ไหว้พระชมถ้ำโบราณและจารึกโบราณ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) สระบุรี… สวัสดีครับ ผมยังคงวนเวียนอยู่ที่จังหวัดสระบุรีและลพบุรี และก็อาจจะวนเวียนอยู่ที่นี่นานเป็นเดือน เพราะมีโปรแกรมวัดท่องเที่ยวมากมายซะจริงๆ ประกอบกับระยะทางไม่ไกลจากที่พักของผมเท่าไรนัก และเนื่องด้วยความจำกัดทางด้านเวลา ที่จะเดินทางท่องเที่ยวได้เฉพาะวันหยุดประจำสัปดาห์เท่านั้น จึงต้องใช้เวลานานพอสมควร
ครั้งนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นวัดในสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ผมเคารพนับถือมากอีกองค์หนึ่ง จุดเด่นสำคัญของวัดแห่งนี้คือ บรรยากาศและความสวยงามท่ามกลางขุนเขาธรรมชาติในแถบสระบุรี และยังมีถ้ำโบราณที่ปรากฏรอยจารึกอักษรโบราณที่ปากทางเข้าถ้ำ ซึ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถ้ำโบราณได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนของกรมศิลปากรแล้วเมื่อวัน ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๕ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๙ ตอนพิเศษ ๑๑๙ ง
วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ตั้งอยู่ที่ บ้านเขาวง หมู่ 5 ตำบลเขาวง อำเภอพระพุทธบาท ห่างจากตัาอำเภอพระพุทธบาท ประมาณ 3 กิโลเมตร ช่วงที่ผมขับรถใกล้ถึงวัด ผมได้พบกับความตื่นตาตื่นใจ ของแนวทิวเขาอันสวยงาม โดยมีวัดท่ามกลางขุนเขาเป็นฉากหลัง
ยิ่งเมื่อมาถึงบริเวณวัด ก็จะได้พบกับสถานที่ที่จัดสรรพื้นที่ได้เป็นระเบียบสวยงาม สอดคล้องไปตามธรรมชาติ อีกทั้งยังจัดเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมตามแนวทางของหลวงพ่อปานและหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
หลังจากที่ผมได้จอดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จุดแรกที่ผมเข้าแวะชมคือพระอุโบสถ ซึ่งดูสวยงามมาก ท่ามกลางฉากหลังเป็นขุนเขา
เมื่อเข้ามาภายในพระอุโบสถ ก็จะพบกับผู้ที่มาปฏิบัติบางส่วนมากราบไหว้บูชาพระ
สิ่งที่ชาวพุทธจะขาดไม่ได้คือเมื่อเข้ามาภายในพระอุโบสถ ก็จะทำการกราบไหว้บูชาพระ ซึ่งผมเองก็ไม่พลาดที่จะกราบไหว้บูชา และพิจารณาการรักษาศีลในวันนี้ เมื่อรู้ว่าศีลได้ขาด ก็จะทำการอราธนาศีลใหม่ต่อหน้าพระพุทธรูป
จากนั้นผมก็เดินออกมาชมพื้นที่ภายในวัด
สภาพการจัดสรรพื้นที่ในวัด ดูเป็นระเบียบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและท่องเที่ยวมากครับ มีร้านสะดวกซื้ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่เดินทางมาวัด และจัดสถานที่นั่งพักผ่อนไว้ให้ด้วย
เดินมาสักพัก ก็จะเห็นรูปหล่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ใต้ต้นโพธิ์ขนาดใหญ่
ถัดไปเล็กน้อย จะเป็นที่ตั้งของถ้ำโบราณ มีการก่อสร้างซุ้มทางเข้าและประดิษฐานพระพุทธรูปไว้ด้านหน้า
ก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปชมถ้ำด้านใน ก็ได้ทำการเดินชมและเก็บภาพบรรยากาศข้างนอกเสียก่อน ซึ่งด้านนอก จะมีวิหารนารายณ์ทรงครุฑ และมีพระโพธิสัตว์กวนอิมที่หน้าปากถ้ำ
เมื่อเราได้ถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกอย่างพอใจกันแล้ว จุดต่อไปก็จะเป็นไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ นั่นก็คือ ถ้ำโบราณ
จารึกโบราณที่ปากถ้ำ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)
ที่ปากถ้ำจะพบจารึกโบราณ เป็นอักษรมอญโบราณ (ปัลลวะ) ซึ่งเป็นแบบอักษรของชาวอินเดียฝ่ายใต้ ปรากฎมีในภาคกลาง และภาคใต้ของประเทศไทยในสมัยก่อนสุโขทัย จนวิวัฒนาการมาเป็นอักษรขอมและ มอญโบราณ ซึ่งพ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรง นำมาดัดแปลงประดิษฐ์เป็นต้นกำเนิดอักษรไทย จนถึงทุกวันนี้อักษรจารึกถ้ำนารายณ์ มีข้อความ 3 บรรทัด ถูกจารึกในสมัยพุทธศตวรรษที่ 12 (ยุคทวาราวดี) ในยุคนั้น ชนชาติมอญมีอำนาจรุ่งเรือง อักษรจารึก เขียนเป็นคำบอกร้อยแก้ว กรมศิลปากรแปลไว้ว่า
“กัณทราชัย ผู้ตั้งแคว้นอนุราธปุระ ได้มอบให้พ่อลุงสินาธะ
เป็นตัวแทนพร้อมกับชาวเมือง (อนุราธปุระ) จัดพิธีร้องรำ
เพื่อเฉลิมฉลอง(สิ่ง)ซึ่งประดิษฐานไว้แล้วข้างในนี้”
อ้างอิงจาก
(เทิม มีเต็ม และจำปา เยื้องเจริญ กองหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ‘จารึกบนผนังปากถ้ำนารายณ์’ ในวารสารศิลปากร หน้า ๕๓-๕๗ ม.ป.ป.)
