วัดเวฬุวันหรือวัดเขาจีนแล ตามรอยตำนานขุนเขาลพบุรี ตอนเจ้ากงจีน

https://youtu.be/7UZH0J_PiVc มาเดินทางท่องเที่ยวกันต่อครับ ในการท่องเที่ยววัดตามรอยตำนานขุนเขาเมืองลพบุรี ซึ่งก็ใกล้จะครบตามโปรแกรมแล้ว ครั้งนี้เรามากันถึง วัดเวฬุวันหรือวัดเขาจีนแล เนื่องจากวัดแห่งนี้อยู่กลางหุบเขาจีนแล ด้านบนของขุนเขาจะประดิษฐานพระพุทธรูป “พระพุทธธรรมรังษี มุนีนาถศาสดา” ซึ่งสร้างตามดำริของท่านพ่อลี อดีตเจ้าอาวาสวัดอโศการาม การเดินขึ้นสู่จุดสูงสุดที่วัดแห่งนี้ จะขึ้นบันไดด้วยความสูง 436 ขั้น ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าเป็นอุปสรรคนักเพราะผมเคยเดินขึ้นเขาที่สูงกว่านี้มาก แต่ด้วยอากาศร้อนในวันที่ผมเดินทาง ก็ทำเอาคิดหนักเหมือนกัน กว่าจะตัดสินใจเดินขึ้นไป ก็ต้องคิดหลายรอบ วัดเวฬุวันหรือวัดเขาจีนแล มีเรื่องราวสอดคล้องตามตำนานขุนเขาเมืองลพบุรีที่ว่า ครั้งหนึ่งลพบุรีเป็นเมืองท่าสำคัญที่ทำการติดต่อซื้อขายกับชาวจีน ต่อมาเจ้ากงจีนได้ขนสินสอดมาทางเรือสำเภาเพื่อมาสู่ขอนางนงประจันทร์ แต่เรือได้ล่มลง ลูกเรือชาวจีนต่างก็กระโจนลงจากเรือ และแลมองทรัพย์สมบัติต่างๆ จมลงสู่ท้องทะเล ต่อมาได้เกิดขุนเขาขึ้นมา ณ จุดตรงนี้ จึงเรียกว่าเขาจีนแล หรือเขาจีนโจน นั่นเอง การเดินทางวันนี้ ได้เห็นสภาพบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงามมากครับ แต่เสียดายที่ผมมาช้าไปนิด เพราะเส้นทางนี้จะปลูกดอกทานตะวันสวยงามมาก แต่วันที่ผมเดินทางก็เป็นช่วงที่ดอกทานตะวันร่วงโรยไปหมดแล้ว ขับรถมาตามถนน ก็เห็นผู้คนนักท่องเที่ยวต่างเดินทางและหยุดถ่ายรูปอยู่เป็นระยะ เพราะทิวทัศน์จะสวยงามจากธรรมชาติของขุนเขา เมื่อเข้าสู่พื้นที่วัด จะเห็นซุ้มประตูเป็นหัวหนุมาน ดูแปลกตาดีครับ เมื่อเดินทางมาถึงวัด ก็ได้หาที่จอดรถ ซึ่งก็มีกว้างขวางมากครับ จอดได้ตามสะดวก แต่ก็ระมัดระวังฝูงลิงไว้บ้างก็ดี เพราะมีเยอะพอสมควร บรรยากาศที่เราเดินทางมาถึงต้องบอกว่าร้อนเอาการ จึงมีผู้คนเดินทางมาน้อย แต่ผมเชื่อว่าในช่วงอากาศเย็นๆ สถานที่แห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งในการเดินทางท่องเที่ยวและปฏิบัติธรรม เพราะอยู่ท่ามกลางขุนเขา…ผมคิดอยู่ในใจว่า จะหาโอกาสเดินทางไปช่วงฤดูหนาวอีกสักครั้ง คงจะได้บรรยากาศที่ดีกว่านี้ จากนั้นกลุ่มของเราก็พากันเดินทางเพื่อหาทางขึ้นเขา ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ด้านบน กลุ่มของผมมาเดินมาถึงทางขึ้น ก็พากันมองหน้ากันและกัน เป็นนัยว่า เราจะขึ้นกันมั้ย … ผมจึงตัดสินใจบอกว่า ไหนๆก็มากันแล้ว ไม่ใช่มาได้บ่อยๆ ก็ขอขึ้นไปเลยแล้วกัน…… Read More »

