วัดหนองบัว(ใหญ่) ลพบุรี ซากวัดจมใต้น้ำเขื่อนป่าสัก โผล่ให้เห็นจากภัยแล้ง… สวัสดีครับ ท่านผู้รักการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปพบกับความ Unseen ของซากวัดที่จมใต้น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์กว่า 20 ปี ได้โผล่ให้เห็นอีกครั้งจากวิกฤตการณ์ภัยแล้ง (ขณะเขียนบทความ ปี พ.ศ.2562)
ผมได้ทราบข่าวจากหลายสำนักข่าวว่า เกิดวิกฤตการณ์ภัยแล้ง น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลดลงไปเหลือเพียง 4% (จากความจุ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือเพียง 38 ล้านลูกบาศก์เมตร) เป็นเหตุให้เกิดสภาพสันดอนใต้น้ำปรากฏให้เห็น รวมถึงซากวัดหนองบัว(ใหญ่) ที่ตั้งอยู่ที่ ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สร้างขึ้นสืบเนื่องจากปัญหาการเกิดน้ำท่วมในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสักในฤดูน้ำหลากและขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี
ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานพระราชดำริให้กรมชลประทานศึกษาความเหมาะสมถึงการสร้างเขื่อนเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ทั้งบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และบริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอีกด้วย
จนกระทั่งวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้เปิดโครงการก่อสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำแม่น้ำป่าสัก ภายหลังการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมแล้ว
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างกว่า 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2537 ถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2542
การก่อสร้างเขื่อนป่าสักฯ ดังกล่าว ทำให้ต้องมีการเวนคืนและย้ายชุมชนเพื่อทำการกักเก็บน้ำสร้างเขื่อน ซึ่งวัดหนองบัว(ใหญ่) ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ ที่ต้องย้ายที่ตั้งไปตั้งยังสถานที่ใหม่ด้วยเช่นกัน ทำให้พื้นที่วัดหนองบัวจมใต้น้ำ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2542 เป็นต้นมา
จากข้อมูลพบว่า เหตุการณ์ภัยแล้ง จนสามารถเห็นซากวัดหนองบัว(ใหญ่) ได้เกิดขึ้นมาแล้วครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2558 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2562
การเดินทาง
เมื่อผมได้ทราบข่าว จึงได้เดินทางไปเที่ยวและชมซากวัดในวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2562 ซึ่งการเดินทางสะดวกมากครับ ท่านที่สนใจเดินทางเที่ยวชม ให้รีบมาช่วงนี้ก่อนที่ฝนอาจจะตกหนักนะครับ
การเดินทางให้มาที่เขื่อนป่าสักฯ แล้วเลี้ยวซ้ายมาทางบ้านพักสวัสดิการ จากนั้นให้สอบถามผู้คนในพื้นที่ เพราะไม่มีป้ายบอกทาง หรือดูคลิปที่ผมติดไว้ให้ประกอบครับ
กรณีที่ฝนไม่ตก สามารถนำรถทุกชนิดลงไปได้ จะมีบางช่วงที่เป็นทางลงเขื่อนจะค่อนข้างชัน ถ้าฝนตกอาจมีผลทำให้พื้นถนนลื่น ยังไงก็ขอให้ระวังด้วยครับ สำหรับมอเตอร์ไซต์สามารถขับไปถึงได้สะดวกที่สุดเลยครับ
สิ่งที่ควรเตรียมไปด้วยคือรองเท้าแตะ เพราะเราจะต้องเดินลุยน้ำเล็กน้อย เพื่อป้องกันเศษหินและเปลือกหอยครับ
ซากวัดที่ได้เห็น
เท่าที่สังเกตุ จะมีซากของโบสถ์มหาอุตม์ สังเกตุได้จากซุ้มใบเสมาทั้ง 8 ทิศที่ยังหลงเหลือซากให้เห็น และประตูทางเข้ามีเพียงด้านหน้าเพียงด้านเดียว, ซากอาคารและบันได้นาค (จากข้อมูลว่าเป็นหอฉัน), ซากห้องน้ำท้ายวัด, ซากเชิงตะกอน และซากอาคารอื่นๆ
อีกทั้ง ยังพบซากพระพุทธรูปปูนปั้น ที่เศียรชำรุดหายไป, ซากโกฐบรรจุอัฐิ, ซากกระถางต้นไม้ และซากวัตถุอื่นๆ เช่น พระพุทธรูป, เศษถ้วยกระเบื้อง
วัดหนองบัว(ใหญ่) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ Unseen แม้จะเป็นวิกฤติแต่ก็ถือเป็นโอกาสเพราะไม่ได้เกิดเหตุการณ์ภัยแล้งให้เยี่ยมชมได้ทุกปี จึงถือเป็นโอกาสที่จะได้ไปท่องเที่ยวเพื่อเก็บภาพเป็นที่ระลึก ก่อนที่ฝนอาจจะตกลงมาอีกครั้ง แต่เหนือสิ่งอื่นใด จากเหตุการณ์นี้อาจจะทำให้หลายคนตระหนักถึงภัยแล้ง ซึ่งเราทุกคนต้องใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุดครับ
ขอขอบคุณการติดตาม แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไป สวัสดีครับ… แอดมินตั้ม
ช่องทางการติดตาม
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจภารกิจเที่ยววัด ได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel FaithThaiStory ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด