็ถึงโบสถ์ วัดสังกระต่ายแล้ว เรื่องราวคำบอกเล่าประวัติวัดสังกระต่าย ในอดีตนั้นเรียกว่า “วัดสามกระต่าย” ซึ่งเป็นชื่อที่กรมศาสนาลงชื่อไว้ตั้งแต่โบราณ… Read More »

เที่ยวชมโบสถ์สแตนเลส วัดหัวสวน เมืองแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา

เที่ยวชมโบสถ์สแตนเลส วัดหัวสวน เมืองแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา วันนี้ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดฉะเชิงเทราอีกครั้ง เพื่อจะไปชม Unseen ของเมืองแปดริ้วอีกแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ วัดหัวสวน ซึ่งมีจุดเด่นสำคัญและเป็นแลนด์มาร์คของวัดนั่นก็คือ โบสถ์สแตนเลส ทั้งหลัง เป็นการสร้างจากวัสดุที่แปลกแตกต่างจากวัดโดยทั่วไป ด้วยมีวัตถุประสงค์คือต้องการให้โบสถ์แห่งนี้มีอายุยาวนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ความเป็นมาของวัดหัวสวน ปัจจุบัน ณ ปี พ.ศ. 2557 ถือว่าวัดหัวสวนมีอายุกว่า 115 ปี มาแล้ว  เมื่อปี พ.ศ. 2440 ชาวบ้านในละแวกหัวสวน ได้มีมติเห็นพ้องกันว่า ควรที่จะสร้างวัดเพื่อเป็นศูนย์รวมของชาวบ้านที่มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เนื่องจากวัดแห่งอื่นมีระยะทางที่ห่างไกลออกไป โดยผู้ที่เริ่มบริจาคที่ดินให้สร้างวัดคือ นายทอง นายแสง นายพุ่ม และนายปั่น และเริ่มสร้างวัดใน ปี พ.ศ. 2440 ได้รับอนุญาตให้ตั้งเมื่อ ปี พ.ศ. 2443 และ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ ปี พ.ศ. 2471  เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร โดยมีพระอาจารย์ปลั่ง เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก โบสถ์สแตนเลส วัดหัวสวน โบสถ์สแตนเลส วัดหัวสวน ตั้งอยู่ที่ ตำบลเสม็ดใต้ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา สร้างด้วยสแตนเลสทั้งหลัง โดยมีจุดประสงค์ให้โบสถ์แห่งนี้มีอายุยาวนาน… Read More »