Category Archives: วัดร้าง

วัดพระนอน พระนอนเก่าแก่สมัยอยุธยา อายุกว่า 600 ปี

บทความนี้ผมจะพาเดินทางไปชมวัดร้างอีกแห่งหนึ่ง ที่แต่เดิมนั้น ยังไม่ได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากร เพิ่งจะได้รับการปรับแต่งพื้นที่ได้ไม่นานนี้เองครับ นั่นก็คือวัดพระนอน หรือ บางคนเรียกว่า วัดโคกพระนอน การที่เรียกว่าวัดพระนอนนั้น จะมีจุดเด่นสำคัญอย่างหนึ่งคือ จะมีพระนอนขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ แต่ก็ชำรุดทรุดโทรมไปอย่างมาก จะมองเห็นได้เพียงรูปทรงว่าเป็นพระนอนขนาดใหญ่ โดยทางกรมศิลปากรได้นำชิ้นส่วนต่างๆขององค์พระมาประกอบกันไว้ คงจะอีกสักระยะที่จะมีการบูรณะให้ดูมั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น การเดินทางจากเจดีย์วัดสามปลื้ม (เจดีย์วงเวียน) ผ่านมายังวัดใหญ่ชัยมงคล แล้วเลี้ยงซ้ายเมื่อถึงโค้งแรกให้สังเกตุซอยทางเข้าหอพัก แล้วกลับรถเข้าซอยครับ บริเวณนี้จะมีวัดร้างที่ได้รับการบูรณะไปจำนวนถึง 3 วัด ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกัน คือ วัดชุมพล วัดประโดก และวัดพระนอนที่ผมกำลังจะพาไปชมนี่แหละครับ สภาพพิ้นที่วัดพระนอนปัจจุบัน (24 มกราคม 2558) ได้รับการบูรณะอย่างชัดเจน มีป้ายบอกชื่อวัด และมีการปรับพื้นที่ ทำให้มองเห็นสภาพของโบราณสถานได้ดียิ่งขึ้น พื้นที่โดยรอบของวัดรพระนอน จะมีเพียงโคกอิฐของฐานเจดีย์ ที่ยังมองเห็นอยู่ในปัจจุบัน ทีมนักเดินทางที่ไปด้วยกัน ได้เข้าไปสำรวจดูองค์พระ และบอกว่าสภาพขององค์พระมีการแตกร้าวบริเวณพระพักตร์ ทำให้เห็นรอยการบูรณะมาหลายสมัย ตั้งแต่สมัยอยุธยาเป็นต้นมา และถูกทิ้งร้างเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ประวัติจากการสันนิษฐาน จากข้อมูลแหล่งข่าว มีรายละเอียดว่า นายเอนก สีหามาตย์ รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า วัดโคกพระนอนแห่งนี้อายุกว่า 600 ปี มีเนื้อที่ 2 ไร่ สร้างในสมัยอยุธยาช่วง พ.ศ.1901 ถึง พ.ศ. 2000 บูรณะต่อเนื่องหลายสมัยแต่ไม่พบบันทึกประวัติการสร้าง จากการสำรวจเบื้องต้นที่เคยทำประวัติไว้ โดยภายในวัดจะมีวิหารขนาดใหญ่ คลุมองค์พระนอนองค์ใหญ่ ลักษณะปูนปั้น มีความยาวประมาณ… Read More »

ตามรอยวัดโคกขมิ้น วัดร้างโบราณในกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา

ตามรอยวัดโคกขมิ้น วัดร้างโบราณในกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา https://youtu.be/P89iCgReLAE ตามรอยวัดโคกขมิ้น วัดร้างโบราณในกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสเดินทางไปสำรวจวัดโคกขมิ้น เป็นวัดร้างโบราณ ในกรุงเก่าพระนครศรีอยุธยา ซึ่งปัจจุบันนั้นยังไม่ไดรับการปรับปรุงและรังวัดพื้นที่ แต่ผมคิดว่าในอนาคตจะได้รับการปรับปรุงพื้นที่และบูรณะปฏิสังขรณ์วัดโคกขมิ้นขึ้นมาแน่นอน ทั้งนี้วัดร้างในอยุธยายังมีอีกมาย ที่กำลังทำการปรับพื้นที่ และผมจะทำการบันทึกเรื่องราวการเดินทาง และหาข้อมูลเพิ่มเติมมาเขียนไว้บนบล็อกแห่งนี้ต่อไป การเดินทางครั้งนี้ผมได้รู้จักกับพี่แอดมินของเพจ Mind GaLLerY (พี่ยุทธ) เป็นเพจที่รวมรูปภาพจากการเดินทางถ่ายรูปตามโบราณสถานไว้มากมาย จึงได้โอกาสนัดแนะกันเพื่อเดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้ โดยผมขอเป็นลูกทัวร์ติดตาม โดยมีเพื่อนร่วมทางทั้งหมด 4 คน การเดินทางก็ได้รับความช่วยเหลือจากพี่ยุทธเป็นอย่างดี แถมขับรถให้อีกต่างหาก สุดยอดจริงๆ จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ การเดินทางได้นัดแนะเวลาเดินทาง 07.00 น. ของวันที่ 24 มกราคม 2558 เพื่อจะได้เดินทางชมโบราณสถานได้มากที่สุด เมื่อถึงเวลานัดหมายก็ตรงเวลาเป๊ะเลยครับ บรรยากาศวันเดินทางไม่ร้อนเท่าไรนักถือว่าโอเค จึงได้เดินทางไปยังวัดโคกขมิ้น กันทันที การเดินทางเป็นการเปิดเส้นทางที่ผมไม่ค่อยจะรู้จักนัก เนื่องจากผมยังไม่ได้เดินทางทั่วอยุธยา เส้นทางที่เดินทางจะผ่านมาตามเส้นทางวัดไชยวัฒนาราม ถ้าจะไปอีก ผมคงต้องแกะเส้นทางอีกรอบ จุดจอดรถกลุ่มเราก็ได้รับความกรุณาให้จอดรถในพื้นที่ของร้ายรับทำสแตนเลสตามรูปด้านบนนี้ เจ้าของร้านมีน้ำใจจริงๆ ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ วัดโคกขมิ้น เป็นวัดร้างนอกเกาะเมือง ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การเดินทางไปวัดนี้ เมื่อข้ามสะพานออกจากเกาะเมืองไปตามเส้นทางสู่สุพรรณบุรีจะมีทางแยกซ้ายมือเพื่อไปยังวัดไชยวัฒนาราม เมื่อเลี้ยวไปตามเส้นทางดังกล่าวเลยทางแยกเข้าวัดเซนต์โยเเซฟเล็กน้อย มองทางด้านขวามือจะเห็นเนินดินซึ่งมีต้นไม้น้อยใหญ่ปกคลุมเป็นกลุ่มทึบห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 500 เมตร ซากโบราณสถานวัดโคกขมิ้นจะอยู่ในดงไม้ดังกล่าวนี้ จากนั้นจึงได้เดินทางลัดเลาะเข้ามา และจะเห็นแนวป่าเล็กๆ ซึ่งประกอบไปด้วยพันธุ์ไม้เถา และมีหนาม ซึ่งต้องระวังไว้ด้วยนะครับเดี๋ยวจะได้รับบาดเจ็บ… Read More »

วัดราชบูรณะ และวัดกะชาย วัดร้างติดอันดับ 8 ของเอเชีย ความเฮี้ยน ความหลอนอาถรรพ์ และน่ากลัว

วัดราชบูรณะ และวัดเจ้าชาย (วัดกระซ้าย) วัดร้างในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดอันดับความเฮี้ยนและน่ากลัว เป็นอันดับที่ 8 ของเอเชีย การเดินทางครั้งนี้จะไปที่วัดกระซ้ายซึ่งมีหลายชื่อและเรียกเพี้ยนกันมากมาย เช่น วัดเจ้าชาย, วัดกระช้าย, วัดกะชาย แต่ถือว่าเป็นวัดเดียวกัน ผมได้อ่านเจอบทความเกี่ยวกับความน่ากลัวในสถานที่ต่างๆ จากทั่วโลก จาก CNN Travel ซึ่งระบุว่า “วัดพระศรีสรรเพชญ์” เป็นสถานที่ที่น่ากลัวเป็นอันดับที่ 8 ของเอเชีย ซึ่งจากเนื้อหาในเว็บเขียนไว้ว่า เป็นสถานที่เมื่อราวๆ 50 ปีก่อน (พ.ศ. 2500) ได้มีขโมยเข้าไปขุดกรุหาสมบัติ และได้เจอกับอาถรรพ์มากมาย ผมก็เลยมานั่งคิดว่า ไม่น่าจะใช่วัดพระศรีสรรเพชญ์ ตามที่ระบุไว้ เพราะว่า ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ วัดที่มีการขโมยขุดกรุ และเป็นข่าวใหญ่ครึกโครมคือ “วัดราชบูรณะ” ซึ่งเป็นวัดร้างในอยุธยา  ผมก็เลยค้นหาข้อมูลต่อไปว่าที่มาที่ไปของบทความนี้เป็นมาอย่างไรกันแน่ หลังจากที่ผมค้นหาข้อมูลสักพัก ก็พบแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ว่า แท้จริงแล้วบทความจาก CNN Travel นั้น นำมาจากสารคดีของ National Geographic Channel ที่ทำสารคดีในชุด  “I Wouldn’t Go In There” แปลเป็นไทยว่า “ฉันจะไม่ไปที่นั่น อย่างแน่นอน” เมื่อผมเข้าไปดูเว็บไซต์หลักของ National Geographic Channel ที่ได้ทำสารคดีชุดนี้ที่เว็บ http://iwgit.com/   ก็พบว่าวัดร้างในอยุธยา ติดอันดับความน่ากลัวจริงๆ และถูกจัดไว้เป็นอันดับที่ 8 ของเอเชีย… Read More »

วัดโคกพระยา สถานที่สำเร็จโทษพระบรมวงษานุวงศ์และเจ้านายชั้นสูง ในสมัยอยุธยา

วัดโคกพระยา เป็นวัดร้างที่สำคัญมากอีกวัดหนึ่งในสมัยอยุธยา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับวัดหน้าพระเมรุ ความสำคัญของวัดแห่งนี้คือ เป็นสถานที่สำเร็จโทษเจ้านายชั้นสูงในสมัยอยุธยา ซึ่งตามหลักฐานที่บันทึกไว้มากมายเกี่ยวกับเรื่องการสำเร็จโทษ (ประหารชีวิต) พระบรมวงษานุวงศ์ จึงน่าจะเป็นสถานที่ใกล้กับวัดหน้าพระเมรุ ใกล้เคียงกับวัดหัสดาวาส สันนิษฐานกันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น และร้างไปหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2310 ทั้งนี้วัดโคกพระยา ตามบันทึกมีอยู่ 2 แห่ง คือ ใกล้กับวัดหน้าพระเมรุ และบริเวณกลางทุ่งภูเขาทอง ข้อสันนิษฐานว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำเร็จโทษเจ้านายชั้นสูง เพราะว่า เป็นสถานที่ใกล้กับวังหลวง ถ้ามีการเคลื่อนย้ายนักโทษจะถึงเร็วกว่าการเดินทางไปถึงบริเวณวัดภูเขาทอง และลดความเสี่ยงเรื่องการชิงตัวนักโทษ อีกทั้งชื่อวัดหน้าพระเมรุ จึงมีส่วนเกี่ยวข้องว่าจะเกี่ยวกับวัดโคกพระยา ที่เป็นสถานที่สำเร็จโทษด้วยเช่นกัน พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาได้กล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับวัดโคกพระยาหลายตอน ผมจะขอยกตัวอย่างบางตอนดังนี้ 1. ในแผ่นดินสมเด็จพระราเมศวร (ครั้งที่ 2) ในพงศาวดารระบุว่า “สมเด็จพระราเมศวรเสด็จลงมาแต่เมืองลพบุรีเข้าในพระราชวัง กุมเอาเจ้าทองลันได้ ให้พิฆาตเสีย ณ วัดโคกพระยา” 2. ในแผ่นดินขุนวรวงศาธิราช พ.ศ. 2072 ขุนวรวงศาธิราชเจ้าแผ่นดินคิดกับเจ้าแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ให้เอาพระยอดฟ้าไปประหารชีวิตเสีย ณ วัดโคกพระยา ที่จริงแล้วยังมีเรื่องราวอีกเยอะนะครับ จะใช้เป็นสถานที่ประหารชีวิตชนชั้นสูงอีกมากมาย การเดินทางมาที่วัดโคกพระยา จะใช้ถนนเส้นเดียวกับการเดินทางไปวัดหัสดาวาส และวัดตะไกร แต่จะต้องเลี้ยวเข้าไปในซอยอีกเล็กน้อย >>> แผนที่วัดต่างๆ ในอยุธยา <<< การเดินทางไปวัดโคกพระยา ผมได้วนเวียนหาวัดโคกพระยาสักพักใหญ่ๆ เพราะคิดว่าวัดจะตั้งติดริมถนน ก็เลยขับมอเตอร์ไซต์วนไปมาหลายรอบ และไปถามทางกับชาวบ้านแถวนั้น ก็เลยรู้ว่าเส้นทางไปวัดโคกพระยา จะต้องเลี้ยวเข้าซอยไปอีกเล็กน้อย โดยซอยไปวัดโคกพระยาจะอยู่สุดเขตวัดหน้าพระเมรุพอดีเลยครับ ถนนเส้นนี้จะอยู่ข้างวัดหน้าพระเมรุ ติดกับวัดหัสดาวาส… Read More »

พาชมวัดตะไกร อยุธยา สถานที่ปลงศพนางวันทองในวรรณคดีขุนช้างขุนแผน

https://youtu.be/woIPc-q35fA วัดตะไกร เป็นวัดร้างที่น่าสนใจอีกวัดหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แม้ว่าจะไม่พบหลักฐานทางเอกสารการสร้างวัดแห่งนี้ก็ตาม เนื่องจากมีชื่อปรากฏในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ว่าเป็นสถานที่ปลงศพนางวันทอง ซึ่งผมเองคิดว่าวรรณคดีขุนช้างขุนแผนเป็นเรื่องแต่งขึ้น แต่จากการบันทึกพบว่าเป็นเค้าโครงจากเรื่องจริง ในวันที่ผมเดินทางมาที่วัดนี้ เป็นวันเดียวกับที่ผมได้เดินทางไปที่วัดหัสดาวาส ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก จึงได้ถือโอกาสเดินทางไปชมสถานที่แห่งนี้ >>>แผนที่วัดต่างๆในอยุธยา<<< หลังจากผมได้เที่ยวชมวัดหัสดาวาสเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินทางไปตามถนนเส้นนี้ไปอีกประมาณ 1 – 2 กิโลเมตร ก็จะพบกับวัดตะไกร ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ โดยมีบ้านเรือนชาวบ้านอยู่โดยรอบ วัดตะไกร อยู่ริมถนนฝั่งซ้ายเลยครับ มองเห็นชัดเจน ไม่หลงทางแน่นอน เมื่อผมมาถึงก็จอดรถไว้บริเวณนี้ บรรยากาศดูเงียบสงบมากครับ มีสุนัขเจ้าถิ่น 2 – 3 ตัว แต่ไม่ดุ แค่หันมามองหน้าผม แล้วมันก็นอนหลับต่อ (ค่อยยังชั่วหน่อย เจอสุนัขอัธยาศัยดี) นี่ถ้าผมเดินทางมาช่วงเย็นๆ คงได้บรรยากาศวังเวงพิลึกแน่ๆ แต่ช่วงเวลาที่ผมเดินทางมาถึงประมาณเที่ยงพอดี ยังรู้สึกสยิวที่หลังนิดๆ ฮ่าๆ (ผมค่อนข้างกลัวผีอ่ะครับ) วัดตะไกร มีชื่อในวรรณคดีขุนช้าง ขุนแผน จากหนังสือประชุมพงศาวดารภาคที่ 63 ตอนว่าด้วยแผนที่กรุงศรีอยุธยา ฉบับพิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพพระยาโบราณราชธานินทร์ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2479 หน้า 166 – 167 ได้กล่าวถึงตลาดบกนอกกรุงว่า ที่หน้าวัดตะไกรเป็นตลาดลงท่าน้ำที่หน้าวัดพระเมรุแห่งหนึ่ง ในจำนวนตลาดนอกกรุงซึ่งมีอยู่ถึง 23 แห่ง ประกอบกับหลักฐานทางด้านวรรณคดีเรื่อง “เสภาขุนช้างขุนแผน” สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย ได้ทรงสันนิษฐานโดยอาศัยพงศาวดารและคำให้การชาวกรุงเก่าไว้ว่า… Read More »

ตามรอยกรุงเก่าพระนครศรีอยุธยา วัดหัสดาวาส (วัดช้าง) วัดร้างหลังเสียกรุงครั้งที่ 2

https://youtu.be/556YV9Q5XJA วัดหัสดาวาส หรือวัดช้าง เป็นวัดร้างวัดหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งถ้าเราจะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก็สามารถที่จะไปได้ง่ายมาก เพราะอยู่ติดกับวัดหน้าพระเมรุ และผมเองได้ตั้งใจว่าจะไปเที่ยววัดหน้าพระเมรุ จึงตั้งใจว่าจะไปเที่ยวดูซากโบราณที่วัดหัสดาวาสด้วยเช่นกัน ความสำคัญของวัดหัสดาวาส มีบันทึกไว้ว่าเป็นสถานที่ทำสัญญาสงบศึกระหว่างพระเจ้าจักรพรรดิและพระเจ้าบุเรงนองเมื่อปี พ.ศ.2092 แผนที่วัดต่างๆ ในอยุธยาสามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่ ===> แผนที่วัดต่างๆ ในอยุธยา วัดหัสดาวาส หรือวัดช้าง จะมีถนนเส้นเล็กๆกั้นระหว่างวัดหน้าพระเมรุ การเดินทางเมื่อมาถึงวัดหน้าพระเมรุ ให้เลยจากทางเข้ามาเล็กน้อย จะมีถนนเส้นเล็กๆกั้น ก็จะมองเห็นซากวัดโบราณ มีเจดีย์เด่นเลยครับ ซึ่งพื้นที่นี้ก็คือวัดหัสดาวาสนั่นเอง การเดินทางครั้งนี้ผมได้ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ เพราะสะดวกในการเดินทาง เนื่องจากตั้งใจว่าจะไปดูวัดโบราณอีกหลายๆวัด ซึ่งสามารถขับรถซอกแซกได้ง่ายกว่าและรวดเร็ว สำหรับท่านใดจะไปเที่ยวชมวัดที่ไม่ค่อยจะคุ้นเคยกันนัก แนะนำมอเตอร์ไซต์นี่แหละครับ สะดวกที่สุด และอาจจะรวดเร็วกว่าด้วย ยิ่งในวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ต้องบอกเลยว่า ปริมาณรถจะค่อนข้างมาก มีทั้งคณะทัวร์และนักท่องเที่ยวทั่วๆไป และเป็นผลให้การจราจรติดขัดในบางช่วง ผมได้ขับรถมอเตอร์ไซต์ไปจอดไว้ในพื้นที่จอดของวัดหน้าพระเมรุ และก็เดินออกมายังถนนเส้นเล็กๆนี้ และเดินตามเส้นทางลงไป เพื่อเข้าไปเขตพื้นที่วัดหัสดาวาส เมื่อเดินตามเส้นทางบนถนนเส้นนี้มาเรื่อยๆ สักพักก็จะมีเดินดินทางเข้าพื้นที่วัดแล้วหล่ะครับ สิ่งที่เห็นโดดเด่นมาแต่ไกลก็คือ เจดีย์ 2 องค์ และซากพระวิหาร ซึ่งเหลือแต่เพียงเนินวิหารเท่านั้น โดยรอบก็ยังมีซากกำแพงโบราณ และคูน้ำโดยรอบวัด เมื่อผมเดินเข้ามาสู่เขตของวัดหัสดาวาสแล้ว จะมองเห็นคูน้ำรอบทิศ ตอนแรกผมคิดว่าเป็นคูน้ำที่เพิ่งเกิด หรือเกิดจากการขุดขึ้นภายหลัง แต่จากบันทึกได้บอกว่าเป็นคูน้ำโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสร้างวัดเลยครับ หลังจากนั้นผมก็เดินมาทางฝั่งซ้ายของพื้นที่วัด และก็มองเห็นคูน้ำรอบวัดจริงๆด้วยครับ สำหรับสิ่งก่อสร้างสำคัญที่ยังหลงเหลือให้เราได้เที่ยวชมและเก็บภาพ ในปัจจุบันมีดังนี้ 1. พระเจดีย์ประธาน เป็นเจดีย์ขนาดค่อนข้างใหญ่ทรงกลมหรือที่มักเรียกกันว่า ทรงลังกาตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ… Read More »