วัดนาจานหรือวัดเขาหนีบ ที่เขาพับผ้า ตามรอยตำนานขุนเขา ตอนเจ้ากงจีน

https://youtu.be/tGvZafultc8 เรามาท่องเที่ยวกันต่อครับ ในการเดินทางตามรอยตำนานแห่งขุนเขาเมืองลพบุรี ในตอนเจ้ากงจีน และก็มาถึงวัดนาจานหรือวัดเขาหนีบกันแล้วครับ วัดแห่งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวข้องในตำนานที่กล่าวว่า เมื่อเรือเจ้ากงจีน บรรทุกสินสอดมาสู่ของนางนงประจันทร์ และล่มลงนั้น ผ้าชั้นดีต่างๆ ได้ล่องลอยตามท้องทะเล และมาจมลงบริเวณใกล้เคียงกับวัดนาจานแห่งนี้ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า “เขาพับผ้า” หรือ “เขาหนีบ” วัดนาจาน จะตั้งอยู่อยู่ด้านหน้าเขาพับผ้า หรือเขาหนีบ ซึ่งด้านบนจะประดิษฐานพระพุทธรูปไว้ สามารถเดินขึ้นไปกราบไหว้บูชากันได้ วัดเขาหนีบอยู่ไม่ห่างจาก วัดศรีรัตนคีรี (เขาแก้ว) เท่าไหร่นัก โดยเราเดินทางไปที่บ้านเขาหนีบตาม GPS ขับรถไปได้ไม่นานนัก ก็จะเห็นขุนเขา มีลักษณะเป็นชั้นๆ เหมือนตามตำนานที่ว่า เหมือนชั้นของผ้าที่พับไว้ เมื่อเดินทางมาถึงวัดนาจานหรือวัดเขาหนีบแล้ว กลุ่มของเราก็หาที่จอดรถซึ่งก็กว้างขวางครับ เลยจอดไว้ใกล้ปากทางเข้าวัด มาถึงวัดซึ่งก็มีบรรยากาศเงียบเหงาครับ เพราะไม่ใช่ช่วงงานบุญ เราก็เลยเดินไปยังเขาหนีบหรือเขาพับผ้ากันเป็นอันดับแรก ลักษณะภูเขา จะมีความสูงไม่มากนัก แต่ด้วยอากาศร้อนๆ ก็คงจะเหนื่อยเอาการเหมือนกัน …มีเรื่องที่น่าแปลกอีกอย่างหนึ่งคือ บ่อยๆครั้งที่ผมเดินทางไปเที่ยววัดและเดินขึ้นเขา มักจะมีแดดร่มลง ซึ่งผมก็นึกแปลกใจเหมือนกัน และก็มีผลดีกับการเดินทางในทุกๆครั้ง ป้ายด้านล่าง จะติดรูปพระพุทธรูปขนาดใหญ่ซึ่งประดิษฐานอยู่ด้านบน มีพระนามว่า “หลวงพ่อใหญ่อนันตพุทธอุดมเขตต์” เนื่องจากการเดินขึ้นเขาไม่สูงนัก จึงพากันเดินขึ้นได้แบบสบายๆ เมื่อขึ้นมาถึงเป้าหมายกันแล้ว ก็เดินชมบรรยากาศ แม้จะร้อนแต่ก็แดดร่ม ถ้าแดดออกมีหวังได้รีบเดินลงดันเลยทีเดียว เพราะแทบหาร่มเงาหยุดพักกันไม่ได้เลย ด้านบนจะมีคล้ายทีพักสงฆ์ 1 หลัง แต่ไม่เห็นพระอยู่ครับ เราก็เลยต้องเดินถ่ายรูปกันอย่างรีบเร่ง เกรงว่าแดดจะออกมาเสียก่อน ซึ่งก็ได้บรรยากาศดีครับ ได้ชมวิวทิวทัศน์ด้านบน ที่น้อยคนจะเดินขึ้นมา   หลังจากพากันเก็บภาพกันได้หนำใจกันหมดแล้ว ก็ได้เวลาเดินลงไปด้านล่าง… Read More »

