ซากเจดีย์ร้างกลางทุ่งนา วัดเจดีย์หัก และคำบอกเล่าการขุดกรุสมบัติเมื่อครั้งอดีต โบราณสถานวัดร้างนามว่า “วัดเจดีย์หัก” แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ต.หนองไม้ซุง อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดร้างในสมัยอยุธยา ที่ถูกทิ้งร้างลงจากภัยสงครามเสียกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ.2310
แวะสอบถามเส้นทางจากชาวบ้าน
กลุ่มนักเดินทาง ได้ทราบข้อมูลว่า มีพื้นที่วัดร้างในเขตอำเภออุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่หลายแห่ง จึงได้ค้นหาและสอบถามข้อมูลต่างๆจากชาวบ้านในพื้นที่ จึงได้รู้จักชื่อ “วัดเจดีย์หัก” ซึ่งเป็นคำเรียกติดปากของชาวบ้าน เพราะในอดีตราว 40 – 50 ปีก่อน ยังปรากฏเยอดเจดีย์สูงตระหง่าน แต่ได้พังทลายลงไป ชาวบ้านจึงเรียกว่า “วัดเจดีย์หัก” นับแต่นั้นมา
โคกขวามือ คือซากโบราณสถานที่เราตามหา
เราได้เดินทางมายัง ต.หนองไม้ซุง เพื่อมาตามหาวัดแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดหนองไม้ซุงเท่าไรนัก และปรากฏเห็นโคกโบราณสถานใกล้กับหมู่บ้าน ในบรรยากาศท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจีสวยงามอย่างยิ่ง
หน้าโคกโบราณสถาน มีการสร้างศาลของชาวบ้าน
บริเวณโคกโบราณสถานแห่งนี้ มีการสร้างศาลเล็กๆไว้ ชาวบ้านเรียกว่า “เจ้าพ่อขุนศึก” และ “เจ้าแม่จันทร์หอม”
บรรยากาศท้องทุ่งนาโดยรอบ
การเดินทางวันนี้ อากาศเป็นใจอย่างยิ่ง เพราะแสงแดดอ่อนประกอบกับมีลมเย็นพัดตลอดเวลา พร้อมบรรยากาศทุ่งนาเขียวขจีสบายตาอย่างยิ่ง
โคกโบราณสถาน วัดเจดีย์หัก
เราได้เดินขึ้นไปบนโคกโบราณสถานนี้ ปรากฏเห็นขนาดก้อนอิฐที่มีขนาดใหญ่ วัดได้ความยาวประมาณเกือบ 2 คืบ ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่มาก และอาจจะเป็นไปได้ว่า โบราณสถานที่ใช้อิฐขนาดใหญ่เช่นนี้อาจจะมีอายุถึงสมัยอยุธยาตอนกลาง ราวพุทธศตวรรษที่ 21-22 แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า เราไม่พบเศษซากโบราณวัตถุอื่นๆ นอกจากซากอิฐ จึงไม่อาจจะสันนิษฐานอายุได้มากไปกว่านี้
ซากอิฐบนโบราณสถาน
บนโคกโบราณสถาน
ลักษณะโคกโบราณสถาน เป็นซากกองอิฐของเจดีย์ที่พูนสูงขึ้น และพบว่ามีร่องรอยการขุดกรุเจดีย์แห่งนี้เป็นหลุมลงไป ถ้าสังเกตด้วยสายตาพบว่ามีความลึกมากพอสมควร
ร่องรอยการขุดหาสมบัติ
ร่องรอยการขุดหาสมบัติ
เราได้พยายามเดินสำรวจโดยรอบโบราณถานแห่งนี้ เพื่อจะหาเศษซากชิ้นส่วนโบราณวัตถุอื่นๆ ที่อาจจะบ่งบอกอายุของวัดแห่งนี้ได้ชัดเจนขึ้น เช่น ใบเสมา กระเบื้องเชิงชาย แต่ก็ไม่พบเลยสักชิ้น แม้แต่ซากพระพุทธรูป ก็ไม่ปรากฏให้เห็น
ชาวบ้านเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง
ในระหว่างที่กลุ่มนักเดินทางสนทนาและเดินสำรวจพื้นที่ ได้มีชาวบ้านผ่านเข้ามา จึงได้โอกาสพูดคุยสอบถามเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับโบราณสถานแห่งนี้
ชาวบ้านได้เล่าให้ฟังว่า เจดีย์องค์นี้สูงมาก น่าจะเป็นเจดีย์ประธานของวัดสมัยอยุธยา ต่อมามีการลักลอบขุดหาสมบัติและพระกรุใต้ฐานเจดีย์ จนกระทั่งเมื่อราว 40 – 50 ปีก่อน เจดีย์องค์นี้ได้พังทลายลงมา เพราะมีการขุดใต้ฐานเจดีย์จนรับน้ำหนักไม่ได้ ประกอบกับความเก่าแก่โบราณมากกว่า 300 ปี
ชาวบ้านเล่าเรื่องอดีต
เราได้สอบถามว่า มีการค้นพบสมบัติหรือพระกรุใดๆหรือไม่ ได้รับคำตอบว่า ไม่มีการค้นพบสมบัติหรือพระกรุแห่งนี้ และได้เล่าเรื่องราวความเร้นลับต่างๆให้เราฟังว่า มีคนเก่าคนแก่ ฝันถึงโคกโบราณสถานนี้ว่ามีคนมาชี้จุดของสมบัติ แต่นั่นก็เป็นเพียงความเชื่อที่เล่าต่อกันมา ซึ่งยังไม่มีใครได้พบเจอสมบัติเหล่านั้น
กลุ่มนักเดินทาง
เราได้สนทนาและสำรวจพื้นที่กันนานพอสมควร และทำการบันทึกรายชื่อโบราณสถานแห่งนี้ไว้ว่าเคยเป็นร่องรอยอารยธรรมสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ถูกทิ้งร้างลงไปจากภัยสงครามเมื่อครั้งอดีต แม้ว่าจะเป็นเพียงโคกโบราณสถานร้าง แต่ก็ยังทรงคุณค่าทำให้เราเข้าใจถึงสังคมสมัยก่อนที่ผูกพันกับพระพุทธศาสนามาช้านาน สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน และปัจจบุันตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน ก็ได้รับการคุ้มครองตามกฏหมายทุกประการ
โคกโบราณสถาน
บรรยากาศท้องฟ้าแจ่มใส ในวันเดินทาง
เมื่อเราเก็บภาพกันจนพอใจแล้ว จึงได้เดินทางออกจากพื้นที่ เพื่อตามหาวัดร้างอื่นๆในทุ่งอุทัยต่อไป สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณการติดตามการเดินทางตามรอยอารยธรรมโบราณในครั้งนี้ แล้วพบกันใหม่ในโอกาสต่อไป สวัสดีครับ – แอดมินตั้ม Faiththaistory.com
กำลังหาเส้นทางไปวัดร้างอื่นๆ
ช่องทางการติดตาม
Facebook เพจภารกิจเที่ยววัด – Faiththaistory.com
Facebook กลุ่มเที่ยววัดและโบราณสถาน
