ภารกิจเที่ยววัด ณ ลพบุรี ทริปที่ 1- ประจำปี 2559

https://youtu.be/JvKCMVm4Spc

สวัสดีครับกับภารกิจเที่ยววัด ในรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวแบบบ้านๆ ไม่มีสคริปและตัวแสดงแทน ครั้งนี้จะเป็นการเดินทางในทริปแรกของปี พ.ศ. 2559 ร่วมเดินทางไปกับทีมนักเดินทางที่มีความรักเช่นเดียวกัน กลุ่มเราได้วางแผนการเดินทางในวันที่ 16 มกราคม 2559 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ วันหยุดประจำสัปดาห์ และได้วางแผนท่องเที่ยวไว้มากกว่า 5 วัด โดยจะเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เวลา 6 โมงครึ่ง จากอยุธยาสู่ลพบุรี

เมื่อถึงเวลานัดหมาย ผมก็ได้เดินทางไปยังลพบุรี โดยมีแผนท่องเที่ยวตามสถานที่ดังนี้

แต่ละแห่งที่เราได้วางแผนเดินทางนั้น ล้วนมีจุดน่าสนใจแตกต่างกัน ทั้งนี้ในบทความนี้ผมจะเขียนเรื่องราวการเดินทางแบบรวมๆ และจะลงรายละเอียดในแต่ละแห่งแยกไว้ตามแต่ละสถานที่อีกครั้ง ถ้าผมได้อัพเดทเรื่องราวแต่ละแห่งแล้ว จะมีลิ้งค์ส่งไปยังบทความนั้นๆตามชื่อวัดด้านบนนะครับ

วันเดินทาง

เดินทางวันที่ 16 มกราคม 2559 เวลา 06:30 น. และก็ตรงเวลานัดหมาย ผมออกเดินทางกับเพื่อนร่วมทางที่อยุธยา ผ่านถนนสายเอเชียไปยังอำเภอท่าวุ้ง ลพบุรี … ด้วยความที่สนทนากันอย่างสนุกสนานทำให้ผมขับรถเลยเส้นทางไปไกลจนถึงวัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี เสียเวลาไปร่วม 30 นาทีเลยทีเดียว และต้องหาทางกลับรถเพื่อเข้าสู่เส้นทางที่ถูกต้อง

เมื่อกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องก็เริ่มต้องทำเวลา เพราะการเดินทางไปแต่ละแห่งนั้นมักจะใช้เวลาซึมซับบรรยากาศกันนานพอสมควร และก็มาถึงจุดนัดหมายที่อำเภอท่าวุ้ง เพื่อรับทีมงานอีก 1 คน … จึงเป็นอันว่าการเดินทางวันนี้เราร่วมเดินทางด้วยกันทั้งสิ้น 3 คน

จุดแรกที่เราจะเดินทางกันไปนั่นก็คือ วัดเขาสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ ซึ่งจะต้องขับรถต่อไปอีกราวๆ 20 กิโลเมตร

ณ เขาสนามแจง

จุดเด่นสำคัญก่อนถึงวัดเขาสนามแจง ก็คือจะเห็นภูเขาหินขนาดใหญ่ มีป้ายติดคำว่าเขาสนามแจงอย่างชัดเจน และกลุ่มเราก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

ถึงแล้วครับ วัดเขาสนามแจง

วัดแรกที่เรามาถึงก็คือ วัดเขาสนามแจง เป็นวัดที่มีความสำคัญคือ เป็นวัดสาขาวัดหนองป่าพง (หลวงพ่อชา สุภัทโท) สาขาที่ 177 ซึ่งผมเองก็เพิ่งทราบ เพราะเห็นป้ายหน้าวัด นอกจากนี้จุดเด่นสำคัญคือต้องเดินขึ้นสู่ยอดเขาด้วยความสูงกว่า 600 ขั้นบันได และเชื่อกันว่าด้านบนจะประดิษฐานรอยพระพุทธบาทอีกด้วย

เดินขึ้นสู่วัดเขาสนามแจง

เมื่อเห็นสภาพบันได ก็ต้องคิดไปถึงวัดเขาวงพระจันทร์เลยทีเดียว เพราะมีลักษณะบันไดขึ้นคล้ายๆกัน แต่จากความสูงนั้น ที่วัดเขาวงพระจันทร์ทรหดกว่าเยอะครับ

พระเจดีย์อมรจักรีศรีวิลัย

เมื่อเดินมาถึงยอดเขาก็จะพบกับพระเจดีย์อมรจักรีศรีวิลัย ซึ่งภายในจะมีรอยพระพุทธบาทให้สักการะ

รอยพระพุทธบาท ในพระเจดีย์

ปราสาทศิลปะเขมร

ใกล้เคียงกันจะเป็นปราสาทศิลปะเขมร ซึ่งก็ได้สร้างครอบรอยพระพุทธบาทไว้เช่นกัน ทั้งนี้ผมจะลงรูปเพิ่มเติมในบทความวัดเขาสนามแจงอีกครั้งครับ

ระหว่างการเดินชมสถานที่ทั้งหมด ได้มีพระอาจารย์ที่วัดได้เดินพาชมและแนะนำสถานที่อย่างละเอียดเลยหล่ะครับ

วิหารหลวงพ่อเกษม สันตจิตโต

จากนั้นพระอาจารย์ได้พาไปกราบสรีระสังขารหลวงพ่อเกษม สันตจิตโต พระผู้วึ่งมาบุกเบิกสถานที่แห่งนี้แต่แรก … กลุ่มของเราได้ซึมซับบรรยากาศในวัดราวๆ 2 ชั่วโมง ก็ได้กราบลาพระอาจารย์เพื่อเดินทางไปต่อในสถานที่อื่นๆ ที่ได้วางแผนไว้

จุดที่ 2 ที่เราเดินทางไปก็คือถ้ำเขาช่องลม

ถึงแล้วถ้ำเขาช่องลม

ถ้ำเขาช่องลม จะเป็นส่วนหนึ่งของวัดทุ่งสิงห์โต จุดเด่นคือความเงียบสงบ มีพระจำพรรษาอยู่ 1 รูป ซึ่งก็คือหลวงพ่อสุดใจ… ส่วนภายในสถานที่ จะมีถ้ำ ซึ่งต้องให้หลวงพ่อพาเข้าไปเท่านั้น และก็ได้รับความเมตตาจากท่านเป็นอย่างดี

สนทนาธรรมกับหลวงพ่อสุดใจ ที่ถ้ำเขาช่องลม

หลวงพ่อสุดใจ

หลวงพ่อสุดใจ ได้ออกจากเพศฆราวาสเพื่อมาหาทางสงบที่เขาลูกนี้นานกว่า 7 ปีแล้วนะครับ และอยู่เพียงรูปเดียว… ซึ่งในใจผมก็คิดว่าท่านต้องมีบารมีพอสมควรที่สามารถจำพรรษาได้ในสถานที่นี้

หลังจากการการสนทนาธรรมและสอบถามเรื่องราวนานพอสมควร กลุ่มผมจึงได้ขอกราบนมัสการลา เพื่อเดินทางไปยังสถานที่อื่นต่อไป

สถานที่ต่อไป เราได้เดินทางไปยังวัดคูหาสวรรค์ ซึ่งก็ล่วงเลยเวลามาจนบ่ายแก่ๆแล้วหล่ะครับ และก็ไม่แน่ใจกันว่าจะไปได้ครบตามโปรแกรมหรือไม่

พระอธิการเวียงศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดคูหาสวรรค์

ที่วัดคูหาสวรรค์มีความน่าสนใจหลายอย่างเพราะถ้ำแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากร ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีท่านเจ้าอาวาสพาเข้าเดินชมสถานที่เท่านั้น ซึ่งก็ไม่ใช่โอกาสง่ายๆเลยหล่ะครับ

ภายในถ้ำ วัดคูหาสวรรค์

ต้องบอกเลยว่าภายในถ้ำ วัดคูหาสวรรค์ มีความน่าสนใจมากมาย และมีบรรยากาศที่แฝงไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งต้องลองไปสัมผัสกันเอง ซึ่งผมจะลงรายละเอียดมากกว่านี้ในบทความที่แยกออกมานะครับ

ที่วัดคูหาสวรรค์ เราได้ใช้เวลานานกว่าสถานที่อื่นๆ เพราะได้สนทนากับท่านเจ้าอาวาสเป็นเวลานานพอสมควร และก่อนลากลับเราก็ได้รับมอบของที่ระลึกกันมาด้วย ซึ่งถือว่าโชคดีจริงๆเลยครับ

เมื่อดูเวลา ก็ล่วงเลยมาถึง 17:30 น. ซึ่งก็ใกล้ค่ำ จึงเป็นอันว่าเราได้สิ้นสุดโปรแกรมท่องเที่ยวในทริปแรกของปี 2559 ที่วัดคูหาสวรรค์ นี่เอง…

แต่ละสถานที่ ที่เราได้เดินทางกันนั้นต้องบอกว่ามีเรื่องราวมากมายและได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นซึ่งไม่สามารถเขียนบรรยายในบทความนี้ได้หมด

ทั้งนี้ในส่วนรายละเอียดแต่ละแห่งที่มากกว่า ผมจะเขียนลงในบล็อกแยกออกไป ท่านสามารถติดตามอ่านกันได้นะครับ… ขอขอบคุณครับ

ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด

ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108

หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory

ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด