สวัสดีครับวันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดกลางชูศรีเจริญสุข จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อกราบสังขารหลวงปู่บุดดา ถาวโร ผู้เป็นพระอรหันต์สิ้นกิเลส แม้ท่านจะละสังขารไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 แต่ความดีงามของท่านก็ยังเป็นที่ศรัทธาไม่สร่างหายไป
ผมได้คิดจะเดินทางมายังวัดกลางชูศรีเจริญสุข เนื่องจากได้อ่านเรื่องราวของหลวงปู่บุดดา ทำให้เกิดศรัทธาในหลวงปู่มากขึ้น ซึ่งแต่เดิมนั้นในสมัยที่ผมยังเด็ก ก็ได้รับทราบชื่อของท่านมานาน แต่ไม่เคยรู้เรื่องราวเกี่ยวกับท่านมาก่อน จนกระทั่งได้อ่านหนังสือพระสงฆ์รูปต่างๆ และได้เอ่านรื่องราวของหลวงปู่บุดดา ซึ่งมีประวัติที่ไม่ธรรมดาเลย
หลวงปู่บุดดา เป็นพระสงฆ์ที่มีความเด็ดเดี่ยวเป็นอย่างมาก สามารถระลึกชาติย้อนกลับไปได้อย่างน้อย 7 ชาติ ทำให้ท่านเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส จึงตัดสินใจบวชตลอดชีวิต และยิ่งไปกว่านั้นคือ หลังจากออกพรรษาแรก ท่านได้ตัดสินใจออกเดินธุดงค์แสวงหาธรรมเพียงรูปเดียว และได้พบกับความยากลำบากในชีวิตอย่างมาก ทั้งพบสิ่งเร้นลับอีกมากมาย จนมีอยู่ช่วงหนึ่ง ท่านเดินทางธุดงค์และได้พบกับบิดาของท่านในอดีตชาติ นั่นคือหลวงปู่สงฆ์ พรหมสโร จึงได้ร่วมเดินทางธุดงค์ด้วยกัน จนมาถึงถ้ำภูคา จังหวัดนครสวรรค์ ปัจจุบันคือวัดเขาภูคาจุฬามณี ตามบันทึกเรื่องราว ได้ระบุว่าเป็นสถานที่หลวงปู่บุดดา ได้บรรลุธรรมขั้นสูง
ราวปี พ.ศ. 2522 หลวงปู่เย็น ทานรโต ได้นิมนต์หลวงปู่บุดดามาจำพรรษาที่วัดกลางชูศรีเจริญสุข จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเป็นวัดสุดท้ายที่ได้ได้จำพรรษา
หลวงปู่บุดดา มรณภาพวันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2537 สิริรวมอายุ 101 ปี 7 วัน 73 พรรษา
นี่ก็เป็นเรื่องราวคร่าวๆ เกี่ยวกับหลวงปู่บุดดา ถาวโร ที่ทำให้ผมตัดสินใจไม่รอช้าที่จะเดินทางไปกราบสังขารของท่าน … ก็ถือว่าเป็นบุญของผมแล้วหล่ะครับ
เมื่อผมขับรถเข้ามาถึงในบริเวณวัด สิ่งแรกก็คือความเงียบของวัด เพราะสถานที่อยู่ไกลพอสมควร ผมใช้ GPS ในการเดินทาง ซึ่งถ้าศึกษาเส้นทางเอง ต้องบอกว่าผมหลงทางแน่นอนครับ ต้องขอขอบคุณเทคโนโลยีสมัยนี้ ที่ทำให้การเดินทางไปไหนๆ ก็ง่ายแสนง่าย
จากนั้นผมก็นำรถไปจอดใต้ร่มต้นโพธิ์ ซึ่งน่าจะเหมาะที่สุดแล้วครับ และผมก็เดินตรงเข้ามาเพื่อชมบรรยากาศ
จุดแรก ก็จะพบกับรูปหล่อหลวงปู่บุดดา และสมเด็จโต ผมจึงทำการกราบไหว้บูชา
ใกล้กับพระอุโบสถ จะมีวิหารหลวงพ่อดำ ซึ่งลุงที่วัดได้บอกว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่เก่าแก่ (แต่ผมก็ดูไม่เป็นนะครับ ว่าเก่าแค่ไหน ลองพิจารณากันดุเองนะครับ)
ภายในวิหารหลวงพ่อดำ นอกจากจะประดิษฐานหลวงพ่อดำแล้ว ยังมีรูปหล่อหลวงปู่เย็น ทานรโต และหลวงปู่บุดดา ถาวโร ให้กราบสักการะบูชากัน… ผมจึงถือโอกาสนี้ ได้นำแผ่นทองคำแท้ ที่ได้เตรียมไว้มาปิดทองที่รูปหล่อบูชาทั้ง 3 องค์…
จากนั้นผมก็เดินชมบรรยากาศในวัด ซึ่งก็ไม่ได้มีสิ่งปลูกสร้างมากมายนัก จากการดูพื้นที่แล้ว น่าจะเคยใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เพราะมีลานกว้าง และศาลาใหญ่
ผมเดินวนไปวนมา สักระยะหนึ่ง จึงเดินเข้าไปบูชาวัตถุมงคล และกราบสังขารหลวงปู่บุดดา ในศาลา…