วัดศรีรัตนคีรี (เขาแก้ว) ตามรอยตำนานขุนเขาลพบุรี ตอนเจ้ากงจีน

https://youtu.be/t3VXSFjTcjc สวัสดีครับ วันนี้เรามาเดินทางกันต่อในโปรแกรมภารกิจเที่ยววัด ตามรอยตำนานขุนเขาเมืองลพบุรี มาถึงตอนวัดศรีรัตนคีรี (เขาแก้ว) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองลพบุรี วัดศรีรัตนคีรี ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าศาลา อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี เมื่อมาถึงวัด จะเห็นภูเขาหินขนาดเล็กๆ ไม่สูงมากนัก ด้านบนเป็นที่ตั้งของพระวิหาร ดูเด่นสวยงามมากครับ บรรยากาศช่วงที่ไปถึง มีงานบุญ ซึ่งก็ดูคึกคักพอสมควร มีร้านค้าของกินเพียบครับ ผมเดินชมบรรยากาศโดยรอบพระอุโบสถ และมองดูวิหารด้านบน ก็นึกแปลกใจว่าทำไมมีภูเขาอยู่กลางเมืองเช่นนี้ ซึ่งสวยงามเด่นมากครับ ถ้าขับรถผ่าน จะมองเห็นได้ชัดเจน จากนั้นผมก็เดินขึ้นไปยังเขาแก้วเพื่อเก็บภาพบรรยากาศ เมื่อขึ้นมาด้านบน แม้อากาศจะร้อนแต่มีลมพัดแรงมากเลยครับ ทำให้ผ่อนคลายไปได้เยอะ เป็นบรรยากาศการเดินทางพักผ่อนที่มีความสุขจริงๆ จากตำนานเรื่องเล่าตำนานการเกิดขุนเขาต่างๆ ในลพบุรี ได้กล่าวว่าหลังจากที่เรือสำเภาของเจ้ากงจีนล่มลง แก้วแหวนเงินทองต่างๆ ได้ล่องลอยมา และจมลง ณ บริเวณวัดแห่งนี้ และเกิดภูเขาขึ้นมา จึงเรียกชื่อว่า “เขาแก้ว” และเรียกวัดที่นี่ว่า “วัดศรีรัตนคีรี” เรื่อราวตำนาน ที่สนุกสนานนี้ ผมขอยกบทความมาจากบทความก่อนๆ ดังนี้ ตำนานเมืองลพบุรี เกี่ยวกับภูเขาต่างๆ จากตำนานเจ้ากงจีน ตามตำนานเรื่องเล่าสืบต่อกันมานานแสนนาน เมื่อครั้งที่ลพบุรีเป็นเมืองท่าสำคัญได้มีการทำการค้ากับชาวจีน โดยชาวจีนจะล่องเรือสำเภานำสินค้ามาแลกเปลี่ยนกับชาวลพบุรี ครั้งหนึ่งเศรษฐีจีนที่ทำการค้า บางคนเรียกว่าเจ้ากงจีน เป็นชาวจีนที่มีบทบาทในการทำการค้าในสมัยนั้น และบ่อยๆครั้งมักจะสู่ขอหญิงสาวมาเป็นภรรยาของตนในทุกที่ ที่ตนเดินทางไป และครั้งนี้ก็เช่นกัน…เศรษฐีจีนได้ตกหลุมรักนางนงประจันทร์ ชาวเมืองลพบุรี จึงได้เดินทางไปสู่ขอนางกับพ่อของนาง ฝ่ายพ่อของนางนงประจันทร์เห็นว่าสินสอดที่มาสู่ขอนั้น มีจำนวนมากจึงได้ตอบตกลงไป ฝ่ายนางนงประจันทร์ มีคนรักอยู่แล้ว จึงไม่ได้คล้อยตามพ่อและไม่มีความต้องการที่จะแต่งงานกับเศรษฐีจีน…เรื่องการสู่ขอนี้ ทราบไปถึงคนรักของนางนงประจันทร์ซึ่งเป็นคนที่มีวิทยาคมแก่กล้า สามารถแปลงกายเป็นอะไรก็ได้ จึงได้คิดขัดขวางการสู่ขอครั้งนี้… Read More »

เที่ยววัดเขาวงกฏ ชมถ้ำค้างคาวใหญ่ที่สุดในลพบุรี

https://youtu.be/y8yxA8vhANU สวัสดีครับ มาพบกันอีกครั้งในทริปเที่ยววัดของผม การเดินทางในวันนี้ต้องบอกว่ามีบรรยากาศที่ร้อนแบบตับจะแตกเอาให้ได้ แต่ก็ถือว่ายังโชคดีอยู่เหมือนกันที่ในวันที่ผมเดินทางนั้นท้องฟ้าจะครึ้มๆ ไม่มีแดดออก… ถ้ามีแสงแดดออกมาด้วยคงจะลำบากเอาการสำหรับการท่องเที่ยววัดในครั้งนี้ เป้าหมายของผมมาอยู่ที่วัดเขาวงกฏ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี … สำหรับจุดเด่นสำคัญของวัดแห่งนี้ ที่ผมต้องเดินทางมาคือ จะมีถ้ำค้างคาวขนาดใหญ่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นถ้ำค้างคาวที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดลพบุรี มีค้างคาวอาศัยอยู่กว่าล้านตัว นอกจากนี้ที่วัดแห่งนี้ ก็ได้ปรากฏในตำนานเมืองลพบุรีเกี่ยวกับยักษ์โคตตะบอง ที่ได้จับชาวบ้านกินเป็นอาหารอีกด้วย … ผมเห็นว่าเรื่องราวแปลกและน่าสนใจ จึงวางแผนมาท่องเที่ยวในวันนี้ รายละเอียดคร่าวๆ ของวัดเขาวงกฏ วัดเขาวงกต ตั้งอยู่ที่เขาสนามแจง ตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ตั้งอยู่ในวงล้อมของเขาทั้ง 3 ด้าน เป็นหุบเข้าเปิด ทางเข้าและออกอยู่ทางทางทิศตะวันออก เดิมเป็นที่พักสงฆ์ทิ้งร้างอยู่ เมื่อประมาณปี พ.ศ.2460 หลวงพ่อเพา พุทธสโร เห็นว่าเป็นที่สงบ จึงได้เป็นวัดโดยสมบูรณ์ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2471 วัดเขาวงกตเป็นวัดที่อยู่ในวงล้อมของภูเขาสามด้าน มีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ มีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ตั้งประดิษฐานอยู่เชิงเขาทางทิศตะวันตก มีเรือสำเภาอยู่ปากทางเข้าซึ่งใกล้กับเสาหงส์ เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง มีสมเด็จหลวงพ่อเมตตา (พระพิชิตมาร) ที่จำลองมาจากประเทศอินเดีย ในมณฑปมีรูปหล่อหลวงพ่อเพา ซึ่งเป็นผู้สร้างวัดเขาวงกฎขึ้นมา ปราสาทตรีมุขเป็นที่เก็บรักษาสังขารในโลงแก้วของหลวงพ่อเจริญ อดีตเจ้าอาวาสวัดซึ่งศพไม่เน่าเปื่อย บนยอดเขามีพระนาคปรกทิพยมุนีคีรีวงกฎ ประดิษฐานอยู่และสามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของวัดวงกตและอำเภอบ้านหมี่ได้อย่างสวยงามและ หน้าวัดมีเจดีย์สร้างอยู่บนเรือสำเภา อนุสรณ์ของหลวงพ่อเภาผู้สร้างวัดนี้ สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของทางวัดอีกสองอย่างคือ ค้างคาว อาศัยอยู่ในถ้ำใกล้อุโบสถ กลางเขาด้านทิศเหนือ เป็นถ้ำค้างคาวที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดลพบุรี ภายในถ้ำมีค้างคาวนับล้านๆ… Read More »

กราบหลวงพ่อก้ามปู พระพุทธรูปเก่าแก่หลายร้อยปี อ.ท่าวุ้ง ลพบุรี

https://youtu.be/mRQQcCr1APQ สวัสดีครับ กับการเดินทางท่องเที่ยววัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปของผม วันนี้ผมเดินทางในวันหยุดในบรรยากาศแสนร้อนระอุในช่วงเดือนเมษายน ต้องบอกว่าร้อนมากจริงๆ มีลใพัดแต่ก็เป็นลมที่หอบเอาความร้อนซึ่งน่าจะมีอุณหภูมิแตะถึงระดับ 40 องศาเซลเซียส ผมวางแผนการเดินทางไปยังอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี การเดินทางจะผ่านอำเภอท่าวุ้ง จึงได้แวะกราบสักการะหลวงพ่อก้ามปู ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก ที่เก่าแก่มาก สันนิษฐานว่ามีอายุในสมัยลพบุรีเลยทีเดียว จากข้อมูลพบว่าหลวงพ่อก้ามปูแต่เดิมนั้นประดิษฐานที่วัดประดู่ (ร้าง) ซึ่งเป็นวัดร้างที่อยู่ใกล้เคียงกับวิหารตรงนี้ ซึ่งผมก็ได้ไปเที่ยวชมมาแล้ว ลองอ่านในบทความวัดประดู่ (ร้าง) ได้นะครับ วิหารหลวงพ่อก้ามปู จะอยู่ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ใกล้กับตลาดท่าวุ้ง จึงเป็นที่เคารพนับถือของชาวตลาดท่าวุ้งและชาวอำเภอท่าวุ้งเป็นอย่างมาก และผมก็เช่นกัน ก่อนเดินทางจึงขอแวะเข้าไปกราบไหว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลกันเสียก่อน จุดจอดรถจะอยู่ที่หน้าป้ายที่ว่าการอำเภอท่าวุ้ง สามารถจอดรถได้ยาวตลอดแนวเลยครับ แต่ก็ระวังการสัญจรให้ดี เพราะมีรถสวนผ่านมากมาย จากนั้นผมก็เดินมายังวิหาร ซึ่งเป็นความร่วมมือในการก่อสร้างของชุมชน ซึ่งมีสภาพสวยงามและถาวรดีมากครับ… เมื่อเข้าไปยังวิหาร ท่านสามารถจุดธูปเทียนบูชาขอพรกันได้… เท่าที่สังเกตุจะมีชาวบ้านแวะเวียนกันมากราบไหว้อยู่เรื่อยๆครับ เพราะเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่มากองค์หนึ่งของอำเภอท่าวุ้ง ผมได้ทำการกราบไหว้ขอพร และก็เดินถ่ายรูปกลับมาเป็นที่ระลึก และลองค้นหาข้อมูลมาเขียนประกอบบทความ ก็พบว่ามีผู้ที่เขียนเรื่องราวไว้แล้ว จึงขอหยิบยกมาเขียนไว้ในบล็อกแห่งนี้ด้วยครับ ประวัติหลวงพ่อก้ามปู พอสังเขป หลวงพ่อก้ามปู หรือ หลวงพ่อพระพุทธสีหนาท ประดิษฐานที่วิหาร หน้าที่ว่าการอำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ริมทางหลวงถนนหมายเลข ๓๑๑ หรือถนนสายลพบุรี – สิงห์บุรีสำหรับวิหารที่ประดิษฐานหลวงพ่อก้ามปู หรือหลวงพ่อพุทธสีหนาท สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๔ – ๒๕๒๕ ใช้เงินบริจาคจากประชาชน จำนวน ๒๕๐,๐๐๐ บาท ในช่วงที่นายวัฒนะ เก็จมะยูร… Read More »

