สวัสดีครับท่านผู้รักการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไกลไปถึง อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เพื่อไปเที่ยววัดเขาสมโภชน์ ซึ่งมีบรรยากาศสวยงามท่ามกลางขุนเขาล้อมรอบ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียงมาช้านาน ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อคง จัตตมโลยังไม่มรณภาพ
วัดเขาสมโภชน์แห่งนี้ ผมเคยเดินทางมาเมื่อราวๆ 10 ปีก่อน เพื่อมาปฏิบัติธรรม ซึ่งยังมีภาพความทรงจำครั้งนั้น ที่มีผู้คนเดินทางมายังวัดมากมาย เมื่อผมเดินทางกลับไปอีกครั้ง ก็ยังพบว่าสภาพวัดมีความเจริญมากขึ้นแต่ก็ยังเห็นผู้คนมาปฏิบัติธรรมกันมากมายเช่นเดิม
สภาพโดยรวมของวัดเขาสมโภชน์ มีความร่มรื่นท่ามกลางขุนเขา มีถ้ำธรรมชาติหลายถ้ำ แต่ทางวัดได้จัดสร้างบันไดเข้าชมถ้ำไว้ 2 ถ้ำคือ ถ้ำภาชีและถ้ำอรหันต์ … สำหรับถ้ำภาชีนั้นจะค่อนข้างมืด เนื่องจากไม่มีช่องแสงผ่านเข้ามา และทางวัดไม่ได้ติดหลอดไฟแสงสว่างไว้ให้ ถ้าท่านใดจะเดินทางเข้าชม ควรพกไฟฉายเข้าไปด้วยจะเป็นการดี
ส่วนถ้ำอรหันต์นั้น เป็นถ้ำที่สำคัญของวัดเขาสมโภชน์ เพราะตามเรื่องราวนั้น เป็นถ้ำที่หลวงพ่อคง จัตตมโล ได้เห็นในนิมิต แล้วเดินทางธุดงค์มาเพื่อเปิดถ้ำสู่สาธารณะชน ซึ่งมีเรื่องราวอัศจรรย์ที่ถ้ำแห่งนี้ แล้วผมจะกล่าวในรายละเอียดต่อไป
หลังจากหาที่จอดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จุดแรกที่ผมเดินเข้าไปก็คือพระอุโบสถ ซึ่งตั้งโดดเด่นสวยงามมีขุนเขาเป็นฉากหลัง
ผมเดินเข้าสู่พระอุโบสถ ทำการกราบไหว้บูชาพระ และนั่งพักด้านในสักครู่หนึ่ง
รูปปั้นอนันตนาคราช หลังพระอุโบสถ… มีความเชื่อว่าให้โชคลาภมาหลายราย …ซึ่งน้องที่เดินทางมาด้วยครั้งนี้ ได้เคยอธิษฐานขอให้ได้งานใหม่ที่ดีขึ้น ปรากฎว่าอีกเพียง 1 สัปดาห์ ได้งานใหม่จริงๆ… ซึ่งน้องคนนี้ก็เดินทางนำพวงมาลัยมาถวายตามที่อธิษฐานไว้ด้วยครับ
ณ วังทองพญานาค จะตั้งเยื้องมาด้านหลังของพระอุโบสถ
จากนั้นผมก็พากันเดินทางไปชมถ้ำภาชีและถ้ำอรหันต์
ไม่ต้องกังวลเรื่องลิงนะครับ … เพราะยังไงก็ต้องเจอฝูงลิงมากมายแน่นอน แต่ไม่เกเรครับ เหมือนว่าฝูงลิงเหล่านี้คุ้นเคยกับคนเป็นอย่างดี
จุดขึ้นถ้ำแรก คือถ้ำภาชี มีบันไดทางขึ้นสะดวกสบายดีครับ
เนื่องจากช่วงที่ผมเดินทางเป็นฤดูฝน ทำให้มีบรรยากาศที่ร่มรื่น เห็นป่าไม้เขียวขจีสวยงาม…
ทางลงถ้ำภาชี เป็นทางเข้าเล็กๆ ต้องมุดเข้าไปครับ บรรยากาศในถ้ำมืดสนิท เพราะไม่มีแสงไฟเลย… เพราะฉะนั้นจึงขอแนะนำสำหรับท่านที่จะเดินทางมาชมถ้ำ ควรพกไฟฉายมาด้วย…
ในถ้ำภาชี มืดสนิทครับ…แต่ผมถ่ายรูปโดยใช้แฟรช…ก็ได้ภาพมาประมาณนี้ ไม่กล้าลงไปมากกว่านี้ครับมืดจริงๆ อีกทั้งจิตใจก็หวั่นๆกลัวสิ่งลี้ลับฮ่าๆ… แต่มีสุนัขตัวหนึ่งวิ่งไปวิ่งมาในถ้ำอย่างสบายอารมณ์จริงๆ
ผมอยู่ในถ้ำภาชีได้ไม่นานนัก เพราะวังเวงใจ ฮ่าๆ… เลยรีบเดินออก… ส่วนความวังเวงเป็นอย่างไรลองดูในคลิปบนยูทูปด้านบนบทความนี้ได้ครับ
จริงๆแล้ว ทางขึ้นถ้ำอรหันต์ที่เดินสะดวกก็มีนะครับ โดยให้ลงไปด้านล่างแล้วเดินถัดไปอีกจะมีบันไดทางขึ้นถ้ำอรหันต์… แต่เนื่องจากผมไม่ทราบว่ามีทางขึ้น จึงพากันเดินลัดเลาะตามไหล่เขากันมา ซึ่งไม่แนะนำนะครับ เดี๋ยวพลาดเดินหกล้มร่วมลงไปงานจะเข้า
ระหว่างทางที่เดินไปถ้ำ ก็คิดพิจารณาถึงเรื่องราวในอดีตที่ป่าคงมีสภาพที่รกกว่านี้นัก… แต่หลวงพ่อคงท่านก็ได้เดินทางมาตามนิมิตจนพบถ้ำอรหันต์ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะต้องเดินผ่านป่าเข้ามา อีกทั้งมีสัตว์ป่ามากมายด้วย… เป็นบุญของพวกเราที่มีพระสงฆ์ดีๆ ได้แสวงธรรมมาสั่งสอนเรา โดยที่เราแทบไม่เหนื่อยอะไรเลย
ลัดเลาะมาสักระยะก็พบกับทางบันไดที่สร้างขึ้นถ้ำอรหันต์
บริเวณปากทางเข้าถ้ำ มีลมเย็นสบายมากๆเลยครับ ถ้านั่งพักหลับตาคงมีโอกาสนอนหลับได้ง่ายๆเลยทีเดียว
ทางเขาถ้ำอรหันต์จะเป็นรูเล็กๆ เข้าได้ทีละคน …แนะนำให้เอาส่วนเท้าเข้าไปก่อนแล้วไถลตัวเข้าไปนะครับ จะได้ไม่หัวทิ่มซะก่อน
แม่ชีที่ดูแลถ้ำได้บอกว่า ทางเดิมที่หลวงพ่อคงได้ลงมายังถ้ำแห่งนี้ตามนิมิตนั้น ได้ลงมาจากช่องด้านซ้าย
ภายในถ้ำมีบรรยากาศเย็นสบายอากาศปลอดโปร่งมากครับ มีลำแสงส่องสว่างจากปล่องถ้ำ ภายในจัดสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเพื่อกราบไหว้บูชาด้วยครับ
เรื่องราวพระกลายเป็นหิน คือหลวงพ่อทองดี ศรีสว่าง… เรื่องราวนี้ผมได้สอบถามแม่ชีที่ดูแลถ้ำ เพื่อทราบเรื่องราวนี้… แม่ชีได้เล่าว่า หลวงพ่อคงได้เห็นถ้ำอรหันต์แห่งนี้ทางนิมิต ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อคงอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ ได้เห็นนิมิตถ้ำว่ามีพระอรหันต์ได้สละชีพเพื่อเป็นอาหารให้เสือแม่ลูกอ่อนจนเหลือร่างเพียงครึ่งเดียว… จากนั้นหลวงพ่อคง ท่านได้จาริกธุดงค์มาจนพบถ้ำนี้ และพบร่างพระกลายเป็นหินเพียงครึ่งเดียว ตามในรูปที่ท่านเห็นด้านบนนี้
ส่วนเรื่องชื่อนั้น แม่ชีบอกว่าเป็นการตั้งชื่อมาภายหลัง ตามเรื่องราวที่พระสงฆ์ปฏิบัติดีบรรลุอรหันต์และสละชีวิตเป็นทาน จึงขนาดนามท่านว่า หลวงพ่อทองดี… ส่วนที่เรียกว่าถ้ำอรหันต์ เพราะว่าเป็นถ้ำที่มีพระมาบรรลุอรหันต์ที่นี่นั่นเอง
ผมนั่งสงบจิตใจในถ้ำสักพักหนึ่ง เพราะนานๆทีจะได้เดินทางไกลขนาดนี้ อีกทั้งบรรยากาศสงบมากครับ… ถือเป็นการพักผ่อนอยู่กับตัวเองบ้าง เพราะเหนื่อยกับการงานมาทั้งสัปดาห์
จุดสำคัญอีกจุดที่พลาดไม่ได้คือ วิหารเอนกประสงค์ จัตตมโล ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาสังขารหลวงพ่อคงไว้ครับ ซึ่งสังขารท่านไม่เน่าเปื่อย และท่านสามารถบูชาวัตถุมงคลหลวงพ่อคง และสื่อธรรมะด้านบนศาลาหลังนี้ครับ
ผมก็เข้ามากราบไหว้สังขารและขอพรท่าน และซื้อหนังสือการปฏิบัติกรรมฐานตามแบบหลวงพ่อคงมาอ่านก่อนกลับครับ
โดยรวมวัดเขาสมโภชน์ เป็นวัดที่น่าเดินทางมาท่องเที่ยวและทำบุญนะครับ นอกจากแค่เที่ยวแต่ผมคิดว่าหลายๆท่านอาจจะได้ฉุกคิดในเรื่องราวการปฏิบัติธรรมขึ้นมาได้ไม่มากก็น้อย เพราะบรรยากาศภายในวัด เราจะเห็นผู้แต่งชุดขาวปฏิบัติธรรมมากมาย…
ประวัติวัดเขาสมโภชน์ (พอสังเขป)
ประวัติวัดเขาสมโภชน์ เขาสมโภชน์เป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ รอบๆบริเวณร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิด วัดเขาสมโภชน์ตั้งอยู่ที่บ้านเตาขนมจีน หมู่ที่ 5 ตำบลบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี มีที่ดินตั้งวัด 200 ไร่ บริเวณที่ตั้งมีภูเขาล้อมรอบ 3ด้าน ที่ดินวัดแบ่งเป็น 2 ส่วน อยู่บนภูเขาและที่ราบเชิงภูเขา
การสร้างวัดได้สร้างขึ้นเป็นวัดตั้งแต่ พ.ศ 2480 พื้นที่ภูเขาซึ่งล้อมรอบบริเวณวัดทั้ง 3 ด้านมีถ้ำอยู่มาก มีชื่อเรียกแตกต่างกัน มีเจดีย์ขนาดแตกต่างหลายองค์ ภายหลังได้ร้างไป
เมื่อ พ.ศ. 2516 หลวงพ่อคง จัตตมโล ได้ธุดงค์จาริกมาเพื่อการปฏิบัติธรรมโดยอาศัยอยู่ในถ้ำพระอรหันต์ ตามนิมิต ซึ่งในขณะนั้น ชาวบ้านเรียกกันว่า สำนักสงฆ์ถ้ำเขาสมโภชน์ ต่อมาวันที่ 23 กันยายน พ.ศ 2525 ทางคณะสงฆ์ได้ประกาศให้เป็นวัดเขาสมโภชน์ โดยมีหลวงพ่อคง จัตตมโล เป็นพระวิปัสสนาจารย์ และประธานสงฆ์ มีพระครูภาวนาวิสุทธิ (ผิว วณัณคุตโต) ดำรงค์ตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาส ที่เชิงเขาเป็นที่ตั้งของวัดสำหรับปฏิบัติธรรม ภูเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยถ้ำต่างๆ ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 19 ถ้ำ เฉพาะถ้ำที่ปรากฏชื่อมีดังนี้คือ ถ้ำใหญ่ ถ้ำเจดีย์ ถ้ำเพชร ถ้ำรำวง ถ้ำสิงโต ถ้ำบ่อทิพย์ ฯลฯ ภายในแต่ละถ้ำจะแลเห็นหินงอกหินย้อยที่สวยงาม
ประวัติหลวงพ่อคง จัตตมโล (พอสังเขป)
