Category Archives: วัดร้าง

วัดร้างในโรงพยาบาลอยุธยา – วัดปราสาท วัดโคกเดหมี

https://youtu.be/vCvOzwKjeow วัดร้างในโรงพยาบาลอยุธยา – วัดปราสาท วัดโคกเดหมี (วัดโคกยายมี)… สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปเที่ยวโรงพยาบาลครับ… ใช่แล้วครับผมกล่าวไม่ผิด เพราะในโรงพยาบาลมีวัดร้างแอบซ่อนอยู่  โรงพยาบาลที่ผมกล่าวถึงคือ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จากแผนที่ของพระยาโบราณราชธานินทร์ ปรากฏชื่อวัดร้างในเขตโรงพยาบาลอยู่ทั้งสิ้น 3 วัด ได้แก่ วัดปราสาท, วัดโคกเดหมี(ในอดีตชาวบ้านเรียกวัดโคกยายมี), และวัดโคกเดหมา ถ้าเราเดินทางผ่านโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เราจะสังเกตุเห็นเจดีย์โบราณในโรงพยาบาล เพราะเจดีย์องค์นี้อยู่ใกล้กับถนนสัญจร แต่หลายคนก็ไม่ได้สนใจเพราะเจดีย์โบราณเช่นนี้ มีให้เห็นทั่วไปในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา น้อยคนจึงจะรู้จักชื่อวัดนี้… เจดีย์ที่เราเห็นกันบ่อยครั้ง คือเจดีย์ของวัดปราสาท ซึ่งเป็นวัดร้างในโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง เมื่อดูแผนที่และทราบว่าภายในโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา มีวัดร้างที่แอบซ่อนอยู่…ผมจึงได้นัดแนะสมาชิกเพื่อเดินทางไปชมพื้นที่กันสักเล็กน้อย… โดยนัดแนะที่ร้านกาแฟอเมซอนตรงข้ามโรงพยาบาล วัดแรกที่เราจะเข้าไปชมกันก็คือวัดปราสาท เพราะมีจุดสังเกตุที่ชัดเจนที่สุด เพราะมีจุดีย์ที่ได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากรแล้วอยู่ 2 องค์ สิ่งที่หลงเหลืออยู่ของวัดปราสาทคือ เจดีย์ 2 องค์ ลักษณะองค์หนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าสันนิษฐานว่าเป็นเจดีย์ประธานของวัด ส่วนอีกองค์หนึ่งซึ่งมีขนาดเล็กกว่าสันนิษฐานว่าเป็นเจดีย์ราย… จากการเข้าชมพื้นที่ ไม่เห็นซากอาคารใดๆ ซึ่งอาจจะทรุดโทรมพังทลายไปจนไม่เหลือซาก และจมใต้พื้นดินจากอาคารก่อสร้างของโรงพยาบาล เมื่อผมถ่ายรูปเก็บภาพเป็นที่ระลึกที่วัดปราสาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้เดินไปชมวัดร้างในจุดอื่นต่อไป จุดหมายคือวัดโคกเดหมี (วัดโคกยายมี)และวัดโคกเดหมา ซึ่งต้องเดินข้ามไปอีกฟากหนึ่งของโรงพยาบาล เมื่อเดินข้ามมาอีกฟากหนึ่ง จะมีมณฑปพระพุทธรูปองค์ใหม่ที่สร้างขึ้น พระนามว่า “พระศรีอยุธยาพิชิตโรคา” พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปใหม่ ปางประทานพรศิลปะสุโขทัยเนื้อทองเหลืองพ่นทอง ขนาดความกว้างหน้าตัก 109 นิ้ว สูง 3.70 เมตร โดยหลวงพ่อหวล เจ้าอาวาสวัดพุทไธศวรรย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เมตตาประทานรูปแบบและพระนาม เนื่องในโอกาสครบรอบ 72… Read More »

วัดโลกยสุธาราม พระพุทธไสยาสน์ พระนอนใหญ่ที่สุดในเกาะเมืองอยุธยา

https://youtu.be/xHYzIFI-_1Y วัดโลกยสุธาราม พระพุทธไสยาสน์ พระนอนใหญ่ที่สุดในเกาะเมืองอยุธยา… สวัสดีครับ ท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยววัดและตามรอยทุกท่าน ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปกราบนมัสการพระพุทธรูปปางไสยาสน์หรือที่เราเรียกกันแบบสามัญว่า พระนอนองค์ใหญ่ที่สุดในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา สถานที่เราจะเดินทางไปก็คือ วัดโลกยสุธาราม ผมเดินทางมายังวัดแห่งนี้บ่อยครั้ง ได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ขององค์พระพุทธรูปประดิษฐานกลางแจ้ง มีผู้คนและคณะทัวร์เดินทางมาเที่ยวชมและกราบนมัสการไม่ขาดสาย โดยเฉพาะวัดหยุดจากการงานจะมีผู้ตนเดินทางมาอย่างคึกคัก ด้วยเพราะเป็นสถานที่ได้รับความนิยมมากอีกแห่งหนึ่ง แต่ผมประทับใจภาพบรรยากาศในงานบุญวันสงกรานต์ปีหนึ่ง ซึ่งผมเคยเดินทางและถ่ายรูปไว้ เป็นบรรยากาศการห่มผ้าพระนอน จึงขอนำภาพบรรยากาศมาแบ่งปันให้ได้รับชม… ผมสอบถามชาวบ้านแถบนี้ ได้ความว่า จะมีการจัดงานบุญห่มผ้าองค์พระนอนเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนเมษายน ประวัติพอสังเขป วัดโลกยสุธาราม สันนิษฐานว่าได้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง ในรัชสมัยสมเด็จพระนครินทราธิราช พระราชบิดาเจ้าสามพระยา ราว พ.ศ. 1995 วัดนี้มีพระพุทธไสยาสน์ ปางไสยาสน์ ที่ใหญ่ที่สุดในเกาะเมืองอยุธยา ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ก่ออิฐถือปูน มีความยาว 42 เมตร และสูง 8 เมตร พระพักตร์หันไปทางทิศเหนือ ที่พระเศียรมีดอกบัวรองรับ พระบาทซ้อนกันเป็นมุมฉาก นิ้วพระบาทยาวเท่ากัน มีดอกบัวเกยซ้อนรองรับพระเศียรแทนพระเขนย สันนิษฐานว่าแต่เดิมเป็นพระพุทธรูปไม่ทรงเครื่อง แต่การบูรณะใน พ.ศ. 2499 คงมีการแก้พระเศียรเป็นอย่างพระพุทธรูปทรงเครื่อง รอบองค์พระมีเสาอิฐ 8 เหลี่ยม รวม 24 ต้น ซึ่งแต่เดิมคงจะมีการสร้างวิหารครอบพระพุทธไสยาสน์ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าได้พังทลายลงเมื่อใด พระพุทธไสยาสน์องค์นี้ได้รับการขุดแต่งโดยโรงงานสุรา ร่วมกับกรมศิลปากร เมื่อปี พ.ศ. 2497 และต่อมาในปี พ.ศ. 2532 คุณหญิงระเบียบ ธำรงนาวาสวัสดิ์ และครอบครัวได้บูรณะพระพุทธไสยาสน์เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่… Read More »

วัดไชยวัฒนาราม อยุธยา อลังการงานสถาปัตยกรรม

https://youtu.be/FMSinG3E_oI วัดไชยวัฒนาราม อยุธยา อลังการงานสถาปัตยกรรม… สวัสดีครับท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยทุกท่าน ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดไชยวัฒนาราม พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีความโดดเด่นยิ่งใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดดเด่นทางสถาปัตยกรรม มีเรื่องราวให้ศึกษาโดยเฉพาะประติมากรรมปูนปั้นพุทธประวัติที่น้อยคนจะสนใจ เป็นวัดท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับความนิยมสูงวัดหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ช่วงต้นปี พ.ศ.2561 กระแสการท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีความคึกคักเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่วัดไชยวัฒนาราม จากกระแสการตามรอยละครดัง “บุพเพสันนิวาส” ผมจึงจะพาทุกท่านมาชมภาพบรรยากาศที่วัดแห่งนี้ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์กันสักเล็กน้อย เพราะแต่ละสถานที่นอกจากมีความสวยงาม แต่เรื่องราวก็น่าค้นหามากเช่นกัน ประวัติวัดไชยวัฒนาราม พอสังเขป วัดไชยวัฒนารามตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ในสมัยกรุงศรีอยุธยาการเดินทางไปวัดไชยวัฒนารามจะลงเรือจ้างออกที่ “ท่าบ้านชี” และคำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม กล่าวว่า ท้องน้ำเจ้าพระยาด้านตะวันตกนั้นคึกคักด้วยบ้านเรือนแพ วัดไชยวัฒนารามเป็นโบราณสถานที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติตามประกาศใยราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕๒ ตอนที่ ๗๕ เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๕ วัดไชยวัฒนาราม เป็นพระอารามหลวงสมัยอยุธยา สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์องค์ที่ ๒๔ ครองราชย์ระหว่างปีพ.ศ.๒๑๗๓ – ๒๑๙๘ ทรงสถาปนาเป็นวัดอรัญวาสี ณ บริเวณที่ดินซึ่งเป็นนิวาสสถานของพระราชชนนี ในปีที่พระองค์ขึ้นครองราชย์ เพื่ออุทิศถวายพระราชชนนีและเฉลิมฉลองพระเกียรติพระองค์ที่มีชัยต่อการรบกับเขมร ภาพบรรยากาศความคึกคักที่วัดไชยวัฒนาราม เดือนเมษายน พ.ศ.2561 กับความคึกคักจากกระแสละครบุพเพสันนิวาส ภาพบรรยากาศวัดไชยวัฒนาราม ยามค่ำคืน เมษายน พ.ศ.2561… กรมศิลปากรได้ขยายการเข้าชมโบราณสถานที่วัดไชวัฒนาราม จนถึง 22:00 น. ปฏิมากรรมปูนปั้นพุทธประวัติ ณ วัดไชยวัฒนาราม ปฏิมากรรมที่โดดเด่นของวัดไชยวัฒนารามคือ ปูนปั้นเรื่องราวในพุทธประวัติ… Read More »

วัดพระราม สมัยอยุธยาตอนต้น พระปรางค์มหาธาตุเป็นหลักเป็นศรีแห่งพระนคร

https://youtu.be/lQsONSjJgIA วัดพระราม สมัยอยุธยาตอนต้น พระปรางค์มหาธาตุเป็นหลักเป็นศรีแห่งพระนคร… สวัสดีครับท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยทุกท่าน ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดพระราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น มีความสวยงามและยิ่งใหญ่ของปรางค์ประธานที่สูงเด่น และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณในองค์ปรางค์ให้ได้เรียนรู้ นอกจากนี้ ยังมีบันทึกไว้ว่า มหาธาตุเจดีย์ (ปรางค์ประธาน)แห่งนี้ เป็นหลักเป็นศรีแห่งพระนครอีกด้วย จากบันทึกคำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม เอกสารจากหอหลวง ได้บันทึกในเรื่อง “ว่าด้วยสิ่งที่เป็นหลักเป็นประธานเป็นศรีพระนคร“ ความว่า มหาธาตุที่เปนหลักกรุงศรีอยุธยา ๕ องค์ คือ พระมหาธาตุ วัดพระราม ๑ (วัดพระราม) พระมหาธาตุ วัดมหาธาตุ ๑ (วัดมหาธาตุ) พระมหาธาตุ วัดราชบูรณ ๑ (วัดราชบูรณะ) พระมหาธาตุ วัดสมรโกฏ ๑ (วัดสมณโกฏฐาราม) พระมหาธาตุ วัดพุทไธสวริย ๑ (วัดพุทไธศวรรย์) คำว่า มหาธาตุเจดีย์ คือเจดีย์ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นที่เคารพศรัทธาสูงสุด มุมทั้งสี่ของปรางค์ประธานจะมีเจดีย์ทรงปราสาทยอด ซึ่งยังมีศิลปะปูนปั้นหลงเหลืออยู่บ้าง ประวัติวัดพระราม พอสังเขป วัดพระรามสถาปนาขึ้นโดยสมเด็จพระราเมศวร ราวปีพ.ศ.1912 บนสถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระเจ้าอู่ทองพระราชบิดา วัดพระรามได้รับการบูรณะและสร้างสิ่งก่อสร้างเพิ่มเติมอีกหลายครั้งเพราะเป็นวัดที่อยู่ใกล้พระราชวัง โดยเฉพาะในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ราวปี พ.ศ.2248 ได้มีการซ่อมแซมวัดวาอารามครั้งใหญ่ทั่วกรุงศรีอยุธยา และวัดพระรามได้รับการซ่อมแซมด้วย ภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณ จิตรกรรมฝาผนังวัดพระราม อยู่ภานในผนังคูหาทางเดินเข้าสู่กรุ ตลอดไปจนถึงฝาผนังกรุภายในเรือนธาตุของปรางค์ประธานทั้ง 4 ด้าน ภายในเขียนเป็นภาพพระพุทธเจ้าประทับนั่งสมาธิบนฐานดอกบัวเรียงกันเป็นแถวในแนวนอน และซ้อนกันขึ้นไปในแนวตั้งหลายชั้น… Read More »

วัดบรมพุทธาราม วัดสิงหาราม ย่านตลาดบ้านดินสอ ริมคลองฉะไกรน้อยในราชภัฏอยุธยา

https://youtu.be/8V_xM7k8X0s วัดบรมพุทธาราม วัดสิงหาราม ย่านตลาดบ้านดินสอ ริมคลองฉะไกรน้อยในราชภัฏพระนครศรีอยุธยา… ตามรอยละครบุพเพสันนิวาส ณ ตลาดบ้านดินสอ… สวัสดีครับท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยวัดวาอาราม วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางเข้าไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เพื่อเที่ยวชมวัดโบราณซึ่งปัจจุบันเป็นวัดร้าง คือ วัดบรมพุทธารามและวัดสิงหาราม ตั้งอยู่ริมคลองฉะไกรน้อยซึ่งเป็นคลองโบราณใช้สัญจรในสมัยอยุธยา ปัจจุบันลำคลองถูกตัดขาดเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ยังคงให้ได้เห็นสภาพลำคลองภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ภายในบริเวณริมคลองฉะไกรน้อยนี้ ได้ปรากฏชื่อในละครบุพเพสันนิวาส ที่กำลังโด่งดังช่วงต้นปี พ.ศ.2561 อีกด้วย โดยระบุว่าเป็นตำแหน่งของตลาดบ้านดินสอ เป็นย่านที่ขายสมุดและดินสอในสมัยอยุธยา โดยมีโบราณสถานยืนยันอีกจุดคือ สะพานบ้านดินสอที่ข้ามผ่านคลองฉะไกรน้อย ที่ได้รับการบูรณะแล้วให้ได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้ วัดแรก วัดบรมพุทธราราม การเดินทาง สะดวกมากครับ จะขับรถเข้ามาในมหาวิทยาลัยเลยก็ได้ มีที่จอดมากมายเมื่อ เข้ามายังพื้นที่วัดบรมพุทธารามสภาพปัจจุบันมีต้นไม้ใหญ่ให้ได้ร่มเงาอยู่ครับ ทำให้ลบร้อนกันได้ จึงมีนักศึกษามานั่งอ่านหนังสือและทำกิจกรรมกันพอสมควรในบริเวณนี้ เจดีย์ทรงปรางค์หน้าพระอุโบสถจะมีอยู่ 2 องค์คู่กัน อีกองค์หนึ่งชำรุดทรุดโทรมเหลือเพียงส่วนฐาน พระวิหาร วัดบรมพุทธารามจะตั้งอยู่ข้างพระเจดีย์หน้าอุโบสถ วัดบรมพุทธาราม ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่พระเพทราชา (ช่วงเวลาครองราชย์ พ.ศ. 2231 – 2245)โปรดเกล้าให้สร้างขึ้น ณ บ้านป่าตองสถานที่พระองค์เคยตั้งบ้าเรือนเมื่อครั้งรับราชการอยู่ในกรมช้าง วัดนี้พระเพทราชาโปรดเกล้าให้ช่างทำกระเบื้องเคลือบสีเหลืองมุงหลังคาอาคารภายในวัด  จึงมีชื่อสามัยที่เรียกกันอีกชื่อว่า “วัดกระเบื้องเคลือบ”  กล่าวกันว่าสมเด็จพระเพทราชาทรงได้รับแรงบันดาลใจจากกระเบื้องที่ใช้มุงหลังคาพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญมหาปราสาท ภายในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ที่เมืองลพบุรี จึงได้รับสั่งทำกระเบื้องเคลือบสีเดียวกันใช้มุงหลังคาวัดแห่งนี้ วัดที่สอง วัดสิงหาราม เมื่อเดินข้ามคลองฉะไกรน้อยไปอีกฟากหนึ่ง เราจะเห็นโบราณสถานอีกแห่ง นั่นก็คือวัดสิงหาราม ซึ่งเป็นวัดที่สันนิษฐานการสร้างมาก่อนวัดบรมพุทธาราม อย่างน้อยในช่วงอยุธยาตอนกลาง เจดีย์ทรงระฆังมีปรากฏในศิลปะอยุธยาแล้วอย่างน้อยตั้งแต่ พุทธศตวรรษที่  20 ที่วัดมเหยงคณ์และได้รับความนิยมสืบต่อมาถึงสมัยอยุธยาตอนกลางที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ ส่วนวิหารส่วนหน้าต่างทำช่องแสงเป็นช่องลูกกรงเลียนแบบลูกกรงลูกมะหวดในศิลปะเขมร ซึ่งปรากฏมาแล้วตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้นที่วิหารหลวงวัดมหาธาตุ … Read More »

ตามรอยเสด็จประพาส ร.๕ วัดศาสดา วัดร้างอยุธยาที่ไม่เคยรู้

https://youtu.be/Byo7fLYRFVo ตามรอยเสด็จประพาส ร.๕ วัดศาสดา วัดร้างอยุธยาที่ไม่เคยรู้… สวัสดีครับท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางตามรอยเสด็จประพาสในรัชกาลที่ ๕ โดยเราจะเดินทางไปที่วัดศาสดา ซึ่งปัจจุบันเป็นวัดร้างไปเสียแล้ว มีซากเจดีย์โบราณที่ถูกปกคลุมด้วยต้นโพธิ์ ที่ยังหลงเหลือให้เห็นเป็นสัญลักษณ์ วัดศาสดาตั้งอยู่ในเขตบ้านเรือน แต่เราสามารถเข้ามาถ่ายรูป ท่องเที่ยวกันได้ แต่อาจจะมีเหล่าสุนัขคอยเห่ารบกวนสมาธิบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ต้องกังวลครับ (ไม่กัด) เมื่อผมเดินทางมาถึง จะเห็นต้นโพธิ์สูงใหญ่ชัดเจน แลดูช่างคลาสสิคเป็นอย่างยิ่ง ผมได้สอบถามป้าที่บ้านทางเข้าเขตวัดศาสดา ป้าบอกว่ากรมศิลปากรจะส่งเจ้าหน้าที่คอยมาทำความสะอาดและตัดต้นไม้ไม่ให้รกตามเวลาที่กำหนดไว้ ในเขตพื้นที่บ้านแต่เดิมจะมีแนวกำแพงและผนังโบสถ์ แต่ปัจจุบันได้ทลายหายไปหมดสิ้นแล้ว แนวผนังอาคาร ยังพอให้เห็นเศษอิฐโบราณที่กระจัดกระจายอยู่ครับ จากนั้นผมได้ขึ้นไปสำรวจเจดีย์ด้านบน ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังเพราะมีความสูงชัน ตามรอยเส้นทางเสด็จประพาส รัชกาลที่ ๕ วัดศาสดา เป็นจุดหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จมาถึง ปรากฏในพระราชหัตถเลขา เรื่องเสด็จประพาสลำน้ำมะขามเฒ่าและพระราชกระแสเรื่องจัดการทหารมณฑล กรุงเทพฯ ในรัชกาลที่ ๕ มีเนื้อหาเกี่ยวกับวัดศาสดาบางตอนดังนี้ ๒๗ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๗ (พ.ศ ๒๔๕๑) ลงเรือล่องลงมาเข้าคลองบางนางร้า หาที่พักทำกับข้าวไม่เหมาะจนมาออกปากคลอง เลยขึ้นไปดูข้างเหนือเห็นว่าจะช้าเสียเวลาไปจึงได้แล่นกลับลงมา ไม่ช้าเท่าใดก็ถึงวัดวรนายกรังสรรค์วัดเขาดิน ที่จริงภูมิฐานดี แลเห็นเด่นแต่ไกล เป็นที่ประชุมไหว้พระใหญ่ไม่มีที่ไหนเท่าสุพรรณ อ่างทอง ลพบุรีก็ลงมาพร้อมกันหมด เสียแต่การก่อสร้างไม่แข็งแรงเลยพูนดินขึ้นไปที่โคกโบสถ์สูงครากแบะจะพัง มาไลยเจดีย์ปูนยังไม่ทันจะดำมีต้นไม้ขึ้นมาก ทำกำมะลอเสียแต่แรกแล้ว ไม่ได้แวะเลยลงมาตามลำน้ำโพธิ์สามต้นไปทางบางขวดถึงปากช่องที่จะเข้าไปวัดตูม วัดศาสดา จอดเรือโมเตอร์ที่นั้นลงเรือสามสิบหกศอกแจวเข้าไป หยุดทำกับข้าวที่วัดศาสดา ซึ่งมีการเปรียญน้ำพอปริ่ม ๆ ที่จริงไม่เห็นท่าทางที่น่าจะอด หน้าวัดก็มีบ้าน การเปรียญก็ดูเป็นที่เทศนาวาการกันอยู่ แต่มีพระองค์เดียวเท่านั้น พระองค์เดียวก็มิใช่อยู่อย่างจนๆ อยู่กุฏิฝากระดานยังใหม่… Read More »