ผมได้เข้าไปกราบสังขารหลวงปู่บุดดา และกราบขอพรในเรื่องการงานเป็นหลัก เพราะปัจจุบันผมก็ยังต้องทำมาหากิน และขอให้ให้การงานรุ่งเรือง… ขอให้สมปรารถนาเสียทีเถิด สาธุๆๆ
และสุดท้าย ผมก็ไม่พลาดที่จะบูชาวัตถุมงคลติดตัวกลับมาด้วย ซึ่งมีแม่ชีให้คำแนะนำอย่างดี รวมถึงเล่าเรื่องราวมากมายให้ผมฟัง…
การเดินทางมายังวัดกลางชูศรีเจริญสุขครั้งนี้ ผมรู้สึกศรัทธาหลวงปู่บุดดา อย่างบอกไม่ถูก… จึงได้ร่วมทำบุญกฐิน และบูชาวัตถุมงคลกลับมาจำนวนหนึ่ง
ผมได้ทำบุญกฐินไป 500 บาท จึงได้รับวัตถุมงคลตะกรุดผ้าจีวรหลวงปู่บุดดา สมัยยังไม่มรณภาพมาเป็นที่ระลึกบูชา 1 องค์
พระผงแป้งเสก เหลือเพียง 1 องค์ ซึ่งแม่ชีที่วัดแนะนำเอามาให้ครับ สาธุๆๆ … ทั้งนี้วัตถุมงคลหลวงปู่บุดดา มีอีกหลายรุ่นที่ทันสมัยหลวงปู่ยังไม่มรณภาพ ท่านที่สนใจเรื่องนี้ ก็ขอให้เดินทางไปที่วัดกันได้ ราคาบูชาไม่แพงเลยครับ มีเงิน 100 บาท ก็ได้แล้วครับ
เรื่องราวของวัตถุมงคลนั้น ผมเคยเล่าเรื่องในยูทูปไว้ว่า พระสงฆ์ท่านไม่ได้ให้ยึดติด แต่ก็มีปุถุชนอีกมากมาย ที่ยังต้องทำมาหากิน และมีจิตที่อ่อนเข้าหาธรรมได้ยาก … การสร้างวัตถุมงคลนั้น ก็เป็นเพียงที่ยึดเหนี่ยวจิตใจสาธุชน ให้สามารถเข้าหาธรรมได้ง่ายขึ้นเท่านั้น… แต่เหนือสิ่งอื่นใด ก็คือกรรมของตน ที่จะทำให้เรานั้นไปในแนวทางไหน…
สำหรับสาธุชน ที่เดินทางวัด สามารถขอรับผงแป้งเสกที่มีผงเดิมสมัยหลวงปู่ผสมแจกให้ฟรี รวมถึงจีวรที่ห่อสังขารหลวงปู่ ซึ่งจะเปลี่ยนทุกๆปี …
เรื่องผงแป้งเสก
เนื่องจาก คณะศิษย์จำนวนมากในช่วงหนึ่ง ทราบว่าหลวงปู่เป็นผื่นคันตามตัว ต่างคนต่าง ก็นำแป้งหอมชนิดต่าง ๆ มาน้อมถวายคราวละมาก ๆ เมื่อจะลากลับ หลวงปู่ได้เมตตานำแป้งที่ได้รับไว้กลับเอามา แล้วให้แบมือขึ้นเทแป้งใส่ให้ พร้อมกับบอกให้ทาแป้งมงคลเสีย กันขี้กลาก ขี้เกลื้อน กันหลง กันลืม ให้หายโรคหายภัย จนกระทั่งเป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่ ที่แจกแป้งมงคลให้คณะศิษย์ธรรมได้หน้าขาว สวยสง่าขึ้นทุก ๆ คน ซึ่งท่านจะแจกให้หมดทั้งพระสงฆ์ สามเณร และโยม
หลวงปู่บุดดาได้ถวายแป้งที่ท่านเสกแด่หลวงปู่ดู่ … หลวงปู่ดู่จึงทาแป้งเพื่อตอบรับในน้ำใจที่หลวงปู่บุดดาเป็นห่วงเป็นใยท่าน…
เรื่องราวนี้ มีบันทึกจากศิษย์หลวงปู่ดู่ ได้สอบถามว่าทำไมหลวงปู่ถึงเอาแป้งทาศีรษะเช่นนั้น… หลวงปู่ดู่จึงตอบว่า “อ้าว ก็เป็นของพระอรหันต์…เอ็งจะให้ข้าเอาไปไว้ที่ไหนจึงจะเหมาะล่ะ”
ท่านที่ต้องการแป้งผงไปบูชา อย่าพลาดนะครับ ไปที่วัดกันได้เลย…
รูปภาพหลวงปู่บุดดากับพระอริยะเจ้าองค์อื่นๆ
นี่ก็เป็นเป็นเพียงภาพบางส่วน เท่านั้น ท่านสามารถดูรูปภาพอื่นๆ ได้จากลิ้งค์ >> http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=44348
บทสรุปที่วัดกลางชูศรีเจริญสุข
เนื่องจากผมเองนั้น มีความศรัทธาต่อหลวงปู่บุดดามากอยู่แล้ว อีกทั้งได้พบเรื่องราวเกี่ยวกับองค์หลวงปู่มากมาย ล้วนเป็นความเมตตาของหลวงปู่ที่มีต่อเหล่าสาธุชน อีกทั้งท่านก็แสวงหาธรรมอย่างเด็ดเดี่ยว ทำให้การเดินทางของผมนั้นถือว่าคุ้มค่ามากครับ จึงอยากจะขอเรียนเชิญทุกท่าน ถ้ามีเวลา อยากให้ไปกราบสังขารหลวงปู่เช่นกันครับ
ฟังแอดมินเล่าเรื่องหลวงปู่บุดดา ถาวโร
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
เว็บไซต์หลัก www.faiththaistory.com