เที่ยววัดนิเวศธรรมประวัติ วัดไทยศิลปะแบบยุโรปแห่งเดียวในประเทศ
สวัสดีกันอีกครั้ง คงพากันเดินทางท่องเที่ยวมากมายกันนเะครับ ส่วนตัวผมเองช่วงนี้มีอาการไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นัก ก็เลยห่างหายกับการเดินทางไปสักพักใหญ่ๆ และวันนี้ก็ยังมีอาการที่ไม่หายดี แต่ด้วยเหมือนจะมีอาการค้างคาใจ กับการไม่ได้ไปไหน ก็เลยต้องผลักตัวเองออกจากบ้าน แต่ครั้งนี้ก็ไม่ได้ไปลุยที่ไหนไกลๆนะครับ ผมลองค้นหาข้อมูลสถานที่ใกล้ๆ แต่สวยงาม ก็เลยลงมติ (กับใจตัวเอง) ว่าจะไปที่วัดนิเวศธรรมประวัติ เพราะมีระยะทางไม่ไกลนัก ตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใกล้เคียงกับพระราชวังบางปะอิน
ความพิเศษของวัดนิเวศธรรมประวัติ คือ มีลักษณะโดดเด่นในด้านศิลปะ ที่เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมศิลปะแบบโกธิค ซึ่งเป็นศิลปะสมัยกลางของยุโรป สิ่งก่อสร้างภายในวัดทุกอย่างเป็นการก่อสร้างในแบบศิลปะแบบยุโรปทั้งสิ้น ซึ่งน่าจะเป็นเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่นำศิลปะแบบยุโรปมาสร้างประสานกับวัดในศาสนาพุทธ ได้อย่างลงตัว
นี่แหละครับความแปลก และ Unseen ของวัดนิเวศธรรมประวัติ นอกจากความแปลกของศิลปะที่ผสานเข้ามากับการสร้างวัดไทยแล้ว ก็มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ในการสร้าง ซึ่งสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าให้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้น ในปี พ.ศ. 2419 เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชกุศล เมื่อเสด็จมาประทับแรมอยู่ที่พระราชวังบางปะอิน
การเดินทางไปวัดนิเวศธรรมประวัติ
เมื่อทราบข้อมูลคร่าวๆ ดังกล่าวแล้ว ผมก็ลุกจากที่นอนออกเดินทางราวๆ 15.00 น. ผมใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 ชั่วโมง โดยเดินทางมาที่อำเภอบางปะอิน ผ่านนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เมื่อถึงสี่แยกไฟแดง ให้ขับตรงไปตามเส้นทางไปตัวอำเภอเลยครับ จากนั้นจะเห็นป้ายบอกทางเป็นระยะๆ รับรองไม่หลงทางแน่นอน ก่อนถึงพระราชวังบางปะอิน จะถึงลานจอดรถของวัดนิเวศธรรมประวัติก่อนให้เลี้ยงเข้าไปจอดได้เลยครับ พื้นที่ก็มีมากพอสมควร … สำหรับผมเดินทางมาถึง ก็พบว่าแต่ละคนเขาก็พากันทยอยกลับกันแล้วหล่ะครับ
การเดินทางไปยังพื้นที่วัด จะต้องนั่งกระเช้าข้ามแม่น้ำนะครับ เป็นบริการฟรีจากทางวัด จากสภาพดูแล้วก็น่าจะปลอดภัยดีครับ ผมก็ไม่ทราบเหตุผลที่ไม่มีการสร้างสะพาน ถ้านั่งกระเช้าไปเรื่อยๆ ค่าไฟฟ้าก็น่าจะใช้เยอะเหมือนกัน ยังไงก็บริจาคกันด้วยก็ดีนะครับ มีกล่องรับบริจาคค่าไฟฟ้าที่ท่าขึ้นกระเช้าด้วย
เมื่อข้ามมาถึงฝั่งวัดแล้ว ก็ได้พบกับบรรยากาศอันร่มรื่น ของต้นไม้ที่ถูกปลูกและจัดสถานที่ได้สวยงาม และบริเวณท่าน้ำจะมีศาลาพักผ่อนอยู่อีกหลายหลัง
จากนั้นผมก็เดินเข้าสู่พื้นที่วัด โดยเริ่มจากบริเวณด้านหน้าพระอุโบสถก่อน จะเห็นต้นศรีมหาโพธิ์ขนาดใหญ่ บนสนามหญ้าสีเขียว ใต้ต้นโพธิ์ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์สีทอง และมองเห็นศาลาการเปรียญหลังใหญ่สวยงามมาก
จากนั้นผมก็เดินเข้าไปยังพื้นที่เขตพระอุโบสถ ซึ่งสำหรับวันนี้ที่ผมเดินทางไป ก็มีความรู้สึกเสียดายพอสมควรเพราะพระอุโบสถอยู่ในระหว่างการบูรณะ จึงมีสภาพนั่งร้านตั้งอยู่ภายนอกโดยรอบ ทำให้บดบังความสวยงามของพระอุโบสถไปพอสมควร
ภายนอกพระอุโบสถจะมองเห็นยอดแหลมเหมือนโบสถ์ในศาสนาคริสต์อย่างชัดเจน ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเด่นสำคัญของวัดนิเวศธรรมประวัติ
ด้านหน้าพระอุโบสถ จะมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงปลูกเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2460
ภายในพระอุโบสถ จะมีนักท่องเที่ยววนเวียนเข้ามาเป็นระยะๆ เพื่อเข้ามาชมความงามของพระอุโบสถและกราบไหว้นมัสการพระพุทธรูปด้านใน
พระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถมีนามว่า “พระพุทธนฤมลธรรโมภาส” เป็นฝีพระหัตถ์พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ นอกจากพระพุทธรูปประธานแล้ว ยังมีพระพุทธรูปสำคัญประดิษฐานอยู่ด้วยดังนี้
เบื้องหน้าพระพุทธรูปประธานประดิษฐานพระพุทธรูปนิรันตราย เพื่ออุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4)
เบื้องขวาพระพุทธรูปประธาน ประดิษฐานพระพุทธรูปพระอาการลอยถาดข้าวมธุปายาส อุทิศถวายสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
เบื้องซ้ายพระพุทธรูปประธาน ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนจงกรม เพื่ออุทิศถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ภายในพระอุโบสถมีลักษณะเพดานสูง ช่องหน้าต่างสูง บานประตูและบานหน้าต่างทุกบานเป็นกระจกสลับสีคล้ายโบสถ์ในศาสนาคริสต์ และเหนือประตูทางเข้าพระอุโบสถมีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงเครื่องต้นทำจากกระจกสีสวยงาม
หลังจากที่ผมได้นั่งพักในพระอุโบสถสักครู่หนึ่ง ผมก็ออกเดินดูความสวยงามไปทั่วบริเวณวัด
ยอดหอระฆังหลังพระอุโบสถ จะมีพระเจดีย์สำริดปิดทอง ภายในพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วย
เดินชมพื้นที่สักพักจนถึงเวลาราวๆ 17.30 น. ผมก็เตรียมเดินทางกลับแล้วหล่ะครับ ซึ่งก็เริ่มมีปริมาณนักท่องเที่ยวน้อยลงเรื่อยๆ
สำหรับการเดินทางมาครั้งนี้ ผมรู้สึกประทับใจพอสมควร เสียอยู่อย่างเดียวคือ พระอุโบสถอยู่ในระหว่างการบูรณะ จึงทำให้การถ่ายรูปติดเอานั่งร้านมาด้วย สถานที่โดยรวมร่มรื่นดีครับ มีต้นไม้สวยงาม สะอาดตา เพราะมีการดูแลเป็นอย่างดี สมฐานะของพระอารามหลวงชั้นเอก จึงขอแนะนำว่าเป็นอีกวัดหนึ่งที่น่าเดินทางมาท่องเที่ยว อยู่ติดกับพระราชวังบางปะอิน เดินทางสะดวก ถือได้ว่าเป็นอีกแห่ง Unseen ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และน่าจะเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรปเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยอีกด้วย
สุดท้ายนี้ขอปิดท้ายด้วยข้อมูลพอสังเขปของวัดนิเวศธรรมประวัติมีเนื้อหาดังนี้
วัดนิเวศธรรมประวัติ เป็นพระอารามที่พระมหากษัตริย์ ทรงสถาปนาโดยตรง จึงมีฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิด ราชวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ 60 หมู่ 12 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ 38 ไร่ 3 งาน 49 ตารางวา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2419 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2421 สำหรับพระสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตนิกาย
เรียนเชิญมาเที่ยวกันนะครับ Unseen พระนครศรีอยุธยา วัดนิเวศธรรมประวัติ