สวัสดีครับท่านผู้ติดตามอ่านบทความ FaithThaistory.com ผมมีเรื่องราวที่น่าสนใจมานำเสนอเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของพระแก้วมรกต ณ วัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม)
เรื่องราวนี้ได้จากคำบอกเล่าของหลวงปู่มั่น บันทึกโดยหลวงตาทองคำ จารุวัณโณ ซึ่งท่านได้เป็นพระอุปัฏฐากหลวงปู่มั่นอย่างใกล้ชิดอีกรูปหนึ่ง
หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ (หรือในอดีต คือ พระอาจารย์ทองคำ ญาโณภาโส) เป็นพระอุปัฏฐากผู้ใกล้ชิดหลวงปู่มั่น อยู่หลายปี ได้มีโอกาสอยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่มั่นทั้งในช่วงที่หลวงปู่มั่นจำพรรษาอยู่ที่บ้านโคกและบ้านนามน อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ในช่วงปี พ.ศ. 2486 -2487 จนเมื่อหลวงปู่มั่นย้ายมาอยู่ที่วัดป่าบ้านหนองผือ (วัดป่าภูริทัตตถิราวาส) อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร พ.ศ. 2488-2492 ท่านก็ได้ติดตามมาอยู่ด้วย
การศึกษาเรื่องราวประวัติของหลวงปู่มั่น ถ้าจะให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องหรือใกล้เคียงที่สุด ก็ควรศึกษาจากพระอุปัฏฐากใกล้ชิดซึ่งน่าจะได้ข้อมูลที่ใกล้เคียงที่สุด
ผมเองนั้นได้ใช้ข้อมูลเรื่องราวการบันทึกประวัติหลวงปู่มั่นหลักๆ ประมาณ 3 เล่ม โดยมีพระอุปัฏฐากหลวงปู่มั่นเขียนไว้ได้แก่ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน, หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร และหลวงตาทองคำจารุวัณโณ
ในฐานะที่ผมชอบเดินทางท่องเที่ยววัดต่างๆ และได้อ่านบทความประวัติหลวงปู่มั่นโดยหลวงตาทองคำ ได้พบบทความเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของพระแก้วมรกต ซึ่งบางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าหลวงปู่มั่นได้เขียนเรื่องราวนี้ไว้อย่างไร
นอกจากการบันทึกเรื่องราวนี้โดยหลวงตาทองคำแล้ว ผมยังได้เห็นการนำเรื่องราวนี้ไปจัดแสดงไว้ที่วัดป่าสุทธาวาส (สถานที่ละสังขารของหลวงปู่มั่น) ไว้ด้วย จึงน่าจะเป็นข้อมูลที่ไม่ผิดเพี้ยน ผมจึงขอโอกาสนี้นำเรื่องราวดังกล่าว มานำเสนอเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อท่านผู้ติดตามต่อไป
บันทึกความศักดิ์สิทธิ์ของพระแก้วมรกต
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่หลวงปู่มั่นพักที่วัดป่าบ้านหนองผือ พระอุปัชฌาย์อุ่น หรือ พระครูบริบาลสังฆกิจ (อุ่น อุตตโม) วัดอุดมรัตนาราม อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร ได้เข้ามากราบนมัสการหลวงปู่มั่นเพื่อฟังธรรม และได้นำรูปพระแก้วมรกตขนาด 20 นิ้ว เป็นภาพพิมพ์ใส่กรอบมาถวายหลวงปู่มั่นด้วย หลวงปู่มั่นท่านก็รับไว้ด้วยความเคารพ
หลังจากท่านอุปัชฌาย์อุ่นลาลงกุฏิไปแล้ว หลวงปู่มั่นได้ทำความสะอาดรูปพระแก้วมรกต โดยนำผ้าสรงน้ำของท่าน มาเช็ดถู ในระหว่างนั้น หลวงตาทองคำได้เอาผ้าเช็ดพื้นเข้าไปช่วยทำความสะอาดด้วย เพราะเห็นว่าผ้ายังสะอาดอยู่
หลวงปู่มั่น ท่านก็หันมาเห็นเข้าแล้วพูดว่า
“อะไรกัน นั่นรูปพระพุทธเจ้าแท้ๆ ยังเอาผ้าเช็ดพื้นมาถูได้”
หลวงตาทองคำก็สะดุ้งไปทั้งตัว เพราะความไม่รู้ จากนั้นหลวงปู่มั่นก็เลยทำความสะอาดเอง
เสร็จแล้วก็มีเหล่าภิกษุทยอยกันขึ้นไป รวมทั้งหลวงพ่อวิริยังค์ด้วย หลวงปู่มั่นเลยเทศน์ถึงความมหัศจรรย์ของพระแก้วมรกต ให้กับเหล่าภิกษุได้รับฟังว่า
“พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ว่างจากพระอริยบุคคล พระอริยบุคคลมีอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ฉิบหายด้วยภัยแห่งสงคราม”
วัดพระแก้วนี้เป็นวัดพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะ พระสงฆ์อยู่ไม่ได้ เพราะพระสงฆ์มาจากตระกูลต่างๆ ทั้งหยาบทั้งละเอียด ไม่รู้พุทธอัธยาศัย พุทธธรรมเนียม เพราะพระพุทธเจ้าเป็นทั้งกษัตริย์ และผู้สุขุมาลชาติ เมื่อพระสงฆ์ไม่รู้พุทธธรรมเนียม ถ้าไปอยู่ก็มีแต่บาปกินหัว
ผู้รู้ทั้งพุทธอัธยาศัยและพุทธธรรมเนียมแล้ว มีพระมหากษัตริย์องค์เดียวเท่านั้น ครั้งพุทธกาลก็มีพระเจ้าพิมพิสารเท่านั้นทรงรู้ แต่จอมไทย คือ พระมหากษัตริย์ทรงรู้มาแล้ว ได้ทรงสร้างวัดถวายจำเพาะพระแก้วเท่านั้น
พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์เป็นหน่อเนื้อพุทธางกูร คือ จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้า ต่างแต่วาสนาบารมีมากน้อยต่างกันเท่านั้น ท่านจึงทรงรู้พุทธอัธยาศัยเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า (พระพุทธศาสนา ก็เป็นจอมพุทธศาสนาที่กรุงเทพฯ นี้)
ผู้ใดย่างกรายเข้าสู่วัดพระแก้วเป็นบุญทุกขณะที่อยู่ในบริเวณวัด แม้แต่ชาวต่างชาติ จะเป็นฝรั่ง อังกฤษ อเมริกา มีโอกาสเข้าไปในบริเวณวัดพระแก้ว จะด้วยศรัทธาหรือไม่ก็ตาม ก็ได้เข้ามาสู่วงศ์พระพุทธศาสนาโดยปริยาย หรือจะบังเอิญก็แล้วแต่ ต่อไปจะสามารถมาเกิดเป็นชาวพุทธ สืบต่อบุญบารมีสำเร็จมรรคผลได้
จากเรื่องราวนี้ จึงเป็นบันทึกการยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระแก้วมรกตได้เป็นอย่างดี … เราชาวไทยถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เดินทางไปกราบสักการะพระแก้วมรกตให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อเป็นสิริมงคลต่อไป
วัดพระแก้วมรกต ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นวัดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ยิ่งในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ผมเดินทางไปก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ผู้คนเยอะมาก ทั้งชาวเอเชียและตะวันตก สำหรับการเข้าวัดระแก้วนั้น
ค่าธรรมเนียมชาวต่างชาติ 500 บาท ส่วนคนไทยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมครับ จึงขอเรียนเชิญเดินทางไปสักการะบูชากัน ตั้งแต่เวลา 8:30 น. – 15:30 น. ทุกวัน
บรรยากาศการท่องเที่ยวที่วัดพระแก้วมรกต (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม)
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com