สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาอีกครั้งกับบทความภารกิจการท่องเที่ยววัดในรูปแบบของผม…บ่อยครั้งที่ผมมักจะเดินทางท่องเที่ยวไปยังวัดต่างๆเพียงคนเดียว แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมาเพราะมีเพื่อนร่วมเดินทางอีกหลายคน
ครั้งนี้เป็นการรวมตัวที่พิเศษสุดครั้งแรกของผม เป็นการรวมตัวที่เกิดจากความชอบ ความสนใจในเรื่องคล้ายๆกัน ของกลุ่มนักเดินทางที่มีใจอนุรักษ์โบราณสถานและโบราณวัตถุ จึงมีมติว่าจะเดินทางไปยังวัดร้างในอยุธยา… โดยเริ่มจากมีการขอเป็นเพื่อนผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คของ Facebook และเริ่มมีการพูดคุยแบ่งปันเรื่องราวกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้นัดและชักชวนกันออกเดินทางท่องเที่ยวในโปรแกรมวันนี้ จึงขอตั้งชื่อภารกิจครั้งนี้ว่า “สำรวจวัดร้างอยุธยา Episode 1” เนื่องจากว่า ต้องมีการนัดแนะในการเดินทางตอนต่อๆไปอย่างแน่นอน
ทีมนักเดินทางและนัดพบ
ทีมนักเดินทางมีทั้งสิ้น 5 คน ซึ่งแต่ละคนก็มีพื้นฐานที่แตกต่างกัน แต่ก็มีความชอบคล้ายๆกัน มีความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์มากบ้างน้อยบ้าง ก็ไม่มีปัญหา ขอให้ใจรักเหมือนกันก็ไปกันรอดครับ และสิ่งที่สำคัญของนักเดินทางและท่องเที่ยวคือจรรยาบรรณอุดมการณ์ที่ดี โดยเฉพาะการเดินทางไปยังวัดร้าง อาจจะมีการพบวัตถุโบราณต่างๆ ซึ่งเป็นสมบัติของชาติและส่วนตัวผมเองนั้นถือว่าเป็นของสงฆ์ทั้งสิ้น ผมจึงไม่เสี่ยงที่จะนำกลับมาเป็นทรัพย์สินส่วนตัวโดยเด็ดขาด… และกลุ่มนักเดินทางในวันนี้ก็คิดเช่นเดียวกัน
ขอแนะนำทีมนักเดินทางก่อนเลยนะครับ โดยขอเริ่มจากด้านซ้ายก่อนดังนี้
- นนท์ (ซ้ายสุด) อาชีพปัจจุบัน เป็นพนักงานฝ่ายวิศวกรรม บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี มีความสนใจและรักการท่องเที่ยวตามโบราณสถานต่างๆ ปัจจุบันเป็นแอดมินเพจ “ตามรอยวัดเก่า ลุ่มน้ำลพบุรี”
2. เต้ ผู้อาสาในการขับรถตลอดโปรแกรมในทริปนี้
3. เมท (หน้าเต้) อดีตนักร้องกรมประชาสัมพันธ์ ต้องบอกว่าถ้าไม่มีเมท คงไปกันไม่ได้แน่นอน ต้องยอมรับว่าเชี่ยวชาญการเดินทางจริงๆ
4. ตั้ม (ผู้เขียนเองครับ) อาชีพปัจจุบันเป็นพนักงานฝ่ายวางแผนการผลิตบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา … มีความสนใจและรักการเดินทางท่องเที่ยวไปยังวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป
ปัจจุบันเป็นแอดมินเพจ “ภารกิจเที่ยววัด FaithThaistory” และกลุ่ม “รวมพลคนชอบเที่ยววัด” เป็นเว็บมาสเตอร์ของ www.faiththaistory.com
5. ต้น (ขวาสุด) อาชีพปัจจุบันเป็นพนักงานฝ่ายบุคคลบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีใจรักการท่องเที่ยววัดเช่นกัน
ครั้งนี้ เป็นการพบกันครั้งแรกของผมกับ นนท์, เมท และเต้ จากการนัดหมายกันล่วงหน้า 1 สัปดาห์ … ซึ่งตรงกับวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เป็นช่วงปลายฝน และฝนก็มีแนวโน้มจะตกลงมาได้ทุกเมื่อ…ผมก็ภาวนาว่าอย่าได้ตกลงมาในวันเดินทางเลย…
