สวัสดีนักท่องเที่ยวทุกท่าน กลับมาเจอกันอีกครั้งในภารกิจเที่ยววัด สำหรับครั้งนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปถึงจังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดที่มีทีมฟุตบอลฝีเท้าเยี่ยมที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้ หลายท่านที่เดินทางมาถึงจังหวัดบุรีรัมย์มักจะไม่พลาดที่จะแวะเวียนไปชมความยิ่งใหญ่ของของสนามฟุตบอลประจำทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด นั่นก็คือสนามไอโมบาย สเตเดี้ยม นอกจากสนามฟุตบอลแห่งนี้ ผมจึงอยากจะขอแนะนำอีกหนึ่งสถานที่ใกล้เคียงที่มีความสวยงามและเป็นสถานที่ตามโปรแกรมที่ผมจะพาไปนั่นก็คือ “วนอุทยานเขากระโดง”
วนอุทยานเขากระโดง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับสนามฟุตบอลไอโมบายสเตเดี้ยม และมีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม และเป็นปากปล่องภูเขาไฟเดิมที่ดับลงแล้ว ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุราว 9 แสนปีเลยทีเดียว … นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติ เราก็ยังจะได้วัดกำลังศรัทธาเพื่อเดินขึ้นบันได 297 ขั้นไปกราบพระพุทธรูปขนาดใหญ่ด้านบนที่มีพระนามว่า “พระสุภัทรบพิตร”
นอกจากนี้ด้านบน ยังมีปากปล่องภูเขาไฟเดิม ปราสาทกู่โบราณ และรอยพระพุทธบาทจำลองอีกด้วย
เขากระโดง เดิมเรียกเป็นภาษาเขมรว่า “พนมกระดอง” หมายถึงภูเขาที่มีรูปรางเหมือนกระดองเต่า ถือได้ว่าเป็นซากภูเขาไฟที่มีสภาพดีและอายุน้อยที่สุดในประเทศไทย (ประมาณ 3 – 9 แสนปี) ประกอบด้วยเนินเขา 2 ลูกติดกัน ได้แก่ เขาใหญ่เป็นขอบปล่องภูเขาไฟด้านทิศใต้ และเขาน้อย (เขากระโดง) เป็นขอบปล่องด้านทิศเหนือ ตัวปล่องเป็นหุบเขาอยู่ตรงกลางมีเนื้อที่ราว 80 ไร่ บริเวณทั้งหมดได้จัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อปี พ.ศ. 2521 ครอบคลุมเนื้อที่ 1,450 ไร่
ปราสาทเขากระโดง ตั้งอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟกระโดง เป็นศาสนสถาน สร้างขึ้นก่อนสมัยสุโขทัย เดิมเป็นปรางค์หินทราย ก่อบนฐานศิลาแลงองค์เดียวโดดๆ ฐานสี่เหลี่ยมขนาด 4×4 เมตร มีช่องทางเข้า 4 ด้าน ต่อมาหินพังหรือถูกรื้อลงมา มีผู้นำหินมาเรียงขึ้นมาใหม่ แต่ไม่ตรงตามรูปแบบเดิม ในสมัยรัตนโกสินทร์ ตระกูลสิงห์เสนีย์ได้ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองไว้ในองค์ปรางค์ แล้วสร้างมณฑปครอบทับ
รอยพระพุทธบาทจำลอง ได้สร้างขึ้นโดย พระยาประเสริฐสุนทราศรัย (กระจ่าง สิงหเสนี) เจ้าเมืองบุรีรัมย์ กับคุณหญิงประเสริฐ สุนทราศรัย (ตุ่ม สิงหเสนี) ซึ่งมีจิตศรัทธาเลื่อมใสเพื่อไว้เป็นพุทธบูชา
บนเขากระโดงมีพันธุ์ไม้หายากคือต้น โยนีปีศาจ (หีผี, คนุยคมอจ, สำโรงหรือมะกอกโคก) ซึ่งสามารถพบได้ตามซากภูเขาไฟเก่า ชื่อต้นไม้นี้มาจากลักษณะของผลเมื่อแก่จัดจะแตกเป็น 2 ซีก เมื่อนำไปกดกับดินทรายจะเป็นรอยคล้ายอวัยวะเพศหญิง
นิทานพื้นบ้านเรื่องปาจิต-อรพิม เล่าว่าขณะที่นางอรพิมต้องเดินทางกลางป่าเพียงลำพังได้อธิษฐานแปลงเพศเป็นชายและฝากโยนีไว้ที่ต้นไม้ชนิดนี้
พระสุภัทรบพิตร เป็นพระพุทธรูปคู่เมืองบุรีรัมย์ ภายในเศียรบรรจุพระธาตุ ประดิษฐานอยู่บนเขากระโดง เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐฉาบปูนขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง 12 เมตร ฐานยาว 14 เมตร หันหน้าไปทางทิศเหนือ สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2512 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายสุรวุฒิ บุญญานุสาสน์ ในขณะนั้น ร่วมกับพ่อค้าประชาชนและผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในความคิดและโครงการต่างๆ ของหลวงพ่อบุญมา ปัญญาปโชโต อดีตเจ้าอาวาสวัดเขากระโดง ได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้นบริเวณยอดเขากระโดง เพื่อให้เป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป จากจุดที่ตั้งขององค์พระ สามารถมองเห็นทัศนียภาพของตัวเมืองบุรีรัมย์ได้
ปากปล่องภูเขาไฟ จะต้องเดินลงไปด้านล่างอีกเล็กน้อย ซึ่งมีการสร้างบันไดและทางไหลสำหรับเด็กๆไว้ด้วย
ระหว่างจะร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ และเห็นปฏิมากรรมมนุษย์พากันก่อหินเป็นตั้งๆ ไปทั่วบริเวณ ซทั้งนี้ทางวนอุทยานได้ติดป้ายขอความร่วมมือไม่ให้ก่อตั้งหินบนที่นั่งนะครับ ยังไงก็ช่วยกันด้วยครับ
ปากปล่องภูเขาไฟเขากระโดง มีอายุประมาณ 3 แสนถึง 9 แสนปี สูงจากระดับน้ำทะเล 265 เมตร ซากปากปล่องเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งซีก ยอดเนินเขาเป็นขอบปล่องด้านทิศใต้เรียกว่า เขาใหญ่ ส่วนยอดเนินเป็นขอบปล่องด้านทิศเหนือเรียกว่า เขาน้อย หรือเขากระโดง ส่วนบริเวณที่เป็นขอบปล่องปะทุคือ บริเวณที่เป็นหุบเขา ปัจจุบันมีสภาพเป็นสระน้ำ เป็นซากภูเขาไฟที่ยังคงสภาพดีและมีอายุน้อยที่สุดในประเทศไทย มีเส้นทางเดินชมรอบปล่อง และมีสะพานแขวนให้ยืนชมจากมุมสูงได้อย่างชัดแจน
หลังจากที่ผมเดินมาถึง ณ จุดชมปากปล่องภูเขาไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เดินทางไปทำภารกิจอื่นๆต่อ ทั้งนี้สำหรับท่านที่เมื่อล้าก็สามารถนั่งดื่มเครื่องดื่มที่มีจัดไว้บริการด้านบนนี้ ซึ่งก็ได้บรรยากาศพักผ่อนสบายๆดีเช่นกันครับ
บทสรุป ณ วนอุทยานเขากระโดง
สำหรับท่านที่เดินทางมาถึงบุรีรัมย์ และมีเวลาจำกัด ท่านอาจจะเดินทางไปชมสนามฟุตตบอลและมาเที่ยววนอุทยานเขากระโดงจะสะดวกที่สุดเพราะห่างกันราวๆไม่เกิน 5 กิโลเมตร อีกทั้งจะได้สัมผัสลรรยากาศธรรมชาติอันสวยงาม และได้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาแห่งนี้ด้วย
ทั้งนี้สำหรับท่านที่ไม่ต้องการเดินขึ้นเขาที่มีความสูง 297 ขั้น ก็สามารถนำรถของท่านขึ้นไปจอดด้านบนได้ เชิญมาเที่ยวกันนะครับ
Reference : สมาคมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด