Category Archives: บทความพิเศษ

ตำนานประวัติหลวงพ่อพุทธโสธร

ประวัติเกี่ยวกับหลวงพ่อโสธรมีเรื่องราวที่เล่าขานกันมานาน เริ่มตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีพระพุทธรูปลอยน้ำมา 3 องค์ที่แม่น้ำบางปะกง พอมาถึงบริเวณสถานที่แห่งหนึ่ง มีชาวบ้านเห็นพระพุทธรูปลอยน้ำมา จึงช่วยกันอัญเชิญขึ้นมาบนฝั่ง ด้วยการเอาเรือออกไปอัญเชิญช่วยกันยกขึ้นเรือ แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะยกเอาขึ้นมาไม่ไหว จึงเปลี่ยนวิธีการเป็นเอาเชือกเส้นใหญ่ ไปคล้ององค์พระทั้ง 3 องค์อย่างแน่นหนา แล้วช่วยกันชักลากขึ้นมาบนฝั่ง ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจของชาวบ้านในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก เพราะทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ชาวบ้านพยายามลองอยู่หลายครั้งหลายวิธีก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งเชือกขาดรั้งเอาไว้ไม่อยู่ ประกอบกับ กระแสน้ำเกิดปาฏิหาริย์ปั่นป่วนขึ้นมาเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ทำให้พระพุทธรูปทั้ง3องค์จมหายไป ท่ามกลาง ความเสียดายของผู้คนซึ่งเห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจน ต่างพากันยกมือไหว้ท่วมศีรษะ บางคนก็พูดว่าไม่มีบุญเพียงพอ ที่จะอัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง3องค์ขึ้นมาได้ ทำให้ผู้คนในสมัยนั้นโจษขานกันต่างๆนานา บ้างก็ว่า เทวดาฟ้าดินไม่โปรด หลวงพ่อก็ไม่ยอมประดิษฐานอยู่บนฝั่ง เรื่องราวโจษขานกันไปมากมายนี้ ทำให้ชาวบ้านพากันเรียกสถานที่ ที่พระพุทธรูปทั้ง3 องค์ มาสำแดงปาฏิหาริย์ลอยวนทวนน้ำไปมาว่า “สามพระทวน”เรียกกันเรื่อยไปนานเข้าก็เพี้ยนกลายเป็น “สัมปทวน” กันไปในที่สุด ตามตำนานเล่าว่าพระพุทธรูปทั้ง3องค์ที่ลอยมาในแม่น้ำบางปะกงนั้น องค์หนึ่งลอยไปทางบางพลี ไปผุดขึ้นที่คลองวัดบางพลี ชาวบ้านอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานเอาไว้ที่วัดบางพลีได้โดยง่าย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะพระพุทธรูปองค์นี้ ท่านต้องการจะประดิษฐานอยู่ ณ ที่ตรงนั้นก็เป็นได้ ปัจจุบันคือ หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน สมุทรปราการ อีกองค์หนึ่งลอยไปที่บริเวณบ้านแหลมสมุทรสงคราม ชาวบ้านตีอวนได้องค์พระขึ้นมา แล้วอัญเชิญไปประดิษฐาน ที่วัดบ้านแหลม หรือในปัจจุบันคือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือที่รู้จักกันดีคือ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม สมุทรสงคราม และอีกองค์หนึ่งผุดขึ้นมาที่แม่น้ำบางปะกง ที่หน้าวัดเสาธงทอนหรือ “วัดโสธรในปัจจุบัน” อัญเชิญขึ้นจากน้ำ ความพยายามของชาวบ้านที่ช่วยกันอัญเชิญพระพุทธรูปที่ลอยมาที่หน้าวัดเสาธงทอน (หรือวัดโสธรปัจจุบัน) พยายามฉุดลากขึ้นมาด้วยเชือก แต่ก็ไม่สำเร็จไม่อาจจะอัญเชิญขึ้นมาบนบกได้ มีผู้เสนอให้ไปเชิญอาจารย์ผู้ที่มีความรู้ทางด้านเวทมนต์คาถา เพื่อทำพิธีอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ ขึ้นมาจากกระแสน้ำให้ได้… Read More »

การเดินทางไป เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี

การเดินทางไป เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี มีความสะดวกมาก ใครจะเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวก็จะมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น และสามารถแวะท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆในเมืองจันทบุรีได้มากยิ่งขึ้น  จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (Motorway)  ผ่านอำเภอบ้านบึง มุ่งสู่อำเภอแกลง เมื่อพบกับสามแยก อำเภอแกลงให้เลี้ยวซ้าย ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 จนถึง จันทบุรี รวมระยะทางประมาณ 230 กิโลเมตร ก่อนเข้าเมืองจะถึงสี่แยกเขาไร่ยา  ถ้าเลี้ยวขวาจะเข้าสู่ตัวอำเภอเมือง จันทบุรี  ตรงไปจะไปจังหวัดตราด เลี้ยวซ้ายจะไปเขาคิชฌกูฏ ซึ่งมีระยะทางอีกประมาณ 17 กิโลเมตรเท่านั้น  จุดนี้มีป้ายชัดเจนไม่ต้องกลัวหลงทาง และที่สำคัญช่วงเทศกาลจะมีป้ายทางไปเขาคิชฌกูฏตลอดเส้นทาง ขอแนะนำเลยนะครับว่า การขึ้นเขาคิชฌกูฏ ให้ใช้บริการรถกระบะขึ้นเขาจะดีที่สุด เพราะระยะทางไกลมาก ถ้าไม่ฟิตหรือมีเวลามากพอ ผมบอกเลยว่าลำบากสุดๆ บริเวณแยกเขาไร่ยา จะมีป้ายบอกทางชัดเจน ส่วนท่านที่เดินทางมาเหนื่อยๆ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกินนะครับ เพราะมีร้านค้าก่อนขึ้นสู่เขาคิชฌกูฏมากมายให้เติมพลังก่อนการเดินทาง ภาพบรรยากาศร้านค้ามากมายก่อนการขึ้นเขาคิชฌกูฏ ก่อนการขึ้นเขาคิชฌกูฏ ก็อย่าลืมแวะซื้อพลอยเพื่อทำการบูชารอยพระพุทธบาทหลวงกันนะครับ ราคาก็อยู่ที่ 3 ซอง 20 บาท และสิ่งที่นิยมใช้บูชาก็คือดอกดาวเรือง และธูปเทียน เส้นทางสู่ยอดเขาจะมีนักท่องเที่ยวและแสวงบุญ โปรยดอกดาวเรืองตลอดเส้นทาง ดูเหลืองอร่ามสวยงามดีครับยังไงก็เตรียมขึ้นไปด้วยนะครับ มีจำหน่ายทั่วไปเลยครับไม่ต้องกลัวขาดแคลน คำอธิษฐานบูชาและคำแนะนำการบูชา ซึ่งจะได้รับจากร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องบูชาดอกดาวเรืองและธูปเทียน การขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทหลวง จะต้องขึ้นเขาที่มีความสูงมาก จึงมีรถกระบะคอยให้บริการอยู่ 2 ระยะ ค่าบริการจะอยู่ที่ระยะละ 50 บาท รวมค่าบริการทั้งขึ้นและลง จะตกอยู่ที่ราคา 200 บาทต่อท่าน… Read More »