เที่ยวชมวัดประดู่ (ร้าง) โบราณสถานสวยงามร่มรื่นที่ อ.ท่าวุ้ง ลพบุรี

https://youtu.be/kfRWUkKhQqE สวัสดีกันอีกครั้งกับภารกิจเที่ยววัดอย่างสร้างสรรค์ ผมจะพาทุกท่านไปชมความงามของโบราณสถานวัดประดู่ (ร้าง) ที่ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี … ตามโปรแกรมการท่องเที่ยวครั้งนี้ แต่เดิมไม่ได้มีแผนที่จะเที่ยวที่โบราณสถานแห่งนี้ แต่บังเอิญเป็นทางผ่าน จึงขอแวะชมบรรยากาศกันสักหน่อย เพราะน้องที่เดินทางด้วยบอกว่ามีความสวยงามจากต้นโพธิ์ที่โอบล้อมพระอุโบสถ วัดประดู่ (ร้าง) ตั้งอยู่ในเขตชุมชน หมู่ที่ 1 ตำบลบางคู้ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 119 ตอนที่ พิเศษ 119ง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2545 ประวัติการสร้างวัดแห่งนี้ ไม่พบหลักฐานการบันทึกทางเอกสาร ลักษณะทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม เป็นอาคารสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่ออิฐถือปูนขนาดกว้าง ยาวประมาณ 8 x 13เมตร มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นบนพระอุโบสถ ส่วนหลังคาหักพังชำรุดเหลือฐานและผนัง 3 ด้าน ภายในอุโบสถมีการประดิษฐานพระพุทธรูปไว้ที่ฐานชุกชี … พื้นที่โดยรอบเป็นชุมชน มีร้านค้าและร้านอาหารตามสั่ง … สภาพโดยรวมสะอาดตาดีมากครับ ซึ่งต้องยกผลงานให้กับ องค์การบริหารส่วนตำบลบางคู้ ที่ได้ดูแลโบราณสถานแห่งนี้เป็นอย่างดี บรรยากาศแม้จะร้อน แต่เมื่อเดินเข้ามายังบริเวณนี้ จะรู้สึกถึงความร่มเย็นเนื่องจากมีต้นไม้ใหญ่เป็นร่มเงา ภายในพระอุโบสถ มีการประดิษฐานพระพุทธรูป และสร้างศาลาครอบกันแดดและฝนด้วยครับ บรรยากาศการเดินทางในวันนี้ ต้องบอกว่าร้อนแบบสุดๆ แต่เมื่อเดินทางมาถึงที่นี่ ก็ยังพอให้รู้สึร่มเย็นได้ครับ มีลมพัด เสียงใบไม้ไหว บรรยากาศจากร้อนก็กลับกลายมาเป็นผ่อนคลายดีจริงๆ ยังไงก็ขอเรียนเชิญมาท่องเที่ยวกันได้นะครับ ข้อมูลเพิ่มเติม ในอุโบสถวัดประดู่(ร้าง) เมื่อประมาณ ๗๘… Read More »