จุดนัดหมายของเรานัดกันเวลา 07.00 น. ที่วัดหน้าพระเมรุ โดยจะจอดรถไว้ที่นี่ และเดินทางไปกันคันเดียว… เรานัดพบกันตรงเวลาเป๊ะเลยครับ ก็ได้เริ่มวางแผนการเดินทางกันทันที
สามารถดาวน์โหลดแผนที่ได้ที่ >> www.faiththaistory.com/map_ayutthaya
เราวางแผนการเดินทางในโซนคลองสระบัวเป็นหลัก … จากนั้นเราก็ลุยกันที่วัดแร้งกันก่อน ตามโปรแกรมครั้งนี้ต้องขอบอกว่ามีมากกว่า 10 วัด อย่างแน่นอน ซึ่งบทความนี้ผมจะเขียนขึ้นเบื้องต้น เพื่อนำเข้าสู่บทความแต่ละวัดในภายหลัง ทั้งนี้ด้วยเหตุผลบางประการผมจะไม่แจ้งพิกัด บางวัดผมก็จะไม่เขียนบทความหรือลงรายละเอียดใดๆ จะเผยแพร่ส่วนที่พอจะเผยแพร่ได้เท่านั้น เพราะต่างคนต่างจิตใจ เดี๋ยวจะเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพไปอีก…
โปรแกรมการเดินทางสำรวจครั้งนี้มีดังนี้
- วัดแร้ง (ร้าง)
- วัดใบสอ (ร้าง)
- วัดผีเสื้อ (ร้าง)
- วัดครุฑธาราม
- วัดโพธิ์ลังกา (สาบสูญ)
- วัดมงกุฏ (ร้าง)
- วัดสี่เหลี่ยม (ร้าง)
- วัดช่องลม (ร้าง)
- วัดกงจักร (ร้าง)
- วัดป่าพลู (ร้าง)
- วัดพระยาพาน (ร้าง)
- วัดมหาทลาย (ร้าง)
- วัดศาลาปูน
- วัดตามุก (ร้าง)
- วัดโคกพระนอน (ร้าง)
ทั้งนี้ยังไม่รวมวัดย่อยๆ ที่เราเดินทางแวะผ่าน อีกมากมาย… ทั้งนี้ผมจะค่อยๆเขียนบทความการเดินทางในวัดต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น และจะติดลิ้งค์ไว้ให้ภายหลังเมื่อบทความเขียนเสร็จ เพราะต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูลและภาพถ่ายนานพอสมควร… ยังไงก็ขอให้ติดตามอ่านกันด้วยนะครับ
รวมบรรยากาศการเดินทางสำรวจวัดร้าง
บทความนี้จะเขียนไว้เพียงเรื่องราวการเดินทางโดยรวมและความประทับใจเป็นหลักนะครับ เพราะเดินทางไปหลายวัดเหลือเกิน ถ้าจะเขียนไว้ในบทความนี้ทีเดียวก็คงไม่ไหว เพราะมันเยอะจัด
สิ่งสำคัญในการเดินทางคือการแต่งกาย จะต้องมิดชิดนะครับ… ผมเดินทางมาครั้งนี้รู้ซึ้งเลยครับ ถ้าเตรียมตัวไม่ดีหรือประมาท อาจจะต้องเจ็บตัวหรือเสียทรัพย์สินโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วผมจะเล่าให้ฟังต่อไปครับ
เนื่องจากการเดินทางครั้งนี้ เป็นช่วงฤดูฝน ทำให้บางจุดมีน้ำขัง อีกทั้งยังเป็นป่ารกที่อาจจะมีสัตว์เลื้อยคลานทำอันตรายได้ จึงต้องเตรียมรองเท้าบู้ท ซึ่งร้องเท้าทั้งหมดนี้ ได้ยืมจากชาวบ้านในละแวกนั้นครับ… ดีใจมากๆ ที่ชาวบ้านให้ความไว้วางใจพาเดินทางเข้าสำรวจและช่วยเหลือเป็นอย่างดี
ต้องบอกว่าไปแต่ละจุด จะได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี …
โคกวัดแร้ง เป็นจุดที่เดินทางมาถึงเป็นวัดแรก … บรรยากาศต้องบอกว่า น่ากลัวพิลึก ทางเข้ามีบ้านอาคารร้างที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ ส่วนบนโคกวัดเดิมนั้น เคยมีการปลูกสร้างบ้านเรือน แต่ก็ต้องถอนการปลูกสร้างออกไป ด้วยสาเหตุบางประการ จะเห็นเพียงเสาปูนที่ยังตั้งอยู่ไม่กี่เสา… ทำให้บรเวณนี้รกร้างพอสมควร … ด้านบนจะมีการสร้างศาลท้าวศรีสุดาจันทร์ไว้ด้วยครับ…
จากนั้นก็เดินทางไปต่อที่วัดใบสอ ซึ่งพี่ชาวบ้านให้การดูแลคอยถางป่าให้
ต้องบอกว่าถ้าไม่ได้พี่เจ้าของบ้านทางเข้าวัดใบสอ ก็คงจะเข้ามาไม่ได้ เพราะมีสุนัขพันธุ์ร็อตไวเรอร์เลี้ยงไว้ถึง 2 ตัว… คอยเห่าไล่พวกผม ดูแล้วน่ากลัวมาก… พี่เขาก็ช่วยนำไปขังกรงและพาเดินทางเข้ามายังพื้นที่วัดใบสอแห่งนี้
เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ทำให้การเดินทางอาจจะไม่ราบรื่นเท่าไรนัก แต่ก็ยังดีที่ฝนไม่เทลงมาอีกในวันเดินทาง จากนั้นเราก็ไปลุยกันต่อที่วัดครุฑ ซึ่งเป็นวัดที่มีพระจำพรรษาปกติครับ มีความสวยงามของพระอุโบสถ
ต้องบอกว่าไปแต่ละสถานที่ได้ต้องศึกษาข้อมูลแบบสุดๆไปเลยหล่ะครับ และต้องกล้าที่จะเข้าไปสอบถามชาวบ้านด้วย มิฉะนั้นแล้วยากนักที่จะเข้าไปถึงจุดของวัดร้างต่างๆนี้
เจดีย์วัดมงกุฏ มองเห็นทะลุโผล่เหนือต้นไม้ ต้องเดินมุดเข้าไปครับ ณ จุดนี้ผมต้องเสียรองเท้าไป 1 คู่ เพราะขาดกระจายเลยหล่ะครับ ประมาณว่าเดินลุยมากไปนิด และคงถึงอายุขัยของมันแล้วหล่ะ…
วัดโพธิ์ลังกา เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลที่ไม่เห็นซากของโบราณสถานแล้วครับ แต่ยังมองเห็นซากอิฐโบราณกระจายโดยทั่วไป… พื้นที่ตรงนี้ต้องขออนุญาตเจ้าของที่ดินเข้ามาด้วยนะครับ
เมื่อเดินทางเหนื่อยมาพอสมควร ก็แวะพักดื่มกาแฟกันสักเล็กน้อย ที่ร้านชาพะยอม… จากนั้นก็ลุยไปต่อที่วัดช่องลม เลยครับ อยู่แถวๆโซนวัดภูเขาทอง
ณ วัดช่องลม …กว่าจะหาทางเข้าไปได้ ก็ไล่สอบถามผู้ใหญ่บ้านกันเลยทีเดียวครับ … จุดนี้สวยงามมากครับ เดินไปก็จะถึงริมแม่น้ำเจ้าพระยา และมีเศษซากพระพุทธรูปอยู่ด้วย
ณ วัดป่าพลู จะอยู่โซนวัดภูเขาทองเช่นกัน แต่ก็ไม่เห็นซากโบราณสถานแล้ว … มียายชาวบ้านเดินออกมาคุยสนทนากันอย่างมีไมตรี … พื้นที่ก็ยังพบเศษกระเบื้องเชิงชายกระจายอยู่บ้าง ทีมพวกเราจึงได้ทำการจัดเก็บและนำไปมอบให้ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา จำนวนทั้งสิ้น 25 ชิ้น
เรื่องวัตถุโบราณต่างๆ ที่สำรวจพบ …กลุ่มเราเน้นอุดมการณ์ที่ดีคือจะไม่หยิบนำกลับบ้านเด็ดขาด เพราะเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ และโดยส่วนตัวผมคือกลัวบาปครับ เพราะทุกอย่างที่เห็นล้วนเป็นของสงฆ์ทั้งสิ้น ถ้าหยิบกลับมาจะบาปหนักแน่นอน…
วัดศาลาปูน ไม่ได้เป็นวัดร้างนะครับ แต่เดินทางผ่านมาก็เลยแวะเข้าไปเที่ยว ซึ่งกำลังทำการบูรณะพระอุโบสถอยู่ … ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผังสวยงามมาก
หลังจากนั้นทีมเราก็แวะทานข้าวก่อนครับ เพราะล่วงเลยเวลาเที่ยงมาจวนจะบ่าย 2 แล้วหล่ะ ร้านที่เราไปแวะจะเป็นร้านอาหารตามสั่งหน้าวัดหน้าพระเมรุ อาหารอร่อยครับ
ร้านนี้อร่อยมากครับ ใครชอบราคาไม่แพง นั่งกินสบายๆไม่เรื่องมาก ก็เชิญมาแวะทานกันดูได้
หลังจากทานอาหารกันเรียบร้อย เราก็ไปลุยกันต่อที่วัดพระยาพาน … จุดนี้อยู่กลางทุ่งนาเลยครับ ต้องเดินลัดเลาะกันไปตามคันนา ให้ระวังเรื่องสัตว์เลื้อยคลานและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคให้มากด้วยนะครับ เพราะถ้าพลาดเดินตกร่องน้ำแล้วจะงานเข้า เหมือนกับผมนี่แหละครับ ทำให้สูญเสียกล้องถ่ายรูปไปเลยทันที เพราะความสะเพร่าของตัวเองแท้ๆ
วัดพระยาพานจะอยู่บนโคกกลางทุ่งนานะครับ มองเห็นมาแต่ไกล… ทีมเราก็แวะขอจอดรถในบ้านเจ้าของที่ดินด้านหน้าริมถนน…
ต้องบอกว่าใช้เวลาที่วัดพระยาพานนานที่สุดเลยหล่ะครับ เพราะเดินทางเข้าไปไกลพอสมควร แถมน้ำเยอะซะด้วย… แนะนำว่าถ้าจะเดินทางไปกัน ต้องไปช่างหน้าแล้งน่าจะเหมาะสมกว่า…แต่ทีมผมใจร้อนครับ รอหน้าแล้งไม่ไหว…
จากนั้นก็ล่วงเลยเวลามาก็ราวๆ 4 โมงเย็น ทีมเราก็เร่งฝีเท้าเพื่อไปยังจุดหมายอื่นๆต่อ นั่นก็คือวัดเต่า
วัดตามุกก็ตั้งอยู่บนโคก กลางทุ่งนาเช่นกัน …ทีมพวกผมเข้าไปกันแล้วก็ไม่เห็นซากอะไรมากมายนะครับ เห็นแต่เพียงอิฐเก่ากระจายโดยทั่วไป
จากนั้น เราก็รีบเดินทางไปต่อในบริเวณสนามกีฬาพระนครศรีอยุธยา ไปยังวัดมหาทลาย
และวัดสุดท้ายที่เราแวะชมก็คือวัดโคกพระนอน ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับสนามกีฬาพระนครศรีอยุธยา ณ จุดนี้ก็ไม่เห็นซากโบราณสถานที่ชัดเจนนัก แต่พบว่ามีการบูรณะไปบางส่วนแล้ว และพบเศษซากพระพุทธรูปบนโคกดินสูง
หลังจากทีมเดินทางมาถึงวัดโคกพระนอนกันแล้ว ก็มีมติเห็นชอบที่จะกลับไปพักผ่อน เพราะแต่ละคนก็เมื่อยล้ากันแบบสุดๆ มีเพียงเมทเท่านั้น ที่มีพลังคึกอย่างมาก ดูไม่ค่อยจะเหน็ดเหนื่อยเท่าไหร่นัก … สุดๆจริงๆ สมแล้วที่เรียนด้านโบราณคดี
จากนั้นเราก็กลับไปยังวัดหน้าพระเมรุ เพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในการเดินทาง ในภาระกิจสุดพิเศษ “สำรวจวัดร้าง กรุงเก่าอยุธยา” ตอนที่ 1 Episode 1… ซึ่งผมมั่นใจว่า จะต้องมีการนัดเดินทางอีกหลายครั้งอย่างแน่นอน เพราะวัดที่เราจะสำรวจมีอีกเยอะเลยหล่ะครับ… แต่ตอนนี้ขอพักสักนิดเพื่อปั่นบทความที่ค้างไว้อีกมากมาย ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ๆ ตามข้อมูลวัดที่กล่าวมาไว้แล้วทั้งหมด …เรื่องราวอาจจะไม่เป็นวิชาการเพราะผมก็ไม่ใช่นักวิชาการ เพียงแต่รักการท่องเที่ยวแบบนี้เท่านั้น…
การเดินทางวันนี้ ผมได้พบกับทีมนักเดินทางเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็น นนท์ เมท และเต้ ต่างก็มีน้ำใจและมิตรภาพที่ดีต่อกัน รู้สึกประทับใจอย่างมาก… และเราจะมีอุดมการณ์ที่ดีเช่นนี้ตลอดไปครับ…
ขอฝากให้ติดตามกันต่อไปด้วยนะครับ… แล้วพบกันใหม่… ขอบคุณครับ…
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
ร่วมแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยววัดด้วยกัน ได้ที่ กลุ่มรวมพลคนชอบเที่ยววัด
เว็บไซต์หลัก www.faiththaistory.com