Category Archives: วัดวาอาราม

เที่ยว วัดโบสถ์ หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

เที่ยว วัดโบสถ์ หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี … ระหว่างทางที่ผมได้เดินทางไปวัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม ผมได้สังเกต เห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ (หลวงพ่อพุทธโสธร) และสมเด็จพระพุฒาจารย์โตองค์ใหญ่ ดูแล้วสวยงามและยิ่งใหญ่มาก อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ผมจึงตั้งใจที่จะเดินทางไปวัดแห่งนี้ จะมีป้ายบอกทางไปวัดชัดเจนครับ เนื่องจากวัดโบสถ์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดปทุมธานี วัดโบสถ์ เป็นวัดที่ได้รับความนิยามจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เนื่องจากมีรูปปั้นขนาดใหญ่ของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งมีขนาดความสูงถึง 28 เมตร และความสวยงามอลังการอีกหนึ่งก็คือ รูปปั้นขนาดใหญ่ของหลวงพ่อพุทธโสธร ซึ่งปัจจุบัน องค์พระได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว วัดโบสถ์ สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2164 โดยชาวมอญที่อพยพมาจากเมืองหงสาวดี ซึ่งมีเสาหงส์สร้างไว้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองหงสาวดีด้วย พื้นที่วัดมีขนาด 30 ไร่เศษ สิ่งสำคัญในวัดคือ พระพุทธรูปหลวงพ่อเหลือ สาเหตุที่ได้ชื่อนี้ เนื่องมาจากในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปประดิษฐานจำนวน 12 องค์ ซึ่งพระพุทธรูปทั้งหมดได้ถูกขโมยแต่เนื่องจากองค์พระมีขนาดใหญ่ จึงได้ทำการตัดเพียงเศียรไป เหลือเพียงองค์เดียวที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก ชาวบ้านจึงพากันเลื่อมใสศรัทธาและถือว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง จังหวัดปทุมธานีจนถึงทุกวันนี้ จุดเด่นของวัดโบสถ์และสถานที่สำคัญมีดังนี้ 1.รูปปั้นขนาดใหญ่องค์สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) 2. รูปปั้นขนาดใหญ่หลวงพ่อพุทธโสธร 3.พระพุทธรูปหลวงพ่อเหลือ 4. รูปปั้นท้าวจตุคามรามเทพ 5.วิหารหลวงปู่ทวด 6.รูปปั้นพระสีวลี 7. พิพิธภัณฑ์ วัดโบสถ์ 8. แพให้อาหารปลา จุดแรกผมจะพามากราบนมัสการหลวงพ่อเหลือกันก่อน ด้านในศาลามีธูปเที่ยนให้จุดบูชากันได้ครับ ผมได้ทำการปิดทององค์หลวงพ่อเหลือ และสังเกตดูแล้ว จำนวนแผ่นทองที่ติดลงไปมีจำนวนมากจริงๆ… Read More »

พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง หลวงปู่เจี๊ยะ วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม

วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม คำกล่าวที่ว่า “พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง” เป็นคำกล่าวของหลวงตามหาบัว ที่มีต่อองค์หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท ซึ่งเป็นการยืนยันได้อย่างชัดเจนในเรื่องของการเข้าถึงหลักธรรมของหลวงปู่เจี๊ยะ โดยส่วนตัวของผมเองนั้น มารู้จักชื่อเสียงของหลวงปู่เจี๊ยะก็หลังจากที่ท่านได้มรณภาพไปแล้ว ทำให้ผมรู้สึกเสียดายอย่างมากที่ไม่มีโอกาสไปนมัสการตอนที่ท่านยังอยู่ ผมจึงได้มีโอกาสเพียงเดินทางไปวัดป่าภูริทัตตปฏิปทารามในสมัยที่ท่านไม่ได้อยู่แล้วเท่านั้น จุดเด่นของวัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม คือ ภูริทัตตเจดีย์ ที่หลวงปู่เจี๊ยะ ได้สร้างเพื่อระลึกถึงคุณของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่านนั่นเอง และเพื่อวัตถุประสงค์ในการบรรจุพระทันตธาตุของหลวงปู่มั่น สำหรับท่านที่จะเดินทางมาที่วัด จะได้มีโอกาสได้กราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุหลายองค์ซึ่งได้ประดิษฐานบนเจดีย์แห่งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีต่อพุทธศาสนิกชน ผู้มีความศรัทธาที่จะได้กราบไหว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลกันต่อไป ทำไมจึงควรเดินทางมาที่วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม 1. เพื่อระลึกถึงคุณธรรรมของพระสงฆ์ ผู้ซึ่งปฏิบัติดีปฏิบัติในธรรม 2. เพื่อกราบไว้บูชาพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ และ พระอรหันตธาตุในสมัยพุทธกาล และครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ เช่น หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น เป็นต้น ทุกครั้งที่ผมได้เดินทางมาที่วัด จะรับรู้ถึงความสงบ เนื่องจากผู้คนไม่ได้พลุกพล่าน ส่วนพระสงฆ์ก็แยกย้ายกันปฏิบัติธรรมจึงไม่ค่อยได้เห็นพระสงฆ์ภายในวัดนัก ในพื้นที่วัดนอกจากมีความสงบแล้ว ยังมีความร่มรื่นของต้นไม้ในพื้นที่วัด และผู้ที่มีความศรัทธาก็สามารถที่จะมานั่งสมาธิกันได้ในองค์พระเจดีย์กันได้ โดยทางวัดได้จัดพัดลมหลายเครื่องไว้สำหรับผู้ที่จะมานั่งสมาธิได้ใช้ระบายความร้อน การเดินทาง 1. ขึ้นทางด่วนปากเกร็ด-บางปะอิน มุ่งหน้าไปลงสุดทางด่วนที่ถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก (ทางหลวงหมายเลข 9) จากนั้นเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางอำเภอบางบัวทอง เมื่อถึงสะพานรถข้าม ซ้ายไปอำเภอสามโคก ขวาไปอำเภอเสนา วัดป่าภูริทัตตปฏิปทารามอยู่ขวามือใกล้เชิงสะพาน 2. มาจากอำเภอบางบัวทอง วิ่งถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก (ทางหลวงหมายเลข 9) ก่อนถึงสะพานถนนข้าม ซ้ายมือไปอำเภอเสนา ขวามือไปอำเภอสามโคก วัดป่าภูริทัตตปฏิปทารามตั้งอยู่ซ้ายมือก่อนถึงสะพาน 3. มาจากถนนติวานนท์หรือมาจากรังสิต ให้มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนหมายเลข 346 จากนั้นวิ่งถึงสี่แยก… Read More »

เที่ยว ทำบุญ ไหว้พระ วัดพระพุทธบาท สระบุรี ตอนพิเศษ

เที่ยว ทำบุญ ไหว้พระ วัดพระพุทธบาท สระบุรี ตอนพิเศษ ก่อนหน้านี้ผมได้เขียนบทความ เที่ยวทำบุญ วัดพระพุทธบาท สระบุรี ไว้ แต่บทความได้เขียนถึงเฉพาะเรื่องรอยพระพุทธบาทและการเดินทางเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว สถานที่ภายในวัดมีอีกมากมาย และผมก็ได้มีโอกาสเดินทางไปอีกครั้ง และเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อมาเขียนตอนพิเศษนี้ ครั้งนี้ผมจะพาท่านไปในสถานที่ต่างๆให้มากที่สุด ที่บอกว่ามากที่สุด เพราะอาจจะพลาดในจุดเล็กๆ บางจุด ก่อนไปยังสถานที่ต่างๆ ผมจะขอกล่าวถึงประวัติคร่าวๆของวัดพระพุทธบาทกันสักเล็กน้อยดังนี้ วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร สร้างในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งเป็นพระมหากษัติริย์องค์ที่ 22 แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2167 รวมอายุจนถึงปัจจุบันก็เกือบสี่ร้อยปีแล้วครับ เนื่องจากพระเจ้าทรงธรรมได้เสด็จพระราชดำเนินเพื่อมาทอดพระเนตรรอยพระพุทธบาท ที่พบอยู่บนเขาสุวรรณบรรพต และทรงพิจารณาพบว่ามีสภาพสมบูรณ์ตามที่ปรากฏในพระไตรปิฎก ว่าด้วย บุณโณวาทสูตร จึงทรงพระราชศรัทธาเลื่อมใสยิ่ง โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระมหามณฑปครอบรอยพระพุทธบาท ให้ยกสถานที่รอยพระพุทธบาทเป็นพระมหาเจดีย์สถาน และให้สร้างวัดพื่อจะได้มีผู้ดูแลรักษาพระมหาเจดีย์ รวมถึงให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ตลอดจนได้พระราชทานวิสุงคามสีมานับจากมณฑปออกไปด้านละ 16 กิโลเมตรเป็นเขตวัดพระพุทธบาท พระมหากษัติริย์แทบทุกพระองค์ถือเป็นพระราชประเพณีเสด็จพระราชดำเนินมาถวายสักการะบูชาและบูรณะปฏิสังขรณ์ สืบมาจนถึงทุกวันนี้ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้สถาปนาวัดพระพุทธบาทเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ระดับ “ราชวรมหาวิหาร” ซึ่งมีอยู่เพียง 6 วัดเท่านั้น ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคราราม วัดอรุณราชวราราม วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ วัดสุทัศน์เทพวราราม สำหรับ 4 วัดแรกนั้น ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ส่วนอีก 2 วัดจะตั้งอยู่ต่างจังหวัดได้แก่ วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม และ… Read More »

ทำบุญ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท

กราบหลวงปู่ศุข พระเกจิ วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท ทำบุญ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท ผมได้มีโอกาสเดินทางไปที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าซึ่งห่างจากวัดท่าซุงประมาณ 20 กิโลเมตรเท่านั้น การเดินทางของผมจะเดินทางไปทางอำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นที่รู้จักเนื่องจากองค์หลวงปู่ศุขเป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธทั่วประเทศ โดยท่านเป็นพระอาจารย์ของกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ถ้าจะกล่าวถึงหลวงปู่ศุข ในวงการพระเครื่องนั้นคงจะไม่มีใครปฏิเสธที่จะไม่รู้จัก ซึ่งพระเครื่องของท่านเด่นในทางเมตตามหานิยมและแคล้วคลาด และปัจจุบันนักสะสมพระเครื่องก็ยังนิยมในพระเครื่องของท่าน แม้ว่าท่านจะมรณภาพ ไปตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2466 ซึ่งเกือบ 100 ปีมาแล้ว แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวและทำบุญเดินทางไปที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าอย่างไม่ขาดสาย ภายในวัดยังมีการเก็บวัตถุโบราณไว้มากมาย และผมก็ได้เข้าไปชมมาเหมือนกัน ในวัดปากคลองมะขามเฒ่าจะมีสิ่งสำคัญหลักๆคือ หุ่นขี้ผึ้งและรูปหล่อของหลวงปู่ศุข พร้อมด้วยรูปหล่อกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ไว้ให้เป็นที่สักการะบูชาของประชาชนโดยทั่วไป สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของวัดนี้ คือ ภาพเขียนฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ บนฝาพระอุโบสถติดอยู่ตามผนังเป็นภาพพุทธประวัติ ที่ทรงวาดร่วมกับข้าราชบริพาร เป็นภาพเขียนสีน้ำ ทั้งหมดเขียนด้วยอักษรขอมผนังด้านใต้มีภาพเขียนบอกเวลาที่เขียนไว้คือปี พ.ศ. 2433 เพื่อถวายหลวงปู่ศุข เมื่อครั้งสร้างพระอุโบสถซึ่งทางวัดยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จากข้อมูลเรื่องความนิยมของวัตถุมงคลของหลวงปู่ศุขเกิดขึ้นเมื่อครั้งแรกตอนที่มารดาของท่านเสียชีวิต และท่านได้จัดสร้างวัตถุมงคลในงานฌาปนกิจ เพื่อแจกให้เป็นที่ระลึกกับประชาชนทั่วไป วัตถุที่ท่านจัดสร้างเป็นลักษณะพิมพ์สี่เหลี่ยมซุ้มรัศมี ผู้ที่ได้รับแจกบางคนก็ได้รับแจกก็เกิดอภินิหารเกี่ยวกับการอยู่ยงคงกระพัน โดยผู้คนที่ได้ไปเคยถูกหมากัด แต่กัดไม่เข้าและเกิดอภินิหารกันหลายคน และนี่ก็เป็นมูลเหตุครั้งแรกที่ทำให้ท่านเริ่มเป็นที่นับถือในด้านวัตถุมงคล หลังจากนั้นผู้คนจึงไปขอพระจากท่านมาเพื่อห้อยคอบุตรหลาน ในสมัยนั้นพระจากหลวงปู่ศุขจะมีห้อยคอเด็กๆกันแทบทุกคน ผู้คนก็เริ่มกล่าวขานในความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน จนท่านมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเมืองไทย กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เป็นพระราชโอรสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วันหนึ่งขณะที่กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ท่านล่องเรือเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยา ท่านได้มาเทียบท่าเพื่อพัก การเดินทางที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านได้เห็นพระภิกษุชราผู้หนึ่ง กำลังเล่นแกล้งลูกศิษย์ เด็กๆ ท่านเห็นพระภิกษุชราผู้นั้น เก็บหัวปลีกล้วยมาเสกเป็นกระต่ายให้ลูกศิษย์วิ่งไล่จับ พอจับได้จึงกลายเป็นหัวปลีกล้วยดังเดิม… Read More »

เที่ยว ทำบุญ ไหว้พระ วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา

  เที่ยว ทำบุญ ไหว้พระ วัดใหญ่ชัยมงคล พระนครศรีอยุธยา วันนี้ได้โอกาสมากล่าวถึงวัดในพระนครศรีอยุธยากันต่อนะครับ เมื่อกล่าวถึงวัดใหญ่ชัยมงคล นักท่องเที่ยวทำบุญไหว้พระ ส่วนมากจะรู้จักกันแน่นอน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาเป็นคณะทัวร์ ส่วนมากแล้วจะต้องมีวัดใหญ่ชัยมงคลอยู่ในลิสต์แน่นอน จุดเด่นชัดเจนของวัดก็คือ พระเจดีย์ชัยมงคล ที่เราสามารถจะมองเห็นได้มาตั้งแต่ระยะไกล เวลาเรามองจากระยะไกลหลายๆคนก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นลักษณะของพระเจดีย์เอียงไปอีกด้านหนึ่ง ทำไมพระเจดีย์ชัยมงคลจึงเอียง ผมได้ไปค้นหาข้อมูล ก็ได้ทราบว่า พื้นเจดีย์มีการทรุด เนื่องจากพระเจดีย์มีน้ำหนักถึง 28,154 ตัน เป็นสาเหตุให้เกิดแรงอัดบนพื้นดินอย่างมหาศาล และเป็นผลให้น้ำใต้ดินถูกดันออกไปจนเกิดเป็นช่องโพรงใต้ดิน พื้นดินจึงเกิดการทรุดทำให้เจดีย์เอียงอย่างที่เห็นในปัจจุบัน   สถานที่สำคัญในพื้นที่บริเวณของวัดใหญ่ชัยมงคล มีจุดสำคัญดังนี้ครับ 1. พระเจดีย์ชัยมงคล ทรงลังกา มีความสูงโดยประมาณ 60 เมตร 2. พระราชานุสาวรีย์ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงหลั่งน้ำทักสิโนทกเพื่อประกาศอิสรภาพ 3. พระพุทธไสยาสน์ 4. ศาลเจ้าพ่อสิทธิชัย เชื่อกันว่าเป็นศาลที่สถิตของดวงวิญญาณพระราชโอรสองค์หนึ่งของรัชกาลที่ 5 การเดินทางมายังวัดใหญ่ชัยมงคล ไม่ซับซ้อนครับ โดยให้ตรงเข้าเมืองพระนครศรีอยุธยามาเรื่อยๆ จนถึงเจดีย์วัดสามปลื้ม (คนในพื้นที่เรียกเจดีย์นักเลง เพราะตั้งอยู่กลางวงเวียน รถทุกคันต้องหลบหมด) แล้วให้เลี้ยวซ้าย เมื่อมองไปด้านหน้าก็จะมองเห็นพระเจดีย์แต่ไกลเลยครับ ขับไปอีกประมาณ 200 เมตรก็จะถึงวัดแล้วครับ ซึ่งจะตั้งอยู่ทางซ้ายมือ จุดสำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เป็นสัญลักษณ์ของนักท่องเที่ยวก็คือวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม ซึ่งในอดีตจุดนี้เคยเป็นพื้นที่วัดสามปลื้มมาก่อน จนกระทั่งความเจริญของเมืองได้เข้ามาจึงมีการตัดถนนผ่าน แต่ไม่ได้ทำการรื้อพระเจดีย์ออกไป พื้นที่จอดรถของวัดใหญ่ชัยมงคลจะมีพื้นที่กว้างขวางมากครับ เนื่องจากเป็นวัดที่ได้รับความนิยมในการเดินทางมาท่องเที่ยวและทำบุญของทั้งชาวไทยและต่างประเทศ จึงได้จัดสรรพื้นที่อำนวยความสะดวกไว้เป็นอย่างดี เมื่อจอดรถแล้วผมก็เดินข้ามสะพานข้ามคลองเพื่อเดินไปยังฝั่งเจดีย์ชัยมงคลก่อน คลองน้ำของวัดจะมีเต่าจำนวนหนึ่งอยู่นะครับ เราสามารถให้อาหารเต่าได้… Read More »

เที่ยวทำบุญ นมัสการหลวงพ่อใหญ่ วัดโตนดเตี้ย อยุธยา

https://youtu.be/CHjGfv4JgDY เที่ยวทำบุญ นมัสการหลวงพ่อใหญ่ วัดโตนดเตี้ย พระนครศรีอยุธยา ผมได้มีโอกาสมาทำบุญและกราบนมัสการหลวงพ่อใหญ่ที่วัดโตนดเตี้ยบ่อยครั้ง แต่ยังไม่มีโอกาสได้นำรายละเอียดมาเขียนไว้ วันนี้ก็ได้โอกาสมากล่าวถึงรายละเอียดของวัดโตนดเตี้ยกันนะครับ ซึ่งเป็นวัดแรกที่ผมจะกล่าวถึงในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดโตนดเตี้ย คงไม่ค่อยจะคุ้นหูสำหรับผู้คนโดยทั่วไปนักเพราะตั้งอยู่ห่างจากเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ทำให้นักท่องเที่ยวและผู้นิยมเดินทางไหว้พระไม่ค่อยได้มาถึงวัดนี้กันสักเท่าไหร่นัก จะมีเพียงคนในพื้นที่ ที่จะรู้จักดี วัดโตนดเตี้ยได้เริ่มคุ้นหูผู้คนโดยทั่วไปจากกรณีเมื่อปี พ.ศ. 2556 ที่ กระบือพระราชทานจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ที่มีชื่อ เจ้าคล้าว กับ ทองกวาว ได้ถูกขโมยไปทั้ง 2 ตัว และเจ้าหน้าตำรวจได้เร่งออกติดตามหาจนกระทั่งสามารถนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี และ ได้นำกระบือทองกวาวกลับมาได้ แต่เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่กระบือเจ้าคล้าวได้ถูกส่งไปที่โรงฆ่าสัตว์และได้ถูกฆ่าไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปถึง การเดินทางมาวัดโตนดเตี้ยนั้น ถ้ามาจากทางกรุงเทพฯ ให้ตรงมาจนถึงอำเภอวังน้อย แล้วเลี้ยวซ้ายจากถนนพหลโยธิน ตรงมาเพื่อไปตามเส้นทางที่จะไปสวนอุตสาหกรรมโรจนะ  จนขับมาถึงสี่แยกไฟแดงใหญ่ และมีถนนยกระดับ ให้เลี้ยวขวาเพื่อไปทางอำเภออุทัย ขับรถไปประมาณ 4  กิโลเมตร จะเห็นป้ายบอกทางฝั่งซ้ายมือบอกทางไปวัดนะครับ โดยจะมีซอยเล็กๆ ให้เลี้ยวขวา ถ้าเกรงจะไปไม่ถูกกันก็จอดถามคนแถวนั้นได้เลยครับ ผมมั่นใจว่ารู้จักกันทุกคน แล้วขับเข้าซอยไปเรื่อยๆ จะเห็นวัดอยู่ฝั่งซ้ายมือติดกับโรงเรียนวัดโตนดเตี้ย เมื่อมาถึงในพื้นที่วัดแล้ว ก็ให้หาที่จอดรถได้เลยครับมีลานจอดรถกว้างระดับหนึ่ง พื้นที่วัดไม่ได้กว้างขวางมากครับ แต่การจัดสถานที่ และสวนหย่อมก็ดูดีสะอาดตา ร่มรื่นด้วยครับ ก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัดเราก็จะได้พบกับศาลาพระพิฆเนศ ซึ่งมีความเชื่อว่าท่านเป็นเทวดาแห่งความสำเร็จ ยังไงผู้ที่ศรัทธาก็แวะกราบขอพรได้นะครับ บริเวณบันไดทางขึ้นไปสู่พระวิหารไม้ทรงไทย เราก็จะมองเห็นพระฉายาลักษณ์ของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ผมคิดว่าวัดโตนดเตี้ยคงจะได้รับการอุปถัมภ์จากท่านแน่นอน เพราะได้ข่าวคราวว่าท่านได้เสด็จมาที่วัดบ่อยครั้ง เมื่อเดินขึ้นมาเราก็จะพบกับพระวิหารไม้ ที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อใหญ่ด้านใน ส่วนด้านหน้าเป็นพระประธานที่ให้นมัสการปิดทองได้นะครับ พื้นที่ด้านในพระวิหารนอกจากจะประดิษฐานองค์หลวงพ่อใหญ่แล้ว ยังได้มีการจัดแสดงวัตถุโบราณที่ได้ถูกค้นพบในบริเวณพระวิหารแห่งนี้ ซึ่งแต่เดิมนั้นก่อนจะสร้างพระวิหารเป็นศาลาทรงไทย วิหารเดิมจะเป็นสังกะสีรอบวิหาร… Read More »