วัดบรมพุทธาราม วัดสิงหาราม ย่านตลาดบ้านดินสอ ริมคลองฉะไกรน้อยในราชภัฏพระนครศรีอยุธยา… ตามรอยละครบุพเพสันนิวาส ณ ตลาดบ้านดินสอ… สวัสดีครับท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยวัดวาอาราม วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางเข้าไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เพื่อเที่ยวชมวัดโบราณซึ่งปัจจุบันเป็นวัดร้าง คือ วัดบรมพุทธารามและวัดสิงหาราม ตั้งอยู่ริมคลองฉะไกรน้อยซึ่งเป็นคลองโบราณใช้สัญจรในสมัยอยุธยา ปัจจุบันลำคลองถูกตัดขาดเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ยังคงให้ได้เห็นสภาพลำคลองภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
ภายในบริเวณริมคลองฉะไกรน้อยนี้ ได้ปรากฏชื่อในละครบุพเพสันนิวาส ที่กำลังโด่งดังช่วงต้นปี พ.ศ.2561 อีกด้วย โดยระบุว่าเป็นตำแหน่งของตลาดบ้านดินสอ เป็นย่านที่ขายสมุดและดินสอในสมัยอยุธยา โดยมีโบราณสถานยืนยันอีกจุดคือ สะพานบ้านดินสอที่ข้ามผ่านคลองฉะไกรน้อย ที่ได้รับการบูรณะแล้วให้ได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้
วัดแรก วัดบรมพุทธราราม
การเดินทาง สะดวกมากครับ จะขับรถเข้ามาในมหาวิทยาลัยเลยก็ได้ มีที่จอดมากมายเมื่อ เข้ามายังพื้นที่วัดบรมพุทธารามสภาพปัจจุบันมีต้นไม้ใหญ่ให้ได้ร่มเงาอยู่ครับ ทำให้ลบร้อนกันได้ จึงมีนักศึกษามานั่งอ่านหนังสือและทำกิจกรรมกันพอสมควรในบริเวณนี้
เจดีย์ทรงปรางค์หน้าพระอุโบสถจะมีอยู่ 2 องค์คู่กัน อีกองค์หนึ่งชำรุดทรุดโทรมเหลือเพียงส่วนฐาน
พระวิหาร วัดบรมพุทธารามจะตั้งอยู่ข้างพระเจดีย์หน้าอุโบสถ
วัดบรมพุทธาราม ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่พระเพทราชา (ช่วงเวลาครองราชย์ พ.ศ. 2231 – 2245)โปรดเกล้าให้สร้างขึ้น ณ บ้านป่าตองสถานที่พระองค์เคยตั้งบ้าเรือนเมื่อครั้งรับราชการอยู่ในกรมช้าง
วัดนี้พระเพทราชาโปรดเกล้าให้ช่างทำกระเบื้องเคลือบสีเหลืองมุงหลังคาอาคารภายในวัด จึงมีชื่อสามัยที่เรียกกันอีกชื่อว่า “วัดกระเบื้องเคลือบ” กล่าวกันว่าสมเด็จพระเพทราชาทรงได้รับแรงบันดาลใจจากกระเบื้องที่ใช้มุงหลังคาพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญมหาปราสาท ภายในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ที่เมืองลพบุรี จึงได้รับสั่งทำกระเบื้องเคลือบสีเดียวกันใช้มุงหลังคาวัดแห่งนี้
วัดที่สอง วัดสิงหาราม
เมื่อเดินข้ามคลองฉะไกรน้อยไปอีกฟากหนึ่ง เราจะเห็นโบราณสถานอีกแห่ง นั่นก็คือวัดสิงหาราม ซึ่งเป็นวัดที่สันนิษฐานการสร้างมาก่อนวัดบรมพุทธาราม อย่างน้อยในช่วงอยุธยาตอนกลาง
เจดีย์ทรงระฆังมีปรากฏในศิลปะอยุธยาแล้วอย่างน้อยตั้งแต่ พุทธศตวรรษที่ 20 ที่วัดมเหยงคณ์และได้รับความนิยมสืบต่อมาถึงสมัยอยุธยาตอนกลางที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ ส่วนวิหารส่วนหน้าต่างทำช่องแสