Category Archives: ลพบุรี

วัดพระยาออก วัดร้างเก่าแก่สมัยอยุธยา ในโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย ลพบุรี

https://youtu.be/we541R49Uto สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางท่องเที่ยวไปยังวัดร้างนามว่า วัดพระยาออก ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จ.ลพบุรี และจากหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานว่า อาจมีความเก่าแก่ถึงสมัยอยุธยาตอนต้นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังประดิษฐานหลวงพ่อขาว เป็นที่สักการะของประชาชนในพื้นที่มายาวนาน จึงเป็นอีกวัดร้างหนึ่งที่น่าสนใจ การเดินทาง ผมขอแนะนำให้เดินทางไปในวันหยุด เพราะไม่มีการเรียนการสอน จึงจะมีความสะดวกที่สุดครับ วัดพระยาออกเป็นวัดร้างอยู่ภายในโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย ในตำแหน่งที่ตั้งภายในเมืองชั้นใน ใกล้กับกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณป้อมด้านหน้าเมือง ชื่อของวัดพระยาออก สันนิษฐานว่ามาจากตำแหน่งที่ตั้งของวัด ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันออกของเมือง เดิมนั้นบริเวณวัดพระยาออกจะก่อฐานด้วยศิลาแลง มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ หน้าตัก 420 เซนติเมตร ขนานนามว่า หลวงพ่อขาว ด้านหลังองค์พระพุทธรูปมีกำแพงเชื่อมต่อกับองค์พระ ส่วนทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีอาคารขนาดย่อมก่อด้วยศิลาแลง และทิศตะวันตกเฉียงใต้มีบ่อน้ำทรงแปดเหลี่ยมภายในก่อด้วยศิลาแลงเช่นกัน หลวงพ่อขาวเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ ครองจีวรห่มเฉียง ชายสังฆาฏิตัดตรงยาวจรดพระนาภี ชายจีวรยาวพาดข้อพระกรซ้าย ประทับนั่งบนฐานบัว ปัจจุบันถูกพอกทับเป็นฐานหน้ากระดาน พระพักตร์ค่อนข้างเหลี่ยม คล้ายได้รับอิธิพลจากเขมร พระรัศมีเป็นเปลวได้รับอิทธิพลแบบสุโขทัย จัดเป็นพระพุทธรูปแบบอู่ทอง รุ่นที่ 2 องค์หลวงพ่อขาวหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก ซึ่งการสร้างพระพุทธรูปหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตกพบได้ไม่บ่อยนัก อาจเทียบได้กับพระพุทธรูปประธานภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี และวัดอื่นๆที่มีอายุการสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น เช่น วัดราชบูรณะ วัดพุทไธศวรรย์ วัดพระราม วัดมหาธาตุ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น จึงสันนิษฐานว่าอาคารวิหารนี้น่าจะเป็นอุโบสถเช่นกัน จากหลักฐานทางโบราณคดีดังกล่าว จึงสันนิษฐานว่า วัดพระยาออกน่าจะสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 19 – 20 ระหว่างที่เดินชมพื้นที่วิหารหลวงพ่อขาว ได้เห็นแกนพระกรองค์เดิมเป็นไม้ ซึ่งผมไม่เคยเห็นพระแกนไม้แบบนี้มาก่อน… Read More »

วัดป่าจุฬามณี วัดที่เกือบร้างท่ามกลางขุนเขา เมืองลพบุรี

https://youtu.be/At9HVTkrTIM วัดป่าจุฬามณี ลพบุรี วัดที่เกือบร้างท่ามกลางทิวเขาสวยงาม… สวัสดีครับ ท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดป่าจุฬามณี อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นวัดที่อยู่เชิงเขาและมีทิวเขาสวยงามล้อมรอบในบรรยากาศที่ร่มรื่นเป็นอย่างยิ่ง แต่เกือบกลายเป็นวัดร้าง เนื่องจากที่เจ้าอาวาสรูปเดิม(หลวงพ่อประสงค์) ได้อาพาธ ทำให้ท่านไม่สามารถรับกิจนิมนต์นิมนต์ต่างๆได้ ทำให้วัดไม่มีพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา จากที่เคยเป็นสถานที่ปฏิบัติจึงเงียบเหงาลง จนกระทั่งท่านได้มรณภาพในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2562 วัดป่าจุฬามณีเงียบเหงาลงท่ามกลางความรกร้างของสถานที่ มีต้นไม้ปกคลุมดูรกทั่วบริเวณจนกระทั่งผมได้ทราบเรื่องราวของวัดป่าจุฬามณีทางโซเชียลมีเดีย Facebook เนื่องจากผู้ใช้ Facebook “Bird Erawan” ซึ่งมีอาชีพเป็นข้าราชการทหาร(ร้อยเอกธงชัย เจือจันทร์) ได้แชร์เรื่องราวของวัดในสภาพที่เกือบร้าง จนมีผู้แชร์ไปมากกว่า 26,000 แชร์ จนส่งผลให้วัดป่าจุฬามณีเป็นที่รู้จักกันในสังคมโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว และทำให้วัดเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง มีผู้มีจิตศรัทธาเดินทางมาช่วยทำความสะอาดสถานที่ และจะร่วมกันฟื้นฟูวัดให้กลับมาเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมตามแนวท่านพุทธทาสดังเดิม หลวงพ่อกลชัย(รักษาการเจ้าอาวาสปัจจุบัน) ได้กล่าวว่า ตั้งใจจะบูรณะวัดให้เป็นสถานที่ปฏิบัติ และต้องการจะสร้างโรงครัวรองรับการปฏิบัติธรรมในเบื้องต้นเสียก่อน จึงเริ่มมีผู้คนมาช่วยงานมากขึ้นและจะมีการจัดผ้าป่าจากผู้มีจิตศรัทธาต่อไป ผู้กองได้เขียนเรื่องราวที่มีการแชร์ไว้ดังนี้ “บุญหล่นทับ จนรับไม่ไหว” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไปออกโรงทานงานทอดกฐินที่ “วัดดงมณี” อ.พระพุทธบาท สระบุรี มีพี่ที่รู้จักกันคนนึง พาพระมาหาเรา แล้วพูดว่า “ผู้กองครับ…พระรูปนี้เป็นรักษาการเจ้าอาวาส “วัดป่าจุฬามณี” แถวอ่างซับเหล็กท่านอยากจะขอผ้าป่าผู้กองซักกองนึง เพื่อสร้างโรงอาหารที่วัด เพราะโรงอาหารที่วัดพังหมดแล้ว ทั้งวัดมีท่านอยู่องค์เดียว “ เราได้ฟังแล้ว ก็ตอบตกลง ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าวัดอยู่ตรงไหนของอ่างซับเหล็ก วันนี้เจอกัลยาณมิตรสายธรรม เลยเล่าเรื่องที่เราจะทำบุญงานนี้ให้ฟัง ก็ตอบตกลงที่จะร่วมทำบุญด้วยกัน เลยพากันไปดูวัด ***สภาพเห็นแล้วหดหู่ใจคือ ดูแล้วเคยเป็นวัดที่ดูเจริญในอดีตแต่ตอนนี้สถาพปล่อยร้าง สอบถามเจ้าอาวาสได้ความว่า “แต่ก่อนวัดนี้เป็นวัดที่เจริญมี “หลวงพ่อประสงค์”… Read More »

ซากวัดจมใต้น้ำเขื่อนป่าสัก โผล่ให้เห็นจากภัยแล้ง – วัดหนองบัว(ใหญ่) ลพบุรี

https://youtu.be/fqIUimCrUCk วัดหนองบัว(ใหญ่) ลพบุรี ซากวัดจมใต้น้ำเขื่อนป่าสัก โผล่ให้เห็นจากภัยแล้ง… สวัสดีครับ ท่านผู้รักการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปพบกับความ Unseen ของซากวัดที่จมใต้น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์กว่า 20 ปี ได้โผล่ให้เห็นอีกครั้งจากวิกฤตการณ์ภัยแล้ง (ขณะเขียนบทความ ปี พ.ศ.2562) ผมได้ทราบข่าวจากหลายสำนักข่าวว่า เกิดวิกฤตการณ์ภัยแล้ง น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลดลงไปเหลือเพียง 4% (จากความจุ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือเพียง 38 ล้านลูกบาศก์เมตร) เป็นเหตุให้เกิดสภาพสันดอนใต้น้ำปรากฏให้เห็น รวมถึงซากวัดหนองบัว(ใหญ่) ที่ตั้งอยู่ที่ ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สร้างขึ้นสืบเนื่องจากปัญหาการเกิดน้ำท่วมในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสักในฤดูน้ำหลากและขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานพระราชดำริให้กรมชลประทานศึกษาความเหมาะสมถึงการสร้างเขื่อนเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ทั้งบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และบริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอีกด้วย จนกระทั่งวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้เปิดโครงการก่อสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำแม่น้ำป่าสัก ภายหลังการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมแล้ว เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างกว่า 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2537 ถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2542 การก่อสร้างเขื่อนป่าสักฯ ดังกล่าว ทำให้ต้องมีการเวนคืนและย้ายชุมชนเพื่อทำการกักเก็บน้ำสร้างเขื่อน ซึ่งวัดหนองบัว(ใหญ่) ก็เป็นหนึ่งในสถานที่… Read More »

เหตุผลที่ต้องขึ้นเขาวงพระจันทร์ สักการะพระพุทธบาท

รอยพระพุทธบาท วัดเขาวงพระจันทร์ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เป็นสถานที่วัดกำลังใจอีกสถานที่หนึ่งที่ได้รับความสนใจของนักท่องเที่ยวและทำบุญ เพราะต้องใช้กำลังกายและกำลังใจในการเดินขึ้นเขาวงพระจันทร์ ความสูง 3,790 ขั้นบันได รวมระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร เพื่อกราบสักการะรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาแห่งนี้ แม้ว่าผมจะเดินทางขึ้นเขาวงพระจันทร์แห่งนี้มาหลายครั้ง แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ท้าทายในการเดินทางอยู่เสมอ เพราะตามความเชื่อ ได้กล่าวถึงเรื่องราวความเป็นมาไว้อย่างน่าสนใจ ผมจึงขอถือโอกาสนี้ นำเสนอเรื่องราวของเขาวงพระจันทร์ที่ไม่ควรพลาดที่จะไปพิชิตสักครั้งหนึ่งในชีวิต เหตุผลที่ต้องขึ้นเขาวงพระจันทร์ 1. หลวงพ่อโอภาสี เคยขึ้นมาปฏิบัติธรรมบนยอดเขาวงพระจันทร์แห่งนี้ และเปิดเผยถึงตำนานอัศจรรย์ของรอยพระพุทธบาทแห่งนี้แก่หลวงปู่ฟัก ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาส วัดเขาวงพระจันทร์ เรื่องราวตำนานรอยพระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์อ่านได้ที่ลิ้งก์นี้ https://www.faiththaistory.com/buddha-footprint-wongprajan 2.เป็นการตามรอยเส้นทางธุดงค์ของหลวงพ่อปานโสนันโท ที่ได้นำคณะศิษย์ออกเดินทางธุดงค์มาถึงเขตนี้ หนึ่งในคณะศิษย์คือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และยืนยันเรื่องความศักดิ์สิทธิ์เร้นลับไว้หลายเรื่อง รวมถึงเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุหลายองค์อีกด้วย บันทึกเหตุการณ์เร้นลับการธุดงค์ของหลวงพ่อและหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาที่เขาวงพระจันทร์ https://www.faiththaistory.com/lp-khao-wong 3.ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน ก่อนถึงวัดเขาวงพระจันทร์ เป็นเทวดาบริวารของท้าวเวสสุวรรณ ที่หลวงพ่อปานและหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้สัมผัสถึงฤทธิ์เมื่อครั้งธุดงค์มาถึงสถานที่แห่งนี้ 4.กราบสรีระสังขารหลวงปู่ฟัก อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาวงพระจันทร์ที่ศาลาไม้ 5. หลวงตามหาบัวเคยเดินทางขึ้นเขาวงพระจันทร์เพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท และเขียนบันทึกในประวัติหลวงปู่มั่นกล่าวว่า บนยอดเขาวงพระจันทร์แห่งนี้ เคยมีพระอรหันต์มานิพพานอีกด้วย ซึ่งถูกบันทึกในหนังสือ ญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์ 6.เป็นการท่องเที่ยวและออกกำลังกาย ขึ้นเขา 3,790 ขั้นบันได ระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร ทั้งหมดนี้คือการสรุปเหตุผลในทัศนะของผม ที่เราต้องขึ้นเขาวงพระจันทร์ โดยเฉพาะเรื่องราวที่มีบันทึกในประวัติครูบาอาจารย์อย่างชัดเจน เพื่อเป็นสิริมงคลตามความเชื่อของแต่ละบุคคลต่อไปครับ บรรยากาศขึ้นเขาวงพระจันทร์ ครั้งที่ ๔ ช่องทางการติดตามเรื่องราว ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจภารกิจเที่ยววัด ได้ที่ www.facebook.com/faith108 หรือติดตามช่อง YouTube Channel… Read More »

วัดมณีชลขัณฑ์ ลพบุรี กราบหลวงปู่แสงพระอาจารย์ของสมเด็จพุฒาจารย์โต

https://youtu.be/dBY-4tVTCmw วัดมณีชลขัณฑ์ ลพบุรี กราบหลวงปู่แสงพระอาจารย์ของสมเด็จพุฒาจารย์โต… สวัสดีครับท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยทุกท่าน ผมจะพาทุกท่านไปยังวัดมณีชลขัณฑ์ ลพบุรี ซึ่งมีจุดเด่นที่องค์เจดีย์ตั้งตระหง่านสีขาวสูงเป็นสัญลักษณ์ของวัดแห่งนี้ และเจดีย์แห่งนี้ขนานนามกันว่า “เจดีย์หลวงพ่อแสง” ซึ่งมีเรื่องราวกล่าวขานถึงการสร้างที่แปลกอัศจรรย์ และวัดแห่งนี้เคยเป็นที่จำพรรษาของหลวงพ่อแสง ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) อีกด้วย เรื่องราววัดมณีชลขัณฑ์ วัดมณีชลขัณฑ์แต่เดิมชาวลพบุรีเรียกว่า “วัดเกาะแก้ว” เพราะยึดตามลักษณะภูมิประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะกลางทุ่งพรหมาสตร์ อ.เมือง จ.ลพบุรี และไม่มีบันทึกการสร้างวัดแห่งนี้ว่าเกิดขึ้นเมื่อใด ต่อมาทางราชการได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดมณีชลขัณฑ์ ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง ต่อมาวัดมณีชลขัณฑ์และเจดีย์หลวงพ่อแสง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2479 เจดีย์นี้มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง คล้ายคลึงกับพระเจดีย์สมัยเชียงแสน ส่วนของฐานมีขนาด 15.40 เมตร มีความสูง 50 เมตร ลักษณะของสถาปัตยกรรมเดิมที่เดียวก่อเรือนธาตุสูงลดหลั่นซ้อนกันเป็นชั้นๆ 3 ชั้น เรือนธาตุแต่ละทิศมีซุ้มโค้งสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป  ชั้นที่ 4 ตอนบนเป็นองค์ระฆัง ส่วนยอดทำเป็นแท่นบัลลังก์และปล้องไฉนขึ้นไป จากการค้นคว้าของ ผ.ศ.ทัศนีย์ กระต่ายอินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี กล่าวว่า วัดมณีชลขัณฑ์เป็นวัดเก่าแก่หลายชั่วอายุคน ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างขึ้นเมื่อใด ทราบแต่เพียงว่าแต่เดิมชื่อวัดเกาะแก้ว และจากหลักฐานปัจจุบัน สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อครั้งรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ.2199 – 2231) เพราะพบโบราณวัตถุคือ บุษบกธรรมาสน์ฝีมือช่างหลวงมีจารึกอักษรไทย ระบุว่าสร้างเมื่อ พ.ศ.2225 จึงเชื่อได้ว่า วัดมณีชลขัณฑ์สร้างมาก่อนปี พ.ศ.2225 เมื่อครั้งฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200… Read More »

หลวงปู่มัง วัดเทพกุญชรวราราม ลพบุรี – พระสายหลวงปู่มั่น

https://youtu.be/ZJEbiW0Gg9w หลวงปู่มัง มังคโล วัดเทพกุญชรวราราม ลพบุรี – พระสายหลวงปู่มั่น… สวัสดีครับท่านผู้ติดตามเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธา วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยัง วัดเทพกุญชร อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่ในอดีตนั้นมีพระสุปฏิปันโน ที่เป็นที่เคารพศรัทธาอย่างมากเคยจำพรรษาอยู่ นั่นก็คือ หลวงปู่มัง มังคโล ในวันที่ผมเดินทางนั้นตรงกับเดือนกันยายน พ.ศ.2560 เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ได้เดินทางท่องเที่ยวมายังจังหวัดลพบุรี ผมได้เดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดลพบุรีจนกระทั่งเย็น และได้ลองค้นหาข้อมูลวัดระหว่างที่จะเดินทางกลับ จึงได้พบว่าจะเดินทางผ่านวัดเทพกุญชร ที่มีเรื่องราวของหลวงปู่มัง … ผมจึงได้แวะเที่ยวชมและเก็บบันทึกเรื่องราวไว้เป็นวัดสุดท้ายในการท่องเที่ยววันนั้น เมื่อมาถึงวัด พบว่ามีความสงบเงียบอย่างมาก เนื่องจากวัดแห่งนี้ ไม่ใช่วัดท่องเที่ยว จึงจะมีญาติโยมเดินทางมาในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนามากกว่า  รวมถึงมักจะเป็นผู้ที่ทราบเรื่องราวของหลวงปู่มัง จึงจะแวะเดินทางมาที่นี่ เช่นผู้เขียนนี่แหละครับ เมื่อผมเข้ามาถึง ก็ได้จอดรถไว้บริเวณลานวัด ตรงข้ามกับโรงเรียนวัดเทพกุญชร จะมองเห็นพระเจดีย์มังคโลฝั่งขวา และวิหารหลวงปู่มังฝั่งซ้าย เมื่อทำการจอดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จุดแรกที่ผมเดินทางไปคือ พระเจดีย์มังคโล แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่าไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากล็อคอยู่ แต่เมื่อมองผ่านกระจกเข้าไปข้างใน เห็นว่ามีโลงศพอยู่ จึงได้สอบถามพระที่วัด…ได้คำตอบว่าเป็นสังขารของเจ้าอาวาสรูปที่สอง ที่รอการถวายเพลิงหลังงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงในหลวงรัชกาลที่ 9 ในพระวิหารหลวงปู่มัง ประดิษฐานรูปหล่อองค์ยืนหลวงปู่มัง, มีรูปถ่ายเอกสารสำนักพระราชวังงานพระราชพิธีถวายเพลิงศพหลวงปู่มัง, รูปถ่ายอื่นๆ, พัดยศ เป็นต้น แต่น่าเสียดายที่รูปถ่ายทั้งหมดภายในพระวิหาร มีความเสื่อมไปตามอายุ ซึ่งอาจจะเกิดแสงแดดที่เข้าถึงวิหาร หลังจากเก็บภาพบรรยากาศทั้งหมดในพระวิหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมจึงเดินไปเก็บภาพที่พระมณฑปและพระอุโบสถ… พระอุโบสถวัดเทพกุญชรมีความสวยงามอย่างมาก มีซุ้มประตูทั้งสี่ทิศ ดูงามสง่ายยิ่งนัก ภายในพระมณฑปและพระอุโบสถเป็นอย่างไร ผมไม่ได้ถ่ายรูปเนื่องจากทางวัดล็อคประตูไว้ ซึ่งผมไม่อยากรบกวนพระจึงถ่ายรูปมาให้ชมเพียงภายนอกเท่านั้นครับ บรรยากาศโดยรวมเงียบเหงาไปสักเล็กน้อย แต่เมื่อได้รู้และทราบประวัติเรื่องราวของครูบาอาจารย์ ก็สามารถทำให้อิ่มเอมใจในการเดินทางครับ… สำหรับท่านที่ศรัทธาในเรื่องราวของพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวและทำบุญกันได้ทุกวันครับ… Read More »