แอดมินเล่าเรื่อง พญาครุฑกับพระอริยสงฆ์ (มีคลิปเล่าเรื่อง)

admin

8 years ago

พระอริยสงฆ์กับพญาครุฑ

สวัสดีท่านผู้ติดตามทุกท่าน วันนี้ผมจะขอถือโอกาสมากล่าวถึงตำนานพญาครุฑกับพระอริยสงฆ์ไทยให้ได้รับชมรับฟังกัน โดยปกติในสังคมไทยเกี่ยวกับเรื่องราวความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีมาแต่โบราณ โดยเฉพาะเรื่องเทพเทวดาต่างๆ นอกจากนี้ก็จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์กึ่งเทพ อาทิเช่น พญานาค พญาครุฑ เป็นต้น

แต่ส่วนมากตามข่าวต่างๆ รวมถึงประวัติของครูบาอาจารย์ เรามักจะคุ้นเคยเกี่ยวกับเรื่องพญานาคซะมากกว่า ทั้งนี้ก็ขอให้ใช้วิจารณญาณในการที่จะเชื่อให้มากๆ ด้วยนะครับ

ผมเคยสงสัยว่า นอกจากเรื่องพญานาค ที่ปรากฏให้เห็นในประวัติครูบาอาจารย์แล้ว จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับพญาครุฑบ้างหรือไม่

ผมจึงได้ลองค้นหาข้อมูลจากแหล่งความรู้ต่างๆ ซึ่งส่วนมากเป็นหนังสือประวัติครูบาอาจารย์ และผมก็เคยนำเรื่องราวเกี่ยวกับพญาครุฑมาบันทึกเสียงให้ได้รับฟังกันบนยูทูปไปหลายคลิป อาทิเช่น เรื่องราวของหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี, หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท และ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร เป็นต้น

แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับพญาครุฑ ค่อนข้างน้อยกว่าเรื่องราวของพญานาค… ทั้งนี้ ตามคติความเชื่อทางพระพุทธศาสนาไม่ได้ปฏิเสธเรื่องราวของพญาครุฑและพญานาค โดยมีความเชื่อว่า ทั้งพญานาคและพญาครุฑจะอยู่ในการปกครองของท้าวจตุโลกบาล ในสวรรค์ชั้นที่ 1 หรือ ชั้นจาตุมหาราชิกา

ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 แต่ละองค์ได้แก่

ท้าวธตรฐ รักษาโลกด้านทิศตะวันออก ทำหน้าที่ปกครองคนธรรพ์
ท้าววิรุฬหก รักษาโลกด้านทิศใต้ ทำหน้าที่ปกครองครุฑ
ท้าววิรูปักษ์ รักษาโลกด้านทิศตะวันตก ทำหน้าที่ปกครองพญานาค
ท้าวกุเวร รักษาโลกด้านทิศเหนือ ทำหน้าที่ปกครองยักษ์ ท้าวกุเวรมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ท้าวเวสวัณ หรือ ท้าวเวสสุวรรณ

โอกาสนี้ผมจึงขอนำเรื่องราวสรุปเกี่ยวกับพญาครุฑกับพระอริยสงฆ์ในบางรูปมานำเสนอ ดังต่อไปนี้

หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี

หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี แห่งวัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.อุบลราชธานี ท่านเป็นคนลาว ซึ่งแต่เดิมนั้นเคยบวชเป็นฤาษีอาศัยอยู่ตามป่าตามถ้ำ และในประวัติหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ได้กล่าวถึงเรื่องราวอภิญญาของหลวงปู่คำคะนิงไว้มากมาย จึงทำให้ท่านมีเรื่องราวอภินิหารเกี่ยวกับอภิญญาในประวัติของท่าน

ผมได้ค้นหาข้อมูลเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่คำคะนิง จากหนังสือชีวประวัติของท่าน ก็พบว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับพญาครุฑด้วยเช่นกัน

เรื่องราวพญาครุฑในหนังสือประวัติหลวงปู่คำคะนิง

โดยในเนื้อหา เป็นเรื่องราวของหลวงปู่คำคะนิง เมื่อครั้งลงไปพิสูจน์เรื่องราวของพระพุทธรูปทองคำใต้น้ำว่ามีอยูจริงตามตำนานหรือไม่ เมื่อท่านได้ลงไปใต้น้ำ ก็พบว่ามีพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่อยู่จริง จากนั้นท่านก็ได้ว่ายน้ำดำดิ่งลงไปก็ปรากฏว่าพญาครุฑได้แผลงฤทธิ์มาช่วยท่านจากภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

ต่อมาหลวงปู่คำคะนิง ได้กล่าวว่า พระอุปคุตได้จำแลงกายเป็นพญาครุฑมาช่วยท่านนั่นเอง

หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี

2. หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท

หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม จ.ปทุมธานี ท่านเป็นพระอุปัฏฐากใกล้ชิดหลวงปู่มั่นมากที่สุดองค์หนึ่ง ทำให้ท่านได้ศึกษาความรู้ทางด้านกรรมฐานจากหลวงปู่มั่นโดยตรงหลายปี อีกทั้ง ท่านก็ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งเร้นลับมากมายปรากฏในประวัติของท่าน

โดยผมได้ค้นหาข้อมูลจากหนังสือ “หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง” เป็นหนังสือประวัติหลวงปู่เจี๊ยะ ฉบับสมบูรณ์ที่สุด เพราะได้รับการวินิจฉัยเรื่องราวจากหลวงปู่เจี๊ยะโดยตรง

ในหนังสือเล่มนี้ก็ปรากฏเรื่องราวเกี่ยวกับพญาครุฑ ที่ถ้ำช้างร้อง จ.ตาก ซึ่งครั้งนั้นท่านได้ไปช่วยสงเคราะห์คณะศิษย์ในสถานที่ดังกล่าวนั่นเอง

หลวงปู่เจี๊ยะเล่าว่า พญาครุฑ ได้เข้ามาหาในยามค่ำคืนและได้บอกกับหลวงปู่เจี๊ยะว่า เป็นลูกศิษย์ท่านพ่อลี แห่งวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ

หนังสือประวัติหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท

3. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร แห่งวัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ เป็นพระที่เคยได้รับการทำนายจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ผู้เป็นพระอาจารย์ไว้ว่า “ท่านสิมยังเป็นดอกบัวตูมอยู่ เบ่งบานเมื่อไหร่ จะหอมกว่าหมู่” เรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยจากหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม อีกทีหนึ่ง

ครั้งนั้นหลวงปู่ตื้อ ได้ไปเยี่ยมหลวงปู่สิม ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ในปี พ.ศ.2516

ในการปราศรัยของพระอาจารย์ทั้งสองรูป มีอยู่ช่วงหนึ่ง หลวงปู่ตื้อ ได้บอกกับหลวงปู่สิมว่า “ผมมีความลับจะบอกท่านอยู่เรื่องหนึ่ง ผมเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับได้ 34 ปีแล้ว เมื่อครั้งที่พระอาจารย์มั่นอยู่ที่เชียงใหม่ ก่อนจะกลับอุดรธานี ท่านได้พยากรณ์ไว้ว่า ศิษย์รุ่นต่อไปที่จะมีชื่อเสียงโด่งดังคือ ท่านสิม กับท่านมหาบัว

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

ประจักษ์พยานชัดเจนเกี่ยวกับความสัมพันธ์เกี่ยวกับพญาครุฑของหลวงปู่สิม ก็คือมีบันทึกในจดหมายเหตุหลวงปู่สิม พุทธาจาโร เป็นลายมือหลวงปู่สิม เกี่ยวกับ พญานาคและพญาครุฑ คอยปกปักดูแลท่านทุกอย่างก้าว

ลายมือบันทึกเกี่ยวกับพญาครุฑและพญานาคของหลวงปู่สิม

และจากหนังสือประวัติของหลวงปู่จาม มหาปุญโญ ก็ยังบันทึกเรื่องราวในอดีตชาติของหลวงปู่สิมไว้ว่า

“ชาติหนึ่งของหลวงปู่สิมนั้น เคยเกิดเป็นพระเจ้าโกศล พระราชบิดาของพระเจ้าปเสนทิโกศลในสมัยพุทธกาล” และยังเคยกลับชาติมาเป็นเจ้าหลวงนครพิงค์(เชียงใหม่)ในกาลต่อมาอีกด้วย

จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมหลวงปู่สิมท่านจึงทรงไว้ซึ่ง”ศักดิ์”และ”ศรี”สูงสุดถึงขนาดที่ทั้งพญานาค และพญาครุฑ ซึ่งเป็นเครื่องหมายของพระมหากษัตริยาธิราชมาแต่โบราณต้องมาน้อมถวายถวายการอุปัฏฐากพิทักษ์รักษาพร้อมๆกัน

และอีก 1 หลักฐานคือวัดสันติสังฆาราม จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่สิมได้สร้างขึ้น ที่หน้าบันพระอุโบสถจะจำลององค์พญาครุฑ และทางวัดได้ออกเหรียญวัตถุมงคลของหลวงปู่สิม ในงานกฐินปี พ.ศ.2521 โดยมีรูปครุฑที่หลังเหรียญอีกด้วย

พระอุโบสถ วัดสันติสังฆาราม สกลนคร ที่หน้าบันเป็นรูปครุฑ

วัตถุมงคลหลวงปู่สิม

ตามความเชื่อ เกี่ยวกับตราแผ่นดินของไทย คือตราพญาครุฑ เป็นเทพพาหนะของพระนารายณ์ ใช้เป็นสัญลักษณ์ของพระราชอำนาจแห่งพระมหากษัตริย์ผู้เป็นประมุขของชาติและเป็นองค์อวตารของพระนารายณ์ตามแนวคิดสมมุติเทพ นั่นเอง

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวพอสังเขปเกี่ยวกับ พญาครุฑและพระอริยสงฆ์ ซึ่งผมคิดว่าน่าจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับพระอริยสงฆ์รูปอื่นๆอีก แต่ตอนนี้ผมยังหาข้อมูลเพิ่มไม่ได้ ถ้าผมมีข้อมูลเพิ่มเติม จะมานำเสนอในโอกาสต่อไปครับ

ก่อนจบการบันทึกเรื่องราว ท่านสามารถรับฟังคลิปเสียงบนยูทูปเกี่ยวกับพญาครุฑกับพระสงฆ์ได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้