ชาติกำเนิด ท่านมีนามเดิมว่า คง นามสกุล บุญเอก ถือกำเนิดเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๖ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีฉลู ณ หมู่บ้านโนนพุดซา ตำบลกระชอน อำเภอพิมาย จังหวัด ครราชสีมา โยมบิดา มีนามว่า ดี โยมมารดา มีนามว่า แจ้งอาชีพกสิกรรมทำนาทำไร่ เป็นบุตรคนที่ ๒ ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด ๙ คน
การศึกษา
ในปฐมวัยหลวงพ่อเคยเป็นเด็กวัด หัดเรียนเขียนอ่าน อักษรขอมอักษรไทย และต้องคอยรับภาระช่วยบิดามารดา ในการประกอบอาชีพกสิกรรมทำไร่ไถนา เมื่ออายุ ครบกำหนด ๒๐ ปี ได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ได้ศึกษาเล่าเรียน พระปริยัติธรรมอยู่เป็นเวลา ๓ พรรษา จึงได้ขออนุญาต โยมบิดามารดา เพื่อเดินทางมาศึกษาต่อที่พระนคร แต่ท่านก็ไม่ได้รับอนุญาต
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๔
ได้มีพระคุณเจ้า หลวงพ่อพระมหาธนิต ปญฺญาปสุโต ปธ. ๙ นักวิปัสสนาจารย์ชื่อดังได้เดินธุดงค์มาได้เข้าจำพรรษา สอนวิปัสสนากรรมฐาน แก่อุบาสกอุบาสิกาที่อยู่วัดบัวใหญ่ ท่านเป็นคนหนึ่งที่ได้น้อมกายใจ เข้ารับการปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนากรรมฐาน กับหลวงพ่อพระมหาธนิต อย่างเคร่งครัดอยู่เป็นเวลาถึง ๗ ปี เมื่อมีศรัทธาแก่กล้า ได้ตัดสินใจสละเหย้าเรือน เข้ารับการอุปสมบทในพระพุทธศาสนา อีกหน ณ พัทธสีมาวัด บัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา มื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๑โดยมีหลวงพ่อเจ้าคุณพระปทุมญาณมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๑๖
หลวงพ่อคง จตฺตมโล ได้ดำรงข้อวัตรปฏิบัติและ ปฏิปทาของพระป่า ออกธุดงค์ ไปตามป่าเขา ลำเนาไพร จนลุถึงซึ่งถิ่นป่าใหญ่ อันร่มรื่น ซึ่งเป็นสถานที่ๆ ถูกกับจริยวัตร สำหรับนักปฏิบัติธรรม ในการเจริญภาวนากรรมฐาน หลวงพ่อ ท่านได้เข้าอาศัยอยู่ในถ้ำ พระอรหันต์ ตามนิมิต ทำความเพียรเจริญจิตภาวนา จำพรรษา ณ สถานที่วิเวกแห่งนั้น เพื่อกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์นั้นให้สิ้นทุกข์…
พรรษาที่ ๖
ก็ได้นำพาศิษย์ยานุศิษย์ปฏิบัติธรรม อยู่จำพรรษาเรื่อยมา จนกลายมาเป็นวัดเขาสมโภชน์อยู่ทุกวันนี้
มรณภาพ
๑๓ ธันวาคม ปลายปี พ.ศ. ๒๕๓๖ หลวงพ่อได้ละสังขาร ณ โรงพยาบาลศิริราช อายุรวมกันได้ ๘๐ ปี ๙ เดือน ๓ วัน ๒๖ พรรษา
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
เว็บไซต์หลัก www.faiththaistory.com