สถานที่บรรลุธรรมอริยะแต่ละขั้น ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต… อริยะมี 4 ขั้น ได้แก่ โสดาบัน, สกทาคามี, อนาคามีและอรหันต์… ถ้าจะกล่าวถึงหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลายท่านไม่ปฏิเสธถึงคุณธรรมของหลวงปู่อย่างแน่นอน ถือได้ว่าท่านเป็นพระอรหันต์แห่งยุคกึ่งพุทธกาลเลยก็ว่าได้ เพราะท่านมีลูกศิษย์มากมายที่แตกหน่อธรรมเผยแผ่คำสอนไปมากมายทั้งประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
การเขียนเรื่องราวรวบรวมครั้งนี้เพื่อให้เกิดสังฆานุสติ ระลึกถึงคุณพระสงฆ์ผู้เป็นเนื้อนาบุญแห่งโลก เมื่อเราเดินทางไปยังสถานที่ใดที่เกี่ยวข้องกับครูบาอาจารย์ และได้ทราบเรื่องราว จะได้เกิดความปิติ ยินดีในกุศลที่เราได้ทำต่อไป
หลวงปู่มั่นได้อุปสมบทเมื่ออายุได้ 22 ปี ด้วยความอยากบวชเป็นกำลัง อีกทั้งพ่อแม่ของท่านได้อนุญาต ท่านจึงไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล แห่งวัดเลียบ จังหวัดอุบลราชธานี และได้อุปสมบทที่วัดศรีทอง ปัจจุบันคือวัดศรีอุบลรัตนาราม เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2436
โดยมีพระอริยกวี (อ่อน) เป็นพระอุปัชฌาย์
พระครูสีทา ชยเสโน เป็นพระกรรมวาจาจารย์
และพระครูประจักษ์อุบลคุณ (สุ่ย) เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายาว่า “ภูริทัตโต” แปลว่า “ผู้ให้ปัญญา ผู้แจกจ่ายความฉลาด” คงไม่ใช่ความบังเอิญที่ฉายาของหลวงปู่มั่น จะมีความหมายเช่นนี้ เพราะต่อมาท่านเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนลูกศิษย์มากมาย สมกับที่ท่านเกิดมาเพื่อขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาหลังยุคกึ่งพุทธกาลอย่างแท้จริง
หนึ่งในลูกศิษย์อุปัฏฐากหลวงปู่มั่นที่ยังทรงขันธ์ในปัจจุบัน(พ.ศ.2562) คือหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร แห่งวัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ
หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้เรียนกรรมฐานกับหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ซึ่งหลวงปู่เสาร์ได้พาธุดงค์เลียบลำน้ำโขงข้ามไปยังประเทศลาวและกลับมาไทย ไปนมัสการพระธาตุพนมและได้ชักชวนชาวบ้านให้มาช่วยกันบูรณะพระธาตุพนมจนมีสภาพที่สะอาดเพราะถูกปล่อยทิ้งร้างจนวัชพืชขึ้นรก
หลวงปู่เสาร์ได้พาหลวงปู่มั่นพำนักที่พระธาตุพนมระยะหนึ่งได้พบกับความอัศจรรย์แห่งพระธาตุพนม จนหลวงปู่เสาร์กล่าวขึ้นมาว่า ที่นี่มีพระอุรังคธาตุหรือกระดูกส่วนอกของพระพุทธเจ้าประดิษฐานไว้อยู่จริง
เมื่อกลับมาที่วัดเลียบในพรรษาที่ 3 หลวงปู่มั่นได้บรรลุธรรมขั้นโสดาบัน ที่วัดเลียบ จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นการปิดประตูสู่อบายภูมิ ไม่ลงต่ำกว่าความเป็นมนุษย์อีกต่อไป
หลวงปู่มั่น ยังคงปฏิบัติกรรมฐานอย่างมุ่งมั่นต่อไป และได้ธุดงค์ศึกษาธรรมแถบภาคกลางโดยได้ไปฟังข้อธรรมต่างๆและด้านพระปริยัติธรรมจากท่านพระอุบาลีคุณูปมาจารย์หรือหลวงปู่จันทร์ สิริจันโท(ผู้สร้างวัดสิริจันทรนิมิตรวรวิหาร ลพบุรี) ที่วัดปทุมวนาราม กรุงเทพ อยู่บ่อยครั้ง
และการมาจำพรรษาที่วัดปทุมวนารามนี้เอง ในพรรษาที่ 8 หลวงปู่มั่นได้บรรลุธรรมขั้นสกทาคามี เป็นพระอริยะขั้นที่ 2 อย่างเต็มภาคภูมิ
วัดปทุมวนารามได้รับสมญานามว่า “วัดป่ากลางกรุง” เพราะปัจจุบันตั้งอยู่ท่ามกลางย่านธุรกิจใกล้กับ BTS สยาม
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์หรือหลวงปู่จันทร์ สิริจันโท ผู้ให้ความรู้ด้านพระปริยัติธรรมแก่หลวงปู่มั่น
วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ สถานที่บรรลุสกทาคามีของหลวงปู่มั่น รูปจาก : https://commons.wikimedia.org/ This file is licensed under the Creative Commons
จากนั้นหลวงปู่มั่นได้ธุดงค์ออกแสวงหาธรรม ต่อไปยังถ้ำสาริกา ในเขตจังหวัดนครนายก ที่ถ้ำแห่งนี้มีเรื่องราวแห่งความอาถรรพ์มากมาย จนชาวบ้านได้ขอร้องไม่ให้หลวงปู่ไปพำนัก เพราะมีพระไปมรณภาพหลายรูป
แต่หลวงปู่มั่น ได้พิจารณาเห็นว่า ที่ถ้ำแห่งนี้มีความสงบเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม เมื่อเป็นลูกพระพุทธเจ้า ทำไมจึงต้องกลัวความตาย
ชาวบ้านจึงต้องจำใจยอมพาหลวงปู่ไปยังถ้ำสาริกา
และเป็นไปตามคาด หลวงปู่มั่นได้พบความอาถรรพ์ของถ้ำแห่งนี้ จนแทบเอาชีวิตไม่รอด ถึงขั้นอาพาธหนัก ถ่ายท้องจนแทบหมดแรง อาหารไม่ย่อย ฉันสิ่งใดเข้าไปก็ออกมาเช่นนั้น
แม้จะฉันยาที่ชาวบ้านเอามาให้ก็ไม่หาย หลวงปู่จึงพิจารณาแล้วว่า ถ้าเกิดจากการป่วยจริง ฉันยาต้องหายไปแล้ว แต่นี่ฉันยาเข้าไปแต่อาการทรุดหนัก ท่านจึงหยุดฉันยาทันที ใช้ธรรมโอสถในการรักษา ฝากเป็นฝากตายไว้กับพระธรรม จนสามารถชนะเรื่องราวอาถรรพ์ ณ ถ้ำแห่งนี้ได้สำเร็จ
และท่านได้บรรลุอริยะขั้นที่ 3 คือ อนาคามี ที่ถ้ำแห่งนี้ นั่นเอง ปัจจุบันคือ วัดถ้ำสาริกา จังหวัดนครนายก
การบรรลุอนาคามีผลที่ถ้ำสาริกา พบในบันทึกของหลวงตามหาบัว จากการฟังธรรมระหว่างอุปัฏฐากหลวงปู่มั่น
หลวงปู่มั่นยังคงออกธุดงค์แสวงหาความวิเวกต่อไป เพื่อไม่ให้ยึดติดสถานที่ เมื่อคุ้นเคยที่ใด จะออกธุดงค์ทันที ทั้งภาคอีสานจนเข้าสู่ภาคเหนือ
เรื่องราวการบรรลุอรหันต์ของหลวงปู่มั่น ได้จากการบอกเล่าของหลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป แห่งวัดอรัญญวิเวก อำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่
หลวงพ่อเปลี่ยนได้บอกว่า เรื่องราวนี้เปิดเผยเมื่อครั้งที่หลวงปู่มั่นพำนักที่ดอยนะโม อยู่ติดกับดอยแม่ปั๋งฝั่งตะวันออก คือ หลวงปู่มั่นได้บำเพ็ญเพียรที่ถ้ำดอกคำ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ อยู่ 2 ปี ราวปีพ.ศ.2477 – 2478 เมื่อออกจากถ้ำดอกคำ ไปอยู่ที่ดอยนะโม ขณะนั้นมีหลวงปู่แหวนและหลวงปู่ขาว คอยอุปัฏฐาก
หลวงปู่มั่น ได้พูดเปรยๆกับหลวงปู่แหวนและหลวงปู่ขาวว่า
“ตอนนี้ผมหมดงานทำแล้ว ก็อยู่สานกระบุง สานตะกร้าพอได้ช่วยเหลือพวกท่านไปเท่านั้น”
จึงสันนิษฐานกันว่า หลวงปู่มั่นสิ้นสุดภพชาติแล้วที่ถ้ำดอกคำ ปัจจุบันคือ วัดถ้ำดอกคำ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่นั่นเอง
ทั้งหมดนี้ เป็นสถานที่สำคัญที่ได้รับการบันทึกเกี่ยวกับการบรรลุธรรมของหลวงปู่มั่น หวังว่าจะเกิดประโยชน์เป็นสังฆานุสติต่อท่านผู้อ่าน เมื่อเดินทางไปยังสถานที่สำคัญของครูบาอาจารย์ต่อ
ขอบพระคุณการติดตาม แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไป สวัสดีครับ
YouTube : FaithThaiStory
ภาพพระอาจารย์ของหลวงปู่มั่น เมื่อครั้งอุปสมบท
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม เที่ยววัดและโบราณสถาน
เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com