Fanpage Meeting ท่ามกลางซากอิฐปูนที่อยุธยา ครั้งที่ 1 – เพจภารกิจเที่ยววัด… สวัสดีครับท่านผู้สนใจการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและอนุรักษ์ที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากเพจภารกิจเที่ยววัดได้นำเสนอการท่องเที่ยววัดร้างที่หลายคนไม่เคยรู้ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาระยะหนึ่ง จนเกิดความสนใจมากขึ้นในเวลาต่อมา
ผมตั้มในฐานนะแอดมินเพจภารกิจเที่ยววัด จึงได้จัดโครงการท่องเที่ยวและเป็นการพบปะแฟนเพจขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2561 ซึ่งได้รับความสนใจมากกว่าที่คาดหมายไว้…เพราะได้จำกัดผู้ร่วมเดินทางเพียง 10 ท่าน แต่มีผู้สนใจลงทะเบียนเกินจำนวนภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง จึงได้ปิดรับลงทะเบียนอย่างรวดเร็ว… เหตุผลที่ที่รับจำกัดเพราะต้องการดูแลท่านผู้เดินทางให้ดีที่สุด อีกทั้งเป็นการจัดกิจกรรมครั้งแรก เกรงจะทำให้สมาชิกเกิดปัญหาต่างๆครับ…
ทีมงานจากซ้าย : ไอซ์(น.ศ.สาขาประวัติศาสตร์ ม.รภ.พระนครศรีอยุธยา), แชมป์(เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี กระทรวงวัฒนธรรม), นนท์(แอดมินเพจประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา), นนท์(แอดมินเพจตามรอยวัดเก่า ลุ่มน้ำลพบุรี), ตั้ม(แอดมินเพจภารกิจเที่ยววัด-Faiththaistory.com), อัฐพงษ์(แอดมินกลุ่มประวัติศาสตร์หลังเที่ยงคืน)
แขกรับเชิญ(ซ้าย) ต้น… อดีตผู้ร่วมเดินทางตั้งแต่สมัยแรก…ปัจจุบันหันมาทำค่ายเพลงมีดีเรคคอร์ด
โปรแกรมท่องเที่ยวครั้งนี้จัดไว้เกิน 10 วัดร้างและปิดท้ายที่ พระราชวังโบราณ ซึ่งมีโปรแกรมดังต่อไปนี้
1.วัดโคกพระยา
2.วัดขวิด
3.วัดป่าแตง
4.วัดแร้ง
5.วัดลายสอ
6.วัดเจ้าย่า
7.วัดผีเสื้อ
8.วัดพระงาม
9.วัดมงกุฎ
10.วัดกุฎีสูง
11.วัดท่ายักษ์หรือวัดพยัคฆ์
12.วัดกำแพง
13.วังหลวง
แผนที่อ้างอิง : แผนที่ภูมิสถานอยุธยา จากโครงการประวัติศาสตร์ไทย สังเขป ฉบับมติชน, สามารถดาวน์โหลดได้ที่ https://www.faiththaistory.com/map_ayutthaya
วงรีแสดงตำแหน่งวัดร้างที่จะพานำชมกันครับ… ส่วนวัดท่ายักษ์หรือวัดพยัคฆ์เป็นวัดร้างริมคลองบางขวดจะเป็นวัดร้างนอกแผนที่ไปทางทิศเหนือนอกเกาะเมืองครับ…
จุดประสงค์การจัดโครงการ
การท่องเที่ยวครั้งนี้ไม่เน้นเชิงวิชาการแต่เป็นไปเพื่อการพบปะผู้ชอบเที่ยวตามรอยวัดเก่าในอดีตที่หลายคนไม่เคยรู้ เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ร่วมเดินทางที่หาโอกาสได้ยากในการเข้าถึง และเป็นการปลูกฝังให้เกิดความรักและหวงแหนในวัฒนธรรมไทยตามแนวทางนักท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอนุรักษ์อย่างแท้จริง
จรรยาบรรณนักท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอนุรักษ์
ขอให้นักท่องเที่ยวทุกท่านเก็บภาพความประทับใจได้อย่างเต็มที่อิสระ และไม่นำหรือเคลื่อนย้ายวัตถุโบราณออกจากพื้นที่โดยเด็ดขาด
ก่อนวันนัดพบ
มีอยู่ 1 วัดที่เข้าถึงได้ยากคือวัดลายสอ เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์สุริโยไทยเข้าฉายเมื่อปี พ.ศ.2544 ในฉากท้าวศรีสุดาจันทร์ถูกปลงพระชนม์… ด้วยพื้นที่มีคลองน้ำกั้น ทีมงานจึงช่วยกันดำเนินการหาท่อนไม้มาทำเป็นสะพานเพื่อเข้าพื้นที่กันให้ได้
การนัดหมาย
จุดนัดหมาย ได้นัดรวมผู้สนใจมาพบกันที่วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2561 เวลา 09.00 น.
น้องต้นหอม ได้มาร่วมการท่องเที่ยวครั้งนี้ด้วย แม้ว่าจะดูหน้าบูดบึ้งในตอนเช้าเพราะตื่นเช้ากว่าปกติ แต่หลังจากนั้นฟิตจัดมาก ไม่มีงอแงแถมสนุกสนานอีกด้วยล่ะครับ…
เมื่อทำการแจ้งกำหนดการและจัดสรรพาหนะเดินทางเพื่อไม่ให้มากจนเกินไป เพราะแต่ละสถานที่มีพื้นที่จำกัดในการจอดรถ จึงสรุปได้ว่าจะมีรถยนต์เดินทางรวมกัน 5 คัน ทีเหลือทีมแอดมินสายแว๊นทั้งหมดครับ…
วัดแรกที่เราจะไปเที่ยวกันคือ วัดโคกพระยา เป็นวัดร้างที่มีหลักฐานกล่าวถึงในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่สมัยเริ่มสถาปนาพระนครศรีอยุธยาเพราะเป็นสถานที่ใช้ในการสำเร็จโทษพระเจ้าแผ่นดินและพระบรมวงศานุวงศ์มาตั้งแต่แผ่นดินสมเด็จพระราเมศวรเป็นต้นมา
2. วัดกำแพง
วัดร้างที่ไม่พบประวัติการสร้างทางเอกสาร พบซากพระพุทธรูปฐานสูงเทคนิคการสร้างแบบก่ออิฐถือปูน ซึ่งเป็นเทคนิคในสมัยอยุธยาตอนปลาย… พระพาหาและพระกรด้านขวามีแกนโลหะ…และมีเจดีย์ย่อมุมขนาดเล็กในพื้นที่
ปริมณฑลวัดเจ้าย่า สันนิษฐานโดย ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ ว่าเป็นสถานที่ดักซุ่มลอบสังหารขุนวรวงศาซึ่งเป็นเส้นทางคลองสระบัว ภูมิศาสตร์ไม่มีลำคลองแยก ทำให้เหมาะแก่กับดักจับตัว… กรมศิลปากรสันนิษฐานอายุวัดเจ้าย่าอยู่ในสมัยอยุธยาตอนต้น
4.วัดแร้ง
ตามพระราชพงศาวดารระบุว่าเป็นสถานที่เสียบประจานแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์และขุนวรวงศาธิราช…ปัจจุบันเหลือเพียงโคกอิฐที่เคยมีคนมาสร้างที่อยู่อาศัยมาก่อน
ด้วยความบังเอิญ วันเดินทางได้พบคุณยายอรุณซึ่งเคยสร้างบ้านบนโคกวัดแร้งเมื่อปี พ.ศ.2518 … ต่อมาได้รื้อบ้านออกเพราะได้ทราบประวัติและมีเหตุการณ์ผิดปกติระหว่างพักอาศัย
5.วัดลายสอ
เป็นวัดที่อยู่ใกล้เคียงกับวัดแร้ง…ปัจจุบันพบเศษซากพระพุทธรูปหินทรายกระจายอยู่ มีซากองค์เจดีย์และซากผนังอาคาร…สถานที่แห่งนี้ ปรากฏในภาพยนตร์สุริโยไท ในฉากสังหารแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์
วัดนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ของกิจกรรมครั้งนี้ เพราะเข้าถึงได้ยากที่สุด เพราะมีคลองน้ำกั้นอยู่…เมื่อมาถึง เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวทุกท่านครับ
6.วัดขวิด
ด้วยอากาศที่ร้อนมาก จึงต้องพักให้น้ำกันก่อนที่จะเดินทางไปยังวัดขวิดต่อไป เนื่องจากวัดขวิดมีพื้นที่จอดรถไม่สะดวก จึงต้องจอดรถไว้ที่วัดเจ้าย่าแล้วเดินเท้าสู่วัดขวิดต่อไป
วัดขวิดในสมัยที่ อาจารย์ น. ณ ปากน้ำ (นักโบราณคดีและศิลปินแห่งชาติ) เข้าสำรวจเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2510 ได้บันทึกไว้ว่าพบซากวิหาร เศษยอดเจดีย์แสดงให้เห็นว่าเดิมนั้นมีเจดีย์ทรงลังกาอยู่ที่วัดด้วย พบเศียรพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่กลิ้งอยู่ และมีชิ้นส่วนพระพุทธรูปหินทรายกระจัดกระจายแต่ไม่พบเศียร… ปัจจุบันไม่พบซากเจดีย์เจดีย์และไม่พบเศียรพระพุทธรูป เหลือเพียงโคกซากอาคารและซากพระพุทธรูปแบบก่ออิฐถือปูนซึ่งเป็นเทคนิคในสมัยอยุธยาตอนปลาย
7.วัดป่าแตง
เป็นโคกถัดจากวัดขวิด พบเจดีย์ขนาดเล็กทรงลังกา กรุภายในก่อด้วยศิลาแลง เจดีย์ตั้งบนฐานแปดเหลี่ยม ฐานเจดีย์ก่อด้วยศิลาแลง… อาจารย์ น. ณ ปากน้ำให้ทัศนะไว้ว่าอาจมีความเก่าแก่ถึงช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา
ด้วยอากาศที่ร้อนมาก จึงต้องเปลี่ยนแผนเพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้พักทานข้าวเติมพลังกันเสียก่อน และนัดพบกันที่วัดเจ้าย่าเวลา 13.00 น. เพื่อเดินทางท่องเที่ยวให้ครบตามลิสต์ที่วางแผนไว้
8.วัดพระงาม
ได้รับสมญานามว่า “ประตูแห่งกาลเวลา” เพราะซุ้มประตูมีรากต้นโพธิ์ข้นปกคลุมดูสวยงาม จากรูปแบบทางสถาปัตยกรรม เจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมซ้อนอยู่บนฐานแปดเหลี่ยมเป็นรูปแบบในสมัยอยุธยาตอนต้นและสืบต่อมาจนถึงอยุธยาตอนปลาย (พุทธศตวรรษที่ 19-20 และ พุทธศตวรรษที่ 23-24)
9.วัดผีเสื้อ
ปัจจุบันเหลือเพียงเศษซากอิฐกระจัดกระจาย แต่พบซากอิฐที่มีสภาพก้อนที่สมบูรณ์อยู่หลายก่อน… พบโคกที่สันนิษฐานว่าจะเป็นซากอาคาร ส่วนประวัติวัดไม่พบการบันทึกทางเอกสาร
10.วัดมงกุฏ
เป็นวัดที่ไม่พบประวัติการสร้างทางเอกสาร แต่มีจุดเด่นตรงที่พบเจดีย์ทรงปรางค์ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว มีลวดลายปูนปั้นหลงเหลือบางส่วนและมีความสวยงาม พื้นที่ถูกล้อมรอบด้วยชุมชน มีเศษกระเบื้อหลังคาและกระเบื้องเชิงชายบาส่วน… อาจารย์ ดร.ฉันทัส เพียรธรรม นักประวัติศาสตร์ศิลป์ ให้การสันนิษฐานว่ามีอายุในช่วงอยุธยาตอนปลาย พุทธศตวรรษที่ 22 – 23
11.วัดกุฎีสูง
ไม่พบประวัติทางเอกสาร ในพื้นที่มีซากอาคารมีผนังทั้งสี่ด้าน แต่หลังคาได้ชำรุดไปหมดแล้ว…มีซากหอคล้ายหอระฆังหรือหอพระ มีซากเจดีย์รายหน้าอุโบสถ
12.วัดพยัคฆ์หรือวัดท่ายักษ์
เป็นวัดร้างนอกแผนที่พระนครศรีอยุธยา ติดริมคลองบางขวด พบซุ้มพระยืนเพียงองค์เดียวที่ตั้งโดดเด่นอยู่…โดยรอบพบเศษซากอิฐและกระเบื้องหลังคาโบราณ… ปัจจุบันกรมศิลปากรได้เข้าพื้นที่เพื่อทำการอนุรักษ์และค้นหาประวัติแล้ว
13.พระราชวังหลวง
ถ้าไม่มีท่านผู้สนใจคงเกิดงานกิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้ ขอขอบพระคุณแฟนเพจที่ให้ความสนใจในการร่วมกิจกรรม ซึ่งการจัดท่องเที่ยวครั้งนี้เป็นครั้งแรกของกลุ่ม อาจจะมีติดขัดบ้างบางประการ กราบขออภัยมา ณ โอกาสนี้…
และที่ขาดไม่ได้คือทีมงานจัดกิจกรรมทุกท่าน ที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้นได้แก่
นนท์ แอดมินเพจตามรอยวัดเก่าลุ่มน้ำลพบุรี
นนท์ แอดมินเพจประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา
อัฐหรือบอล นักประวัติศาสตร์และมัคคุเทศก์อิสระ แอดมินกลุ่มประวัติศาสตร์หลังเที่ยงคืน
ไอซ์ นักศึกษาสาขาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
แชมป์ (เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี กระทรวงวัฒนธรรม)
ทุกท่านมาด้วยใจ เพราะกิจกรรมครั้งนี้เพื่อนักท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอนุรักษ์ จะได้มีโอกาสเข้าถึงโบราณสถานที่ไม่เคยรู้และเกิดความรักความหวงแหนในวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง… แล้วพบกันใหม่ในกิจกรรมครั้งต่อไป…สวัสดีครับ…
ขอแสดงความนับถือ
ตั้ม แอดมินเพจภารกิจเที่ยววัด-Faiththaistory.com
คลิปบรรยากาศเตรียมการ
ช่องทางการติดตามเรื่องราว
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจภารกิจเที่ยววัด ได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel FaithThaiStory ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด
เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com