ไม่รักษาศีล ผิดศีลข้อไหนอันตรายและบาปที่สุด
เมื่อกล่าวถึงพระพุทธศาสนา ทุกๆคนต้องทราบอย่างแน่นอนว่าเป็นศาสนาประจำชาติของเรา และมีผู้นับถือมากที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังมีศาสนสถานมากมายทั่วประเทศ ทำให้คนไทยต่างนิยมที่จะเดินทางทำบุญกันตามวัดวาอารามต่างๆ ทั้งนี้เป็นสิ่งที่ดีและสามารถสืบทอดพระพุทธศาสนาให้มั่นคงต่อไปได้ และโดยส่วนมากแล้วนั้น เมื่อเดินทางไปทำบุญตามสถานที่ต่างๆ จะเป็นการเน้นในเรื่องการทำทาน เป็นหลัก ได้แก่ การบริจาคทุนทรัพย์เพื่อบูรณะ หรือ สร้างศาสนสถานต่างๆ เป็นต้น
แต่คำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา ไม่ได้สอนเรื่องการทำดีเพียงแค่การทำทานเท่านั้น แต่ได้กล่าวไว้ว่าการทำบุญมี 3 ระดับด้วยกัน ได้แก่ บุญขั้นต่ำคือการให้ทาน หรือการบริจาคทรัพย์และสิ่งของต่างๆเป็นต้น บุญขั้นกลางคือ การรักษาศีล ซึ่งถ้าเป็นฆราวาสก็คือการรักษาศีล 5 นั่นเอง และบุญขั้นสูงก็คือการบำเพ็ญภาวนา และหนังสือ “การสร้างบุญบารมี” โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ก็ได้อธิบายไว้อย่างละเอียดเรื่องผลบุญ 3 ระดับนี้เช่นกัน
บุญ 3 ระดับ
ผมก็แปลกใจเหมือนกันว่า ทำไมการให้ทานจึงเป็นบุญที่น้อยกว่าการรักษาศีลและการภาวนา จึงพยายามพิจารณาจากความยากง่ายในการปฏิบัติ และผมก็คิดว่าเมื่ออะไรที่ง่ายๆ ก็อาจจะมีผลต่อผลบุญได้เช่นกัน (ผมคิดเอาเองนะครับ ถ้าคิดผิดๆ ก็ขออภัย) และผมก็สรุปเอาเองว่า การให้ทาน เป็นการทำบุญที่แสนง่ายดาย เพียงบริจาคสิ่งของหรือปัจจัย แก่ใครๆก็ตามก็เกิดผลบุญกุศลขึ้นแล้ว แม้ว่าจิตใจจะมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม
ส่วนการรักษาศีล ต้องบอกว่าการทำดีในเรื่องศีล ยากขึ้นอีกขั้นแน่ๆ ลองสังเกตุดูตัวท่านเองนะครับว่า แต่ละวันรักษาศีลได้ดีแค่ไหน เผลอตบยุง ฆ่ามดกันไปบ้างหรือเปล่า เผลอพูดเพ้อเจ้อโกหก กันบ้างมั้ย… หรือบางคนมีโอกาสได้ถือศีลก็เมื่อได้มีโอกาสทำบุญในโอกาส สำคัญๆทางศาสนาเท่านั้น โดยมีพระสงฆ์พานำในการสมาทานศีล แต่หลายๆคนก็เผลอผิดศีลตั้งแต่ นาทีแรกที่รับมาก็เยอะ ทำให้การรักษาศีลเป็นสิ่งที่ยากขึ้น เพราะเป็นการทำดีเข้าถึงระดับจิตใจ ซึ่งต้องคอยพิจารณาและระวังอยู่เสมอ เมื่อมีศีลก็เป็นการปิดความชั่วของเราเอง และมีผลบุญกุศลมาก
และสุดท้ายการภาวนา ในข้อนี้ ต้องบอกเลยว่ายากที่สุด แม้ไม่ใช้เงินก็ยังทำกันยาก ลองพิจารณาตัวท่านเองว่า 1 ปี เราเคยนั่งสมาธิกันหรือไม่ ผมเองก็นานๆครั้ง ความขี้เกียจ ความเมื่อยล้า มันมาคอยบั่นทอนอยู่เสมอ ตามหลักพระพุทธศานาได้กล่าวไวว่า การบำเพ็ญภาวนาเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา ซึ่งคำว่าปัญญาเป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความดีทั้งมวล จึงเป็นเหตุให้เป็นผลบุญสูงสุด
ในเรื่องการให้ทาน หลายๆท่านก็ทำกันมามากน้อยแต่กต่างกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ง่ายๆ แต่บทความนี้ผมจะมาแชร์ในเรื่องศีล 5 ที่เราหลายๆคน ก็มีความเข้าใจว่าคืออะไร แต่ก็มีน้อยที่จะปฏิบัติตนในศีลได้มั่นคง และที่สำคัญจากคำสอนทางพระพุทธศานาได้สอนว่าถ้าผิดศีล จะเป็นบ่อเกิดของความทุกข์ และถ้าเชื่อในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ทางศาสนาก็ได้บอกไว้ว่า มีโอกาสที่จะได้ไปสู่แดนอบายภูมิ และก็มีหลายๆคนมักมีคำถามว่าผิดศีลข้อไหนบาปหนักที่สุด หรืออันตรายที่สุด ผมเองก็ได้ไปลองหาข้อมูลตามคำสอนของครูบาอาจารย์ และจากหนังสือ “สุดยอดธรรมะ ฉบับ พินัยกรรม” ก็ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้เช่นกัน
ผิดศีลข้อไหนอันตรายและบาปที่สุด
– หลวงพ่อสด จันทสโร –
ถ้าเว้นสุราไม่ได้ตัวเดียว หมด ละลายหมด สุราเป็นตัวสำคัญ สุราเป็นเจ้าโขลง เป็นเจ้าหมู่ สุราบังคับได้ทุกข้อ
– หลวงปู่ขาว อนาลโย –
การกินเหล้าหรือของมึนเมา มันจะเป็นบุญพาคนให้ดีและพาไปสวรรค์และนิพพานได้อย่างไร นอกจากบาปหาบหามไฟนรกมาเผาตน
– พระภาสกร ภูริวฑฺฒโน –
ถ้าจะกล่าวเรื่องนรก การดื่มสุรา จะตกนรกขุมหนักที่สุด ในศีล 5 ข้อ คือ จะตกนรกขุมที่ 5 มหาโรรุวนรก การดื่มสุราทำให้ขาดสติ จนเกิดความประมาทและนำพาไปสู่ความเสื่อม และสามารถทำให้ศีลข้ออื่นๆ ขาดไปด้วย
เห็นด้วยจ้า รักษาศีลข้อ 5 ให้ดีแล้ว ศีลข้ออื่นจะตามมาเอง