Category Archives: ความเชื่อของคนไทย

ความเชื่อ และตำนานผีปอบของคนไทย

ความเชื่อ และตำนานผีปอบของคนไทย ข่าวเกี่ยวกับเรื่องผีในสังคมไทย จากข่าวคราวเกี่ยวกับผีต่างๆ ในสังคมไทยนั้นก็มีอยู่มากมาย และเรามักจะได้รับทราบผ่านสื่อมวลชนอยู่เรื่อยๆในเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องตำนานผีของไทย เช่นผีปอบ ผีกระสือ ผีกอกกอย ผีกระหัง เป็นต้น เมื่อเร็วๆนี้ หลายๆคนคงได้รับทราบข่าวคราวเรื่องน่ารันทดใจ อย่างมากเกี่ยวกับเด็กหญิงที่ถูกปล่อยทิ้งให้อยู่ตามลำพังเพียงคนเดียวเนื่องจากชาวบ้านได้ขอให้พ่อแม่ออกจากหมู่บ้านในข้อหาที่เชื่อว่าเป็นผีปอบ จากกรณี ด.ญ.พิสมัย งอกสุก หรือ น้องเขียว อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านคำหมาในร่องเข  ตำบลนาเลิน  อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งตกเป็นข่าวถูกทิ้งให้อยู่ในบ้านเพียงลำพัง กว่า 10 ปี มีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก เพราะพ่อแม่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบ (วันที่เขียนบทความนี้ วันที่ 22/08/2557) ก่อนหน้านี้ย้อนกลับไป 9 ปีที่แล้ว นายบันลือ แสงชมพู ผู้ใหญ่บ้านคำหมาในร่องเข ได้เกิดเหตุการณ์มีชาวบ้านได้ได้ล้มป่วยและตายไปหลายราย ชาวบ้านจึงพากันเชิญร่างทรงที่เชื่อถือมาทำการเข้าทรงว่าเกิดจากสาเหตุใด และร่างทรงคนนั้นก็ได้บอกว่าพ่อแม่ของน้องเขียวเป็นผีปอบ ทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายนี้ เหล่าชาวบ้านจึงได้ขอร้องให้ออกไปจากหมู่บ้านตั้งแต่นั้นมา เวลาผ่านไปกว่า 9 ปี จนเกิดกระแสข่าวออกไป เป็นโชคดีของน้องเขียว ที่ในหลวง ทรงพระกรุณาพระราชทานความช่วยเหลือ รับเด็กหญิงถูกทิ้งอายุ 12 ปี ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกองเอก ดร.ดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบหมายให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดอุบลราชธานี… Read More »

ความเชื่อหลวงพ่อทันใจ สมปรารถนา เร็วทันใจ และอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป

ความเชื่อหลวงพ่อทันใจ สมปรารถนา เร็วทันใจ และอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป เมื่อกล่าวถึงความเชื่อและความศรัทธาของคนไทย ส่วนมากแล้วจะเกี่ยวข้องกับทางพระพุทธศาสนา รวมถึงตัวผมเองด้วยก็มีความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาเช่นกัน และสามารถที่จะใช้เป็นแรงยึดเหนี่ยวจิตใจ ในการดำเนินชีวิตได้อย่างมาก สำหรับในสังคมไทยนั้น จะมีความเชื่อหลากหลาย ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องเทพเทวดา ต่างๆ ที่มักจะมีผู้คนศรัทธาเดินทางไปกราบไหว้ เพื่อขอพรให้ตนเองประสบความสำเร็จหรือสมปรารถนา ในสิ่งที่ตนเองต้องการ การกราบไหว้ ทำบุญและขอพรจึงเป็นธรรมเนียม วัฒนธรรมของคนไทยมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ในยุคปัจจุบัน แม้การพัฒนาจะรุดหน้าไปมาก แต่สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของแต่ละบุคคลก็ยังมีอยู่ ถ้าจิตใจสงบก็มักจะทำให้สามารถเดินก้าวผ่านปัญหาไปได้ การเดินทางท่องเที่ยววัดและทำบุญ จึงหนีไม่พ้นในเรื่องตั้งใจอธิษฐาน ขอพรให้สมปรารถนา และหลายๆคนก็ต้องการให้เกิดผลที่รวดเร็วทันใจ จึงได้มีเรื่องเล่ามากมาย เกี่ยวกับการอธิษฐานขอพร ให้เกิดผลเร็วกับ “หลวงพ่อทันใจ” หรือ “พระเจ้าทันใจ” ดังจะมีข่าวมากมายที่มีผู้ศรัทธานำสิ่งของต่างๆมาถวายเมื่อสำเร็จผลดงตั้งใจ ยิ่งทำให้ผู้คนหลั่งไหลกราบไหว้ขอพรเป็นจำนวนมาก “หลวงพ่อทันใจ” หรือ “พระเจ้าทันใจ” หมายถึงพระพุทธรูปที่สามารถสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 1 วัน และสามารถทำพิธีพุทธาภิเษกสมโภชน์ได้ในเย็นของวันถัดไป พุทธศาสนิกชนจึงเชื่อว่ามีพระพุทธานุภาพ ที่จะสามารถบันดาลให้เกิดโชคลาภ และสมความปรารถนาได้ทันอกทันใจเมื่ออธิษฐานขอพร ด้วยความรวดเร็วในการสร้าง จึงส่งผลในด้านความเชื่อของผู้ศรัทธาว่าจะส่งให้การอธิษฐานขอพรได้ผลเร็วไปด้วยเช่นกัน ในวัดสำคัญทางภาคเหนือ นิยมสร้างพระพุทธรูปที่เรียกว่า “พระเจ้าทันใจ” หรือ “หลวงพ่อทันใจ” ซึ่งหมายถึง พระพุทธรูปที่ใช้เวลาสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 1 วัน ซึ่งจะเริ่มพิธีตั้งแต่หลังหกทุ่มเป็นต้นไป จนสามารถสร้างองค์พระได้สำเร็จก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน หรือก่อนเวลา 18.00 น. ของวันถัดไป ถ้าสร้างไม่เสร็จถือเป็นพระพุทธรูปธรรมดาทั่วไป และจะต้องสามารถทำพิธีพุทธาภิเษกได้ในเย็นอีกวันหนึ่ง ทั้งนี้เนื่องจากการสร้างพระพุทธรูปนั้น มักจะมีขั้นตอน และพิธีกรรมที่ละเอียดซับซ้อน การสร้างพระพุทธรูป และสามารถทำพิธีพุทธาภิเษกได้สำเร็จภายใน 1 วัน จึงถือว่าเป็นเรื่องที่พิเศษ จึงมีความเชื่อกันว่าเป็นเพราะพระพุทธานุภาพ… Read More »

ท้าวเวสสุวรรณ (เวสสุวัณ) ราชาแห่งเทพสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

ท้าวเวสสุวรรณ (เวสสุวัณ) ราชาแห่งเทพสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ผมได้มีโอกาสเดินทางไปทำบุญและท่องเที่ยววัดวาอารามหลายแห่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา และได้ไปที่วัดโพธิ์ใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา สิ่งที่ทำให้ผมต้องเดินทางไปที่วัดแห่งนี้ เพราะจากข้อมูลทราบมาว่ามีรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์รูปท่านท้าวเวสสุวรรณ (เวสสุวัณ) อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี อยู่ที่วัดแห่งนี้ด้วย ท้าวเวสสุวรรณ เป็นเทวดาที่คนไทยค่อนข้างคุ้นเคยองค์หนึ่ง โดยจะป้องครองเหล่ายักษ์ทั้งหลาย รูปร่างที่คนไทยคุ้นเคยก็คือจะมีรูปร่างเป็นยักษ์ และเรามักจะพบเห็นรูปปั้นยักษ์ตามวัดวาอารามต่างๆ โดยทั่วไปโดยเป็นสัญลักษณ์ถึงการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนานั่นเอง ความเชื่อของคนไทยเกี่ยวกับท้าวเวสสุวรรณ คนไทยส่วนใหญ่จะนับถือท้าวเวสสุวรรณโดยเชื่อว่าท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย และปกป้องคุ้มภัยจากภยันตรายต่างๆ เนื่องมาจากคำว่า เวสสุวรรณ มาจากคำว่า เวส แปลว่า พ่อค้า และ สุวรรณ แปลว่าทองคำ เมื่อรวมกันจึงมีความหมายว่า พ่อค้าผู้มีทรัพย์มาก (ทองคำมีค่ามาก) อีกทั้งพระองค์เป็นผู้ปกครองเหล่ายักษ์อสูร จึงเชื่อและนับถือกันว่าพระองค์จะมีฤทธิ์ปกป้องคุ้มภัยให้ได้นั่นเอง ประวัติตำนานพอสังเขปของท่านท้าวเวสสุวรรณ ในทางพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงอดีตชาติของท้าวกุเวร เอาไว้ใน พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม 3 ภาค 2 หน้าที่ 151 ว่า ในสมัยที่โลกยังว่างจากพระพุทธศาสนาไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติ ขึ้นในโลกนั้น มีพราหมณ์ผู้หนึ่งนามว่า “กุเวร” เป็นคนใจดีมีเมตตากรุณา ประกอบอาชีพสุจริต โดยยึดอาชีพโรงหีบอ้อยมีกำไรมากมายและได้นำผลกำไรนั้นมาทำบุญตลอดอายุขัย เช่นจัดที่พักแก่คนเดินทาง และมีให้น้ำอ้อยเป็นทานแก่ผู้เดินทางด้วย  เมื่อท่านได้ตายจากโลกไปจึงได้จุติเป็นยักขเทวดาในเมือง “วิสาณะเทพนคร” บางคนกล่าวว่า เวสาวัณ ทางทิศอุดร ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ต่อมาท่านได้รับสถาปนาเป็นราชาแห่งเทพบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ได้มีพระนามว่า “เวสสุวรรณ”… Read More »

ตำนานความเชื่อประวัติและความศรัทธาพระพิฆเนศ

ตำนานความเชื่อประวัติและความศรัทธาพระพิฆเนศ  มีหลายตำนานเล่าขานต่อๆกันมาตามความเชื่อของศาสนาฮินดู มีตำนานดังนี้ ตำนานที่ 1 พระพิฆเนศปราบอสูรและรากษส ตามตำนานเล่าว่า อสูรและรากษสได้ทำการบวงสรวงพระศิวะ เพื่อขอพรวิเศษ และได้ลำพองในตนเองจนเกิดความวุ่นวายในเมือง เพราะตนเองได้หลงในอำนาจ และไม่มีใครสามารถปราบได้ ทำให้เรื่องร้่อนถึงองค์พระอินทร์  องค์อินทร์จึงได้เข้าเฝ้าพระศิวะ เพื่อช่วยหาทางกำราบเหล่าอสูรและรากษสผู้หลงอำนาจ เมื่อพระศิวะทราบเรื่องจึงแบ่งกายเป็นหนุ่มรูปงาม กำเนินในครรภ์ของแม่นางอุมาเทวี เมื่อถึงเวลากำเนิด ได้ชื่อว่า “วิฆเนศวร” และได้ทำการขัดขวาง ต่อสู้กับเหล่าอสูรและรากษส จนได้รับชัยชนะ หลังการสงบศึกดังกล่าว จึงได้รับหน้าที่จากพระศิวะ ให้ทำหน้าที่เป็นผู้ป้องกันผู้ใจพาลไม่ให้สามารถไปขอพรต่อองค์พระศิวะได้ รวมทั้งให้เป็นผู้คอยดลบันดาลให้ผู้มีจิตใจดีได้สำเร็จความปรารถนาทุกประการ ตำนานที่ 2 พระนางอุมาเทวี ปั้นเหงื่อไคลเป็นพระบุตร เมื่อคราวที่พระนางอุมาเทวีสรงน้ำอยู่ในอุทยาน พระองค์ทรงนำเหงื่อไคลของพระองค์มาปั้นเป็นหุ่นเทวบุตรรูปงาม และทรงใช้เวทย์มนต์เพื่อให้หุ่นนั้นมีชีวิตขึ้นมา จากนั้นจึงทรงรับสั่งให้เทวบุตรออกไปเฝ้ายังด้านหน้าประตูทางเข้าอุทยาน โดยได้รับสั่งว่าห้ามมิให้ผู้ใดเข้ามาโดยเด็ดขาด เหตุการณ์เป็นเช่นนี้มาโดยตลอดทุกครั้งที่พระแม่อุมาทรงสรงน้ำ ณ อุทยานแห่งนี้ จนกระทั่งเมื่อถึงวันกำหนดเสด็จกลับของพระศิวะ และเมื่อทั้งสองพระองค์พบกันในคราแรกต่างก็จะเข้าไปในอุทยาน อีกฝ่ายก็ปกป้องมิให้ผู้ใดย่างกายเข้าในอุทยานได้ด้วยเทวบุตรทรงได้รับคำ สั่งของพระอุมา ห้ามมิให้ผู้ใดล่วงละเมิดเข้าไปยังสถานที่สรงน้ำแห่งนี้ เมื่อเป็นดั่งนั้นพระศิวะจึงทรงสั่งให้บริวารเข้าต่อสู้และได้สังหารเทวบุตร (แต่ในบางคัมภีร์ก็ว่าพระศิวะทรงใช้ตรีศูลตัดเศียรเทวบุตรนั้น บ้างก็ว่าพระวิษณุทรงใช้จักรตัดเศียร) เมื่อพระปารวตีทรงพบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พระองค์ทรงโกรธและโมโหพระสวามียิ่ง จนถึงกับทำศึกใหญ่ระหว่างทั้งสองพระองค์ ร้อนถึงพระฤาษีนารอด (นารท) ต้องออกรับหน้าเจรจาศึกในครานี้ โดยพระปราวตีได้กล่าวให้พระศิวะผู้สวามีต้องหาหนทางให้เทวบุตรฟื้นชีวิตจึง จะยอมสงบศึกให้ พระศิวะจึงทรงมีคำสั่งให้เทวดาผู้เป็นบริวารเดินทางไปทิศเหนือ และให้ตัดศรีษะของสิ่งมีชีวิตแรกที่พบเพื่อนำมาต่อให้กับเทวบุตรผู้เป็นโอรส ไม่นานนักเทวดาก็เดินทางกลับมาพร้อมกับนำเศียรช้าง (มีงาเดียว) เพื่อมาต่อให้พระโอรส ซึ่งต่อมาจึงทรงตั้งพระนามใหม่ คือ คชานนะ (มีหน้าเป็นช้าง) และเอกทันต (ผู้มีงาเดียว) เมื่อได้ชุบชีวิตฟื้นแล้วพระปราวตีจึงทรงเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ทั้งสองพระองค์ได้ฟังว่าทั้งสองพระองค์ทรงเป็นพระบิดาและพระโอรส ซึ่งฝ่ายโอรสได้ฟังดังนั้นถึงกลับหมอบกราบขออภัยโทษเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตน พระศิวะทรงพอพระทัยยิ่งนัก ถึงกับประทานพรให้พระโอรสให้เป็นผู้มีอำนาจเหนือเหล่าภูตผีทั้งปวง… Read More »