Category Archives: ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

สระแก้ว สระน้ำโบราณพันปี เมืองโบราณศรีมโหสถ ปราจีนบุรี

https://youtu.be/qJYpAQ7oiRo สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปท่องเที่ยวตามรอยอดีตเมืองโบราณศรีมโหสถ อายุกว่าพันปี ที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีจุดสำคัญในการเดินทางไปเที่ยวชมครั้งนี้คือ โบราณสถานสระแก้ว ซึ่งเป็นสระน้ำโบราณที่มีความพิเศษกว่าจุดอื่นๆ ในเมืองโบราณศรีมโหสถ สมัยทวารวดี ด้วยรูปแบบที่มีการสลักรูปสัตว์มงคลไว้ขอบสระตามความเชื่อในศาสนาฮินดู และยังคงเห็นร่องรอยได้ถึงปัจจุบันนี้ เมืองโบราณศรีมโหสถ เมืองศรีมโหสถเป็นเมืองโบราณสมัยทวารวดี ตั้งอยู่ที่บ้านโคกวัด ตำบลโคกปีบ จังหวัดปราจีนบุรี มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 11 – 12 ลักษณะของเมืองมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมน กว้าง 700 เมตร ยาว 1,550 เมตร มีคูน้ำและกำแพงดินล้อมรอบ ภายในเมืองปรากฏซากโบราณสถาน สระน้ำ บ่อน้ำกระจัดกระจายโดยทั่วไป มีจำนวนมากกว่า 100 แห่ง ส่วนใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับลัทธิความเชื่อในศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู อาทิ ซากศาสนสถานที่ก่อด้วยศิลาแลงที่มีอายุตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 16, เทวรูป พระนารายณ์ ศิวลึงค์ เป็นต้น นอกจากนี้จากการดำเนินงานทางโบราณคดียังได้พบลูกปัดแก้วคาร์นีเลียนและลูกปัดหินอาเกตแบบทวารวดีอีกด้วย ศิวลึงค์โบราณขนาดใหญ่ที่สุดในไทย ขนาดยาวเกือบ 3 เมตร เมืองโบราณศรีมโหสถ ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่วัดต้นโพธิ์ศรีมาโพธิ โบราณสถานสระแก้ว ตั้งอยู่ทางนอกเมืองโบราณศรีมโหสถ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 100 เมตร มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 18*18 เมตร ลึกประมาณ 6.50 เมตร โดยขุดลงไปบนชั้นดินที่เป็นชั้นของศิลาแลง ริมผนังของสระด้านในทั้ง 4 ด้าน สลักเป็นภาพสัตว์ปรัมปรา อาทิ ช้าง สิงห์… Read More »

อันซีนลพบุรี สะพานโบราณอายุกว่า 300 ปี สะพานเรือก สมัยพระนารายณ์

https://youtu.be/A0FlFA8aRpg วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังเมืองลพบุรี เพื่อตามรอยโบราณสถานแห่งหนึ่งที่ปัจจุบันในปี 2563 กำลังได้รับการบูรณะ เพื่อเปิดเผยสู่สาธารณชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของลพบุรี นั่นก็คือ สะพานเรือก หรือสะพานคลองท่อ ซึ่งมีหลักฐานทาประวัติศาสตร์ว่ามีขึ้นมาตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา เรื่องราวเกี่ยวกับคลองเรือกมีความน่าสนใจ ผมจึงได้เดินทางร่วมกับเพจตามรอยวัดเก่าลุ่มน้ำลพบุรีเพื่อบันทึกข้อมูลนี้ไว้ ดังนี้ เมืองลพบุรีด้านทิศตะวันออกมีคูเมืองหลายชั้น ชั้นนอกสุดคูเมืองค่อนข้างกว้างและยังคงสภาพที่สมบูรณ์ขอคลองจนถึงปัจจุบัน ซึ่งชาวเมืองเรียกกันว่า คลองเรือก ในรายงานการเสด็จประพาสเมืองลพบุรีของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้ระบุชื่อคลองนี้ว่าคลองท่อ เช่นในข่าว เสด็จประพาสเมืองลพบุรีราชกิจจานุเบกษา วันที ๑๒ พฤศจิกายน ร.ศ.๑๒๔ (พ.ศ.๒๔๔๘) ลงข่าวไว้ว่า …วันที่ ๓๑ ตุลาคม  เวลาเย็นเสด็จลงเรือพระที่นั่งพายประพาสในคลองท่อ จนถึงวัดตองปุ… …วันที่ ๑ พฤศจิกายน… เสด็จเรือพระที่นั่งพายล่องลงไปเข้าคลองเมืองด้านใต้ ทอดพระเนตรสถานที่โบราณนอกเมืองแล้วมาเข้าคลองท่อข้างใต้ ประทับวัดสัมปหล่อ (วัดสันเปาโล) แล้วเสด็จไปตามคลองท่อได้ไปออกข้างเหนือที่ทุ่งพรหมาสตร์… และมีปรากฏในหลักฐานทางประศาสตร์ในแผนที่เมืองลพบุรีสำรวจและวาดโดยวิศวกรชาวฝรั่งเศส ชื่อ เดอ ลามาร์ เมื่อ ค.ศ ๑๖๘๗ (๒๒๓๐) ได้วาดตำแหน่งสะพานข้ามคลองท่อไว้ ๒ แห่ง คือ ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือและด้านทิศตะวันออก และในแผนที่เมืองลพบุรี จัดพิมพ์โดยกรมแผนที่ พ.ศ ๒๔๕๗ ระบุตำแหน่งข้ามคลองท่อด้านทิศตะวันออก ชื่อว่า สะพานราเมศร์ และน่าจะตรงกับตำแหน่งสะพานเดียวกับที่ระบุในแผนที่ของ เดอ ลามาร์ ฉะนั้นสะพานที่สร้างขึ้น ณ ตำแหน่งนี้มีมาแล้วตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ แห่งกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ… Read More »

สระสี่เหลี่ยม สระให้น้ำไก่ของพระรถ ในตำนานพระรถเมรีและนางสิบสอง

https://youtu.be/YlOEw-pM0Hk สระสี่เหลี่ยม สระให้น้ำไก่ของพระรถ ในตำนานพระรถเมรีและนางสิบสอง ที่อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี… สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปตามรอยตำนาน ซึ่งเป็นสถานที่ ที่สันนิษฐานว่าเป็นเมืองโบราณมาก่อนนับพันปี และมีตำนานเกี่ยวกับ พระรถ ในวรรณคดีพระรถเมรีอีกด้วย นอกจากในตำนานพระรถแล้ว ยังมีตำนานเล่าขานว่าเป็นดินแดนลับแล สถานที่นี้คือ โบราณสถานสระสี่เหลี่ยม ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ตำนานสระสี่เหลี่ยม โบราณสถานสระสี่เหลี่ยม กรมศิลปากรได้มาสำรวจและขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อปี พ.ศ. 2474 ตัวสระเป็นศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส  ขนาด 5×5 วา ลึก 2 วาเศษ ได้ขุดตัดหินเป็นหน้าเรียบลึกลงไปเป็นแนวดิ่ง ได้มุมฉากทั้งสี่ด้าน คล้ายกับเครื่องจักรตัด ทางด้านทิศตะวันตกมีบันไดหินลงไป 12 ขั้น ปี พ.ศ. 2512 กรมชลประทานได้ขุดคลองจากท่าลาด อ.พนมสารคาม บันไดบางส่วนจึงถูกดินถม ทางราชการได้ตั้งชื่อของตำบลนี้ตามลักษณะของรูปสระว่า ตำบลสระสี่เหลี่ยม อำเภอพนัสนิคม จ.ชลบุรี ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไม่ปรากฏว่าผู้ใดขุดสระนี้ไว้ แต่มีตำนานว่าพระรถได้ขุดสระนี้เพื่อให้น้ำไก่ และไปพนันตีไก่กับพระเจ้าอู่ทองอู่ไท ที่ ต.ดงน้อย จ.ปราจีนบุรี โดยพนันเอาบ้านเอาเมืองกัน จึงสันนิษฐานว่า สระนี้ขุดพร้อมกับเมืองพระรถ อยู่ที่ตำบลหน้าพระธาตุ ในสมัยทราวดี ราวพุทธศตวรรษที่ 13-17 จึงสันนิษฐานว่าสถานที่นี้เป็นชุมชนแห่งหนึ่งในสมัยนั้น ต่อมาอาจอพยพย้ายถิ่นฐาน จึงกลายเป็นบ้านเมืองร้างไป หลักฐานทางประวัติศาสตร์ปี พ.ศ. 2372 ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์… Read More »

สำรวจวัดร้าง อดีตค่ายพม่าโจมตีกรุงศรีอยุธยา – วัดเต่า วัดตามุก วัดสุเรนทร์

https://youtu.be/ZB-X8wg3uj8 สำรวจวัดร้าง อดีตค่ายพม่าโจมตีกรุงศรีอยุธยา – วัดเต่า วัดตามุก วัดสุเรนทร์… สวัสดีครับ ครั้งนี้ผมจะพาทุกท่านเดินเข้าป่า เดินทางท่องเที่ยวตามรอยประวัติศาสตร์เมื่อครั้งการเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2310 ซึ่งครั้งนั้นเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญเพราะเป็นการปิดฉากความยิ่งใหญ่ของกรุงศรีอยุธยา เมื่อพระเจ้าตากกลับมากู้เอกราช จึงได้ย้ายเมืองไปที่กรุงธนบุรีในเวลาต่อมา การเดินทางครั้งนี้ ผมไม่สามารถเดินทางไปทุกวัดที่มีบันทึกว่าเป็นค่ายพม่าได้ เพราะมีหลายวัดและจะใช้เวลานาน จึงขอพาไปชมสภาพพื้นที่บางวัด และผมได้วางแผนจะพาไปชม 3 วัดได้แก่ วัดเต่า วัดตามุก(วัดพลับพลาชัย) วัดสุเรนทร์ ซึ่งเป็นค่ายพม่าฝั่งตะวันตกของเกาะเมืองอยุธยา… ปัจจุบันทั้ง 3 วัดนี้ มีสภาพเป็นโคกวัดร้าง ให้เห็นเพียงเศษซากก้อนอิฐ ซากพระพุทธรูป ให้ได้รู้ว่าสถานที่แห่งนี้เคยมีความรุ่งเรืองมาก่อน หมายเลข ๑๐ : วัดเต่า, หมายเลข ๑๑ : วัดสุเรนทร์ สำหรับหนังสืออ้างอิงในการเดินทาง ผมจะใช้หนังสือ 2 เล่มคือ “Shutdown กรุงศรี” และ “ห้าเดือนกลางซากอิฐปูนที่อยุธยา” เพราะมีเนื้อหาสรุปความจากแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือพอสมควร และขอย้ำอีกครั้งว่า เรื่องราวการบันทึกการเดินทางทุกครั้ง ไม่ใช่เนื้อหาทางวิชาการ ขอให้ท่านผู้ติดตามอ่านแล้วนำไปค้นคว้าเพิ่มเติม ถ้าผิดพลาดประการใด ขอน้อมรับเพื่อนำไปปรับปรุงครับ… บันทึกการเดินทางครั้งนี้ เดือนมิถุนายน พ.ศ.2561 สั่งซื้อออนไลน์ >> หนังสือ “Shutdown กรุงศรี” จากบันทึกในพงศาวดารไทย ได้กล่าวถึงที่ตั้งมั่นค่ายพม่าไว้มากมาย เช่น วัดกระซ้าย… Read More »

ถนนฝรั่งส่องกล้อง เส้นทางเสด็จนมัสการพระพุทธบาทของพระเจ้าทรงธรรม

https://youtu.be/ZcOFmaeTwWM ถนนฝรั่งส่องกล้อง เส้นทางเสด็จนมัสการพระพุทธบาทของพระเจ้าทรงธรรม แห่งกรุงศรีอยุธยา… สวัสดีครับท่านผู้ติดตามและรักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยทุกท่าน ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปชมเส้นทางหรือถนนที่พระเจ้าทรงธรรมได้โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นหลังจากที่พระองค์ได้เสด็จกลับจากการนมัสการรอยพระพุทธบาท สระบุรี เรื่องราวการค้นพบรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ ปรากฏในพระราชพงศาวดาร ซึ่งผมขอนำมาเรียบเรียงให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้ จุลศักราช ๙๖๘ (พ.ศ.๒๑๔๙) พรานบุญได้ค้นพบรอยพระพุทธบาท จึงได้แจ้งแก่ทางการในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม พระเจ้าทรงธรรม แห่งกรุงศรีอยุธยาทรงทราบ จึงได้เสด็จมากราบนมัสการรอยพระพุทธบาทนี้ พระองค์ทรงโสมนัสยินดีที่ได้นมัสการรอยพระพุทธบาทนี้ เป็นไปตามพระไตรปิฎกที่สงฆ์แห่งลังกาได้กล่าวไว้ว่า กรุงศรีอยุธยามีรอยพระพุทธบาทอยู่เหนือยอดเขาสุวรรณบรรพต หลังการนมัสการรอยพระพุทธบาท พระเจ้าทรงธรรมรับสั่งให้สร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาท สร้างอาราม พระอุโบสถ วิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์และอาคารอื่นๆ แล้วรับสั่งให้ฝรั่งส่องกล้องตัดเส้นทางขนาดกว้าง 10 วา ตั้งแต่รอยพระพุทธบาทถึงท่าเรือ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็คือถนนฝรั่งส่องกล้องหรือถนนพระเจ้าทรงธรรมที่ผมจะพาทุกท่านไปเที่ยวชมครั้งนี้ ภาพพรานบุญ : https://www.faiththaistory.com/pranboon ถนนฝรั่งส่องกล้องหรือถนนพระเจ้าทรงธรรม… มีป้ายจากกรมศิลปากรระบุตำแหน่งไว้ชัดเจน โดยมีรายละเอียดว่า เป็นถนนที่พระเจ้าทรงธรรม รับสั่งให้ฝรั่งส่องกล้องตัดขึ้นหลังจากการนมัสการรอยพระพุทธบาท ซึ่งฝรั่งสมัยนั้นคือชาวฮอลันดา แต่เดิมถนนมีความยาว 20 กิโลเมตร กว้าง 20 เมตร…ปัจจุบันถนนมีความกว้าง 6-8 เมตร ยาว 9 กิโลเมตร บนถนนฝรั่งส่องกล้อง จะมีจุดสำคัญอีกหนึ่งจุดคือ บ่อน้ำโบราณ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นแหล่งน้ำที่ขุดขึ้นเพื่อใช้เป็นน้ำอุปโภคบริโภคของทัพพระเจ้าทรงธรรมระหว่างการเสด็จนมัสการรอยพระพุทธบาท ขอบบ่อด้านบนเป็นศิลาแลงที่สร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อรักษาสภาพไม่ให้หน้าดินทลายลงไปทับถม รวมถึงป้องกันอุบัติเหตุที่อาจร่วงตกลงไปได้ ลักษณะบ่อนำโบราณปัจจุบัน เหือดแห้งไปมากพอสมควร ปรากฏให้เห็นอิฐเก่าของบ่อน้ำอย่างชัดเจน ผมเดินวนเวียนถ่ายรูปและเก็บบรรยากาศพอสมควรแก่เวลา จึงออกเดินทางสู่พระพุทธบาทสระบุรี มณฑปครอบรอยพระพุทธบาท สระบุรี ได้รับการบูรณะมาหลายสมัย ดูสวยงามเป็นอย่างมาก… Read More »

วัดหงส์ ค่ายโพธิ์สามต้นของสุกี้นายกองแม่ทัพพม่า เมื่อครั้งเสียกรุงศรี

https://youtu.be/lIX5bLf19LQ วัดหงส์ ค่ายโพธิ์สามต้นของสุกี้นายกองแม่ทัพพม่า เมื่อครั้งเสียกรุงศรี… สวัสดีครับ วันนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศเดินทางกันบ้าง ครั้งนี้ผมจะพาเดินทางไปชมบรรยากาศให้ระลึกถึงเรื่องราวเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 โดยผมจะเดินทางไปยังวัดหงส์ ตำบลโพธิ์สามต้น อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีเรื่องราวบันทึกว่า เป็นส่วนหนึ่งของค่ายโพธิ์สามต้น ที่เป็นค่ายของสุกี้นายกองแม่ทัพพม่า ในช่วงเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2310 วันเดินทางตรงกับวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2560 อากาศมีอุณหภูมิที่ต่ำลง เหมาะแก่การออกเดินทางท่องเที่ยวอย่างยิ่ง และเพื่อไม่ให้เสียโอกาสเพราะเมืองไทยปัจจุบันอากาศเย็นหาได้ยากถ้าไม่ใช่แถบชนบทจริงๆ การเดินทางครั้งนี้แอดมินเป็นสายแว๊นซ์ เพราะได้สัมผัสอากาศอย่างเต็มอิ่ม..เมื่อมาถึงพบว่าพื้นที่วัดโดยรวมสวยงามตามสภาพบรรยากาศท้องถิ่น มีหนองน้ำโดยรอบ สัมผัสกับอากาศเย็นๆ ช่างสบายใจจริงๆ กรมศิลปากรได้เข้าทำการบูรณะ พบเพียงซากฐานอาคารและเจดีย์เท่านั้น จากประวัติสถานที่ทางกรมศิลปากรได้ระบุว่า วัดหงส์เป็นวัดร้างแห่งหนึ่งในตำบลโพธิ์สามต้น อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากประวัติการสร้างยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนกลาง ต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของค่ายโพธิ์สามต้น ที่เป็นค่ายทัพของสุกี้นายกองแม่ทัพพม่า อีกทั้งมีการรื้ออิฐบางส่วนนำไปสร้างป้อมค่ายในช่วงสงครามเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 พ.ศ.2310 และต่อมาได้ถูกทิ้งร้างในสมัยรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน สำหรับวัดหงส์แห่งนี้ ไม่มีอะไรมากครับ แต่ที่ชอบมากคือบรรยากาศท่องเที่ยวดีๆ ที่นานๆครั้งจะได้สัมผัสอากาศเย็นๆ เพราะปกติแอดมินเดินทางทีไร เหนื่อยเพราะอากาศร้อน แอดมินนั่งพักชมบรรยากาศ ฟังเสียงธรรมชาติสักพักจึงได้เดินทางไปยังสถานที่อื่นๆต่อไป ขอขอบพระคุณการติตาม แล้วพบกันใหม่ในโอกาสต่อไป สวัสดีครับ ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108 หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด… Read More »