จารึกนี้บอกให้ทราบว่า ท้องถิ่นแถบนี้มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นเวลานาน และอาจจะเคยเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมาก่อน ซึ่งคำว่า ‘อนุราธปุระ’ เป็นชื่อเมืองโบราณในประเทศศรีลังกา ซึ่งเป็นเกาะทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย และอาจจะแสดงว่าชาวลังกากับคนท้องถิ่นนี้ (มอญโบราณ) มีการติดต่อสัมพันธ์กัน จึงมีการอ้างชื่อเมือง เพื่อกำหนดให้ระลึกถึงกัน พร้อมทั้งจารึกอักษรไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้เปรียบเทียบศึกษาจาก บันทึกในพงศาวดารหลายฉบับระบุว่า ในสมัยอาณาจักรสุโขทัย และกรุงศรีอยุธยา รัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (พ.ศ. 2163-2171) เคยมีปรากฏคณะสงฆ์ไทยเดินทางไปเมืองลังกาเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาทที่เขาสุมนกูฏ แต่พระภิกษุลังกาได้บอกว่ามีรอยพระพุทธบาท ในประเทศไทยที่เขาสุวรรณบรรพต และเกิดการค้นพบรอยพระพุทธบาทบริเวณเทือกเขานี้ในเวลาต่อมา หรืออาจจะหมายถึงการแลกเปลี่ยน วัฒนธรรมพระพุทธศาสนาลังกาวงศ์และสยามวงศ์ตามที่ปรากฏในพงศาวดารของชาติไทยเราด้วย ก็อาจจะเป็นได้
เมื่อเดินเข้ามาในถ้ำ ก็จะได้สัมผัสกับความเย็นสบายอย่างชัดเจน เพราะภายนอกถ้ำมีอากาศค่อนข้างร้อน แต่เมื่อเข้ามาด้านในถือว่าเย็นสบายเลยหล่ะครับ
บรรยากาศภายในก็ได้เห็นนักท่องเที่ยว วนเวียนเดินเข้ามากราบไหว้พระพุทธรูป กันอย่างต่อเนื่อง มีทั้งหอบลูกหลานมาเที่ยว หรือมาเป็นหมู่คณะ ซึ่งเห็นแล้วก็ดูอบอุ่นดีครับ
ผมใช้เวลาเดินชมบรรยากาศภายในถ้ำ และกราบไหว้พระพุทธรูป รูปเหมือนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ สักพักก็เดินออกจากถ้ำเพื่อเก็บตกบรรยากาศภายนอก และเข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อหาซื้อน้ำดื่มนั่งพักคุยกับทีมเดินทาง
ตามรายละเอียดที่ป้ายในวัด ได้เขียนรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดเขาวงไว้ว่า
สถานที่แห่งนี้เป็นศาสนสถานมาเป็นเวลายาวนาน สืบความไปถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงเสด็จจากวังนารายณ์เมืองละโว้(ลพบุรี) ไปว่าราชการที่กรุงศรีอยุธยา ทรงผ่านประทับแรม ณ ถ้ำนารายณ์ … และสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งทรงเสด็จมานมัสการรอยพระพุทธบาท ก็ได้เสด็จประทับพักแรมในถ้านารายณ์ ซึ่งมีอากาศเย็นสบายตลอดปี และจากจารึกอักษรผนังปากถ้ำก็ปรากฏหลักฐานว่า ถ้ำนี้ได้เคยเป็น ที่บำเพ็ญกุศลมาตั้งแต่สมัยอนุราธปุระ เมื่อกว่า 1,200 ปีมาแล้ว ผ่านความรุ่งเรืองและเสื่อมโทรมและฟื้นฟูขึ้นเป็นวัดตามประเพณีการปกครอง แผ่นดินและ การสืบพระพุทธศาสนา ดังกล่าวข้างต้น
ที่มา : www.watkhaowong.com/2008-09-16-08-51-13.html
ผมได้นั่งพักดื่มน้ำแก้กระหายเนื่องจากทั้งวันได้เดินทางท่องเที่ยว จนมาถึงวัดเขาวงแห่งนี้ เป็นวัดสุดท้ายตามโปรแกรม และก็เป็นวันที่มีอากาศร้อนมากพอสมควร แต่ก็ไม่ทำให้ผมหยุดการท่องเที่ยวนะครับ เพราะช่างมีความสุขกับการเดินทางซะจริงๆ
สำหรับ วัดเขาวง แห่งนี้ผมขอแนะนำให้เดินทางมาเที่ยวชมและทำบุญกันนะครับ โดยเฉพาะท่านที่จะเดินทางมาทำบุญที่วัดพระพุทธบาท สระบุรี เพราะตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน ถือได้ว่าเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและการท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสระบุรีเลยหล่ะครับ
สำหรับบทความการท่องเที่ยวในวันนี้ ก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปนะครับ…สวัสดี…
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด