Category Archives: พระนครศรีอยุธยา

เที่ยววัดขุนทราย ทุ่งชายเคือง คลองชนะ เส้นทางเดินทัพพระยาตาก#4

https://youtu.be/tAcEjK7SLnw จากบทความเดิม เส้นทางเดินทัพพระยาตาก#3 วัดโกโรโกโส อนุสรณ์สถานบ้านข้าวเม่า-ธนู … เราก็มาเดินทางท่องเที่ยวกันต่อที่อนุสรณ์สถานคลองชนะ ซึ่งจะผ่านวัดขุนทราย ณ บริเวณนี้เราจะเรียกว่า “ทุ่งชายเคือง” เป็นจุดที่กองทัพพระยาตากเดินทัพมาปะทะกับทัพพม่า เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เคยปะทะกันครั้งแรกแล้วที่ “ทุ่งหันตรา” ผมเดินทางมาในช่วงเย็นๆ หลังเลิกงานก็ประมาณ 17.30 น. ก็ถึงจุดหมายที่วัดขุนทราย ซึ่งอยู่ติดกับคลองข้าวเม่า … ผมมาถึงในบริเวณก็มีบรรยากาศเงียบๆ เพราะเป็นช่วงเวลาเย็นมากแล้ว ก็ดีเหมือนกันครับอากาศไม่ร้อน แต่ก็มีข้อเสียคือไม่สามารถเข้าไปไหว้พระในพระอุโบสถได้ ผมจึงได้เดินวนเวียนถ่ายรูปบรรยากาศได้แต่เพียงภายนอกเท่านั้น เนื่องจากเป็นช่วงเย็นมากแล้ว ผมจึงเดินวนเวียนได้ไม่นาน ก็เดินไปยัง “พระบรมธาตุเนรมิตนวทิศรังสีเจดีย์ศรีอโยธยา” ซึ่งอยู่ที่บริเวณหน้าวัด ด้านบนพระบรมธาตุเราสามารถที่จะเดินขึ้นไปได้นะครับ ก่อนขึ้นไปก็ควรถอดรองเท้าไว้ด้านล่างด้วยนะครับ เพื่อเป็นการเคารพต่อสถานที่ … โดยรอบพระบรมธาตุจะประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนโดยรอบ สีทองสวยงามมากครับ ผมได้ยืนชมบรรยากาศและเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกจำนวนหนึ่ง บรรยากาศเงียบสงบดีมากครับ ผู้คนเริ่มเลิกงานและขับรถผ่านมาเป็นระยะ แต่ไม่หนาแน่น … อีกสักพักผมก็เดินทางไปยัง อนุสรณ์สถานคลองชนะ ทุ่งชายเคือง ประวัติวัดขุนทรายพอสังเขป วัดขุนทรายเป็นวัดเก่าแก่ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ประมาณ พ.ศ.2200 และถูกทิ้งร้างในคราวเสียกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ.2310 ต่อมาได้มี จีนปอม มาดูแลรักษา ชาวบ้านเรียกว่า วัดจีนบูรณะศีศะทราย ครั้นเมื่อถึง ร.ศ.125 (พ.ศ.2450) หลวงรามพิชัย (ต้นตระกูล สุดบรรทัด) ได้บูรณะปฏิสังขรณ์ เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น วัดศีศะทรายรามพิชัยบำรุง และได้เปลี่ยนเป็น วัดขุนทราย… Read More »

เที่ยววัดโกโรโกโส อยุธยา ขอพรหลวงพ่อแก้ว เส้นทางเดินทัพพระยาตาก#3

https://youtu.be/zGgi0QumRlA มาถึงจุดที่ 3 ของเส้นทางเดินทัพพระยาตากในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่วัดโกโรโกโส ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานบ้านข้าวเม่า – ธนู เป็นสถานที่สำคัญจุดที่ 3 ที่ทาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ประชาสัมพันธ์ ความสำคัญของจุดนี้คือเป็นจุดที่พระยาวชิรปราการ (พระเจ้าตาก) ได้เดินทัพต่อมาจากทุ่งหันตรา ผ่านมาบริเวณวัดโกโรโกโส ที่เรียกว่าบ้านข้าวเม่า ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ บ้านธนู … ทั้งนี้มีคำบอกเล่าต่อๆกันมาว่า ณ บริเวณนี้ พระยาตากได้รับเสบียงจากชาวบ้านเป็นข้าวเม่า และได้รับคันธนูและลูกธนูจากชาวบ้านเป็นอาวุธ ซึ่งก็ไม่มีหลักฐานบันทึกเรื่องราวนี้ หลังจากที่ได้รับชัยชนะที่ทุ่งหันตราแล้ว พระยาตากได้เร่งทัพไปต่อมาถึงจุดแรกคือ วัดโกโรโกโส หรือ วัดคลังทอง เพื่อทำการอธิษฐานขอพรพระพุทธรูปในพระอุโบสถ ซึ่งเชื่อว่าเป็นหลวงพ่อแก้ว หรือหลวงพ่อดำ ซึ่งปัจจุบันได้ประดิษฐานในพระวิหารที่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ริมคลองข้าวเม่า ผมเดินทางมาตามเส้นทางตามป้ายบอกทาง จนกระทั่งมาถึงวัดโกโรโกโส แล้วข้ามสะพานคลองข้าวเม่า ไปจอดรถที่วัดสะแก(หลวงปู่ดู่) ซึ่งมีพื้นที่ ที่กว้างขวาง หาที่จอดรถง่ายกว่า ถ้าท่านเดินทางมาที่นี่ควรแวะเที่ยวทำบุญทั้งสองวัดนี้เลยนะครับเพราะตั้งติดกันเลย ผมเดินทางเข้ามาในวัดโกโรโกโส ซึ่งมีพื้นที่เล็กมากครับ อยู่ในการดูแลของวัดสะแก .. ช่วงเวลาที่ผมเดินทางไปถึงกำลังมีการทำบุญผ้าป่าอยู่ด้วย เนื่องจากพระวิหารหลวงพ่อแก้ว หรือหลวงพ่อดำ กำลังทำการบูรณะใหม่ผมจึงขึ้นไปกราบขอพรหลวงพ่อแก้วไม่ได้ สภาพพระวิหารมีการทรุดลงไปราวๆ 50 เซนติเมตร เพราะอยู่ติดริมคลอง อีกทั้งวิหารไม่มีเสาเข็มจึงเสี่ยงที่จะเกิดการพังทลายลงมา … ทางวัดจึงได้รับปัจจัยจากความศรัทธามาทำการเร่งบูรณะในครั้งนี้ ประวัติวัดโกโรโกโส อยุธยา วัดโกโรโกโส เป็นวัดเก่าแก่ในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่คนละฝั่งคลองกับวัดสะแก ได้ถูกพม่าเผาทำลายจนเหลือเพียงซากปรักหักพัง พระสงฆ์และชาวบ้านเพิ่งได้ทำการบูรณะเมื่อร้อยกว่าปีมานี้ และได้นำเศียรหลวงพ่อแก้ว หรือหลวงพ่อดำที่หักกองอยู่บนพื้นมาต่อกับองค์พระ แล้วทำการสร้างวิหารอย่างที่เห็นในปัจจุบันนี้ วัดโกโรโกโส หรือ วัดคลังทอง… Read More »

เที่ยววัดหันตรา จุดปะทะพม่าครั้งแรก เส้นทางเดินทัพพระยาตาก#2

https://youtu.be/HJlCprUE_T4 จากการเที่ยววัดพิชัยสงคราม ซึ่งเป็นจุดแรกของการตั้งทัพตามเส้นทางเดินทัพพระยาตาก … ครั้งนี้ผมจะพาไปเที่ยวต่อในจุดที่ 2 นั่นก็คือทุ่งหันตรา ซึ่งจะมีวัดหันตราตั้งอยู่ในบริเวณนี้ เป็นจุดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์คือ เป็นจุดที่เกิดการปะทะกันครั้งแรกระหว่างกองทัพพระยาวชิรปราการ (พระเจ้าตาก) กับทัพพม่า ซึ่งสุดท้ายแล้วฝ่ายไทยก็เป็นฝ่ายชนะในจุดปะทะนี้ ทำให้เหล่าทหารมีกำลังใจขึ้นมามาก ผมได้ขับรถตามเส้นทางป้ายบอกทางผ่านวัดพระญาติการาม จนถึงวัดกะสังข์ จากนั้นอีกเล็กน้อยจะถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้าย ซึ่งจะมีป้ายบอกเส้นทางโดยตลอด อีกเล็กน้อยก็จะถึงวัดหันตราแล้วหล่ะครับ ผมได้ขับรถมาจอดไว้บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมโกศ เนื่องจากว่าวัดหันตราแห่งนี้เป็นพระอารามที่สมเด็จพระเจ้าบรมโกศทรงปฏิสังขรณ์ทั้งวัด เมื่อสำเร็จบริบูรณ์แล้วโปรดเกล้าให้จัดการฉลองขึ้นเมื่อเดือน 6 ปีมะเมียสัมฤทธิศก จุลศักราช 1100 หรือ พ.ศ. 2281 ต้องบอกว่าบรรยากาศในวัดหันตรา เงียบมาก อาจจะเป็นเพราะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาน้อยมากๆ แต่ความโดดเด่นของสถานที่แห่งนี้ก็ยังมีให้เห็นนั่นก็คือโบสถ์มหาอุตม์ ซึ่งลักษณะคือจะไม่มีประตูทางออกด้านหลัง และไม่มีหน้าต่าง … เนื่องจากพระอุโบสถปิดไว้ ทำให้ผมไม่สามารถเดินเข้าไปกราบพระพุทธรูปด้านในได้ (ในใจก็รู้สึกเสียดายมากๆครับ) เหตุที่ปิดไว้ อาจจะเนื่องมาจากปริมาณนักท่องเที่ยวน้อยมาก โบสถ์มหาอุตม์สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งไม่มีประตูด้านหลังและไม่เจาะช่องหน้าต่าง เชื่อกันว่าใช้พระอุโบสถ์แห่งนี้เป็นสถานที่ประกอบพิธีปลุกเสกเครื่องรางของขลังที่ศักดิืสิทธิ์ยิ่ง โดยเฉพาะบริเวณที่ทุ่งหันตราแห่งนี้เป็นสถานที่ตั้งทัพรับศึก และเป็นที่ประชุมทัพสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 เจ้าสามพระยา และสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อไปตีเมืองละแวกการสร้างพระเครื่องจึงเป็นมิ่งขวัญและกำลังใจของเหล่าทหารกล้ากรุงศรีอยุธยา ดังที่เคยได้ยินชื่อติดปากมาจนถึงปัจจุบันว่า”พระยอดธง”ภายในอุโบสถ์มหาอุดแห่งนี้ มีพระประธานปางมารวิชัย พระนามว่า “พระพุทธอนันตชินราช” และนอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับพุทธประวัติให้แก่พุทธศาสนิกชน … ที่มา : วัฒนธรรมอำเภอพระนครศรีอยุธยา วัดหันตรามีชื่อในพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขาว่า จุลศักราช ๑๑๐๐ รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้เสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนนาวาพยุหไปฉลองวัดหันตรา และสมโภชอาราม ๓ วัน พระพุทธฉายจำลององค์นี้ สันนิษฐานว่ามีการสร้างขึ้นมานับร้อยปี แต่น้อยคนนักที่จะเข้าใจหรือรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธฉายจำลองตรงนี้… Read More »

วัดพิชัยสงคราม อยุธยา จุดเริ่มต้นเส้นทางเดินทัพพระยาตาก#1

https://youtu.be/Jvh4iqmVWWo สวัสดีครับครั้งนี้ผมจะพาท่องเที่ยววัดที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ชาติไทยครั้งสำคัญครั้งหนึ่ง เมื่อครั้งการเสียกรุศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2310 ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ทำให้เราภาคภูมิใจต่อพระราชภารกิจอันหนักในการกอบกู้เอกราชคืนจากประเทศพม่า ซึ่งถ้ากล่าวดังนี้ก็จะหนีไม่พ้นเรื่องราวของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแน่นอน ผมจึงได้จัดโปรแกรมท่องเที่ยววัดต่างๆ  ที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางเดินทัพของพระยาตากที่ได้ตีฝ่าวงล้อมของกองทัพพม่าออกไปเพื่อรวมกำลังไพร่พลเพื่อกลับมากู้เอกราชในภายหลัง … ทั้งนี้เส้นทางเดินทัพของพระยาตากจะมีอนุสรณ์สถานในจุดสำคัญๆ มากมายที่จัดขึ้นโดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและศึกษาประวัติศาสตร์ จึงเป็นอีกโปรแกรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างมาก และผมก็ไม่พลาดเส้นทางดังกล่าวนี้แน่นอน จุดแรกที่ผมจะเดินทางไปก็คือ “วัดพิชัยสงคราม” เป็นวัดที่ถือได้ว่ามีประวัติศาสตร์สำคัญจุดแรกของเส้นทางเดินทัพพระยาตากเพราะเป็นจุดรวมพลของเหล่าทหารกล้า และทำสัตยาอธิษฐานของพรต่อพระประธาน (พระพุทธพิชัยนิมิตรหรือหลวงพ่อใหญ่) เพื่อให้ได้รับชัยชนะและปลอดภัยในระหว่างการเดินทัพ โดยมีเป้าหมายไปถึงจันทบุรีซึ่งอำนาจของพม่าไปไม่ถึง เพื่อรวมพลกลับมากู้เอกราช การเดินทางมายังวัดพิชัยสงคราม ถ้าเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร เข้าตัวเมืองอยุธยา จะผ่านเจดีย์วัดสามปลื้มซึ่งเป็นเจดีย์กลางวงเวียน ให้ตรงไปไม่ต้องข้ามสะพานแม่น้ำป่าสักนะครับ ให้ชิดซ้ายไปใต้สะพานจนสุดเส้นทางจะเป็นถนนวนไปทางขวา จะเจอโรงแรมกรุงศรีริเวอร์แล้วให้เลี้ยวซ้าย … วัดพิชัยสงครามจะอยู่ใกล้โรงแรมกรุงศรีริเวอร์นี่แหละครับ ทางฝั่งซ้ายมือ เราจะมองเห็นป้สยวัดพิชัยสงคราม ฝั่งซ้ายมือชัดเจนเลยครับ บริเวณพื้นที่จอดรถ จะมีทั้งด้านหน้าและด้านหลังวัดเลือกจอดกันได้ตามสะดวกเลยครับ ทางเข้าพระอุโบสถจะอยู่ทางทิศของแม่น้ำป่าสัก วันนี้แดดค่อนข้างแรงมากครับ แต่ก็มีลมพัดแรงจากแม่น้ำป่าสักเข้ามาทำให้คลายร้อนไปได้เยอะ … ผมเดินวนเวียนอยู่ภายนอกรั้วพระอุโบสถนานพอสมควร ได้เห็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาทำบุญเป็นระยะๆ แต่ไม่หนาแน่นเท่าไรนัก บรรยากาศดูเงียบๆ แต่ก็ทำให้รู้สึกสงบดีนะครับ ระหว่างนี้ผมก็รอเวลาเข้าไปชมพื้นที่ในพระอุโบสถ เพราะรอเวลาพระที่ทำกิจของสงฆ์อยู่ด้านในแล้วเสร็จ จึงจะเข้าไปได้ … ทีแรกผมคิดว่าคงจะพลาดไม่ได้เข้าชมซะแล้ว แต่ก็เป็นจังหวะที่พระสงฆ์เดินออกมาจากพระอุโบสถพอดี ผมจึงได้โอกาสเดินเข้าไปชมความสวยงามในพระอุโบสถ พระพุทธพิชัยนิมิตรหรือหลวงพ่อใหญ่ พระประธานในพระอุโบสถวัดพิชัย เป็นพระพุทธรูปที่พระยาวชิรปราการ (ตำแหน่งของพระเจ้าตากสินในสมัยนั้น) ได้ทำการบวงสรวง พร้อมกับเหล่ากองทัพทหาร เพื่อขอพรให้ได้รับชัยชนะก่อนออกเดินทัพไปยังจันทบุรี มีความเชื่อว่าหลวพ่อใหญ่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะถือว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ไม่ได้ถูกทำลายไปแม้ว่าจะผ่านช่วงการเสียกรุงศรีอยุธยามาแล้วก็ตาม อีกทั้งเป็นพระประธาน ที่พระยาวชิรปราการ (ตำแหน่งของพระเจ้าตากสินในสมัยนั้น) ได้ขอพร และได้กลับมากู้เอกราชได้เป็นผลสำเร็จ… Read More »

วัดนางกุย ปาฏิหาริย์หลวงพ่อยิ้ม เร้นลับแม่ตะเคียนทองอายุกว่า 400 ปี

https://youtu.be/SzGLQactT1M https://youtu.be/m3OuVxdlCLQ สวัสดีครับกับภารกิจเที่ยววัดของผม ครั้งนี้ผมจะพาเดินทางไปท่องเที่ยวและชมวัดโบราณที่มีอายุตั้งแต่สร้างมากกว่า 400 ปี และมีเรื่องราวความเร้นลับมากมาย รวมถึงปาฏิหาริย์ที่บอกเล่ากันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย และวัดแห่งนี้คือ “วัดนางกุย” ผมออกเดินทางในช่วงบ่ายในวันหยุด เดินทางเข้าสู่ตัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเดินทางไปวัดนางกุย … การเดินทางครั้งนี้ต้องบอกตรงๆว่า ผมแทบไม่ได้เตรียมข้อมูลไว้ก่อน แต่อยู่ดีๆก็นึกอยากจะไป … ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีที่แล้ว ผมเคยเดินทางมาที่วัดแห่งนี้แล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เดินชมและไม่ทราบเรื่องราวที่วัดแห่งนี้ … ได้แต่เพียงบูชาวัตถุมงคลแม่ตะเคียนทอง รุ่นแรกมาไว้ 1 องค์ เท่านั้น … เรื่องราวแต่เดิมนั้นผมทราบเพียงว่า จุดเด่นของที่นี่มีเพียงแม่ตะเคียนทองที่มีอายุมากกว่า 400 ปี แต่ความเป็นจริงแล้วมีเรื่องราวที่น่าสนใจรวมถึงเรื่องราวปาฏิหาริย์ที่บอกเล่ากันต่อๆกันมาหลายชั่วอายุคน การเดินทางมาที่วัดนางกุย ผมเดินทางจากตัวเมืองอยุธยา ไปทางอำเภอเสนา ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางวัดไชยวัฒนาราม แล้วขับไปตามเส้นทางถนนไปเรื่อยๆ จนเจอร้านสะดวกซื้อ 7-11 แล้วเลี้ยวซ้าย ทั้งนี้เราจะเห็นป้ายวัดนางกุยเป็นระยๆ จากนั้นเลี้ยวไปตามเส้นทางวัดพุทไธศวรรย์ ซึ่งวัดนางกุยจะห่างจากวัดพุทไธศวรรย์ราวๆ 2 กิโลเมตร >>> แผนที่ท่องเที่ยวอยุธยา <<< ที่นี่ !! เรื่องราววัดนางกุย ผมเข้ามาถึงวัดช่วงบ่ายๆ บรรยากาศค่อนข้างเงียบมากครับ จำนวนนักท่องเที่ยวทำบุญมากันน้อย… ผมได้สอบถามกับหลวงพ่อที่วัด ท่านได้กล่าวว่า วัดแห่งนี้ตั้งไกลจากเกาะเมือง และพื้นที่โดยรอบเป็นชุมชนมุสลิม อีกทั้งขาดการประชาสัมพันธ์จึงทำให้มีคนเดินทางมาทำบุญกันน้อย โดยส่วนมากจะมาถึงวัดพุทไธศวรรย์กันแล้วก็มักจะเดินทางกลับกันเลย หลวงพ่อได้เล่าเรื่องราวและแนะนำสถานที่ในวัดให้ฟังมากมาย โดยเล่าว่าแต่เดิมนั้นวัดนางกุยได้ถูกสร้างขึ้นด้วยการบริจาคทุนทรัพย์ของแม่นางกุย ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ปี พ.ศ. 2310 มีอายุราวๆกว่า 400… Read More »

ปางถวายพระเพลิง พระพุทธรูปที่หาชมได้ยาก ที่วัดกลาง อยุธยา

https://youtu.be/H03Ml8KYt-k สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกครั้งในบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในภารกิจเที่ยววัดของผม สำหรับวันหยุดประจำสัปดาห์นี้ ผมได้เดินทางไปยังวัดกลาง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อไปชมและสักการะพระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง ซึ่งเป็นปางที่หาชมได้ยากมาก ซึ่งประดิษฐานในมณฑปที่สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ ประติมากรรมปางนี้ พบเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย และวัดกลางก็เป็นวัดหนึ่งที่มีประติมากรรมนี้ เส้นทางที่ผมใช้ในการเดินทาง ผมเดินทางมาจาก อ.ภาชี ไปยัง อ.นครหลวง เมื่อเข้าสู่ อ.นครหลวง เราจะพบกับปราสาทนครหลวงและวัดนครหลวง ก่อนนะครับ … บรรยากาศค่อนข้างเงียบ เส้นทางมีการสัญจรน้อย เป็นเมืองเล็กๆบนพื้นที่เกษตรกรรมที่มีอยู่โดยรอบ … วัดกลางจะตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของถนน มองเห็นได้ชัดเจนครับ เมื่อผมเดินทางมาถึง ก็ได้พบบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบมากๆ มีรถจอดในวัดไม่ถึง 4 คัน แต่หาผู้คนไม่เจอ … หลังจากนั้นผมก็ได้เดินดูบรรยากาศสักพักหนึ่ง เวลาที่ผมเดินทางไปถึงโดยประมาณ 16.30 น. ซึ่งอาจจะเป็นช่วงที่เย็นมากแล้ว จึงไม่ได้เจอผู้คนมากมายนัก พื้นที่วัดโล่งกว้าง เห็นพระอุโบสถติดริมแม่น้ำป่าสัก มีศาลาการเปรียญตั้งอยู่ถัดกันมา โดยมองเห็นมณฑปอยู่ห่างออกไปทางทิศใต้ จุดเด่นของวัดกลาง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ลักษณะโดยทั่วไปของวัดกลาง จะคล้ายๆกับวัดทั่วๆไป แต่มีจุดเด่นที่ดึงดูดผู้คนให้เดินทางมาที่นี่คือ “มณฑปวัดกลาง” ซึ่งกรมศิลปากรสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ไม่เกินรัชกาลที่ 4 นอกจากโบราณสถานมณฑปแล้ว ภายในก็จะได้พบกับภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณเรื่องราวของพระมหากัสสัปปะเถระ ที่เดินทางมากราบพระบรมศพของพระพุทธเจ้า และเราจะได้พบกับประติมากรรม ที่หลายๆคนนั้นไม่ค่อยจุคุ้นเคย หรือไม่เคยเห็นกันเลยในชีวิตนี้ นั่นก็คือ “พระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง” มณฑปวัดกลาง ผมจะขอถอดความจากกรมศิลปากร เกี่ยวกับเรื่องราวลักษณะของมณฑปวัดกลางมาเขียนบนบล็อกนี้ ดังนี้ มณฑปวัดกลาง ลักษณะจะเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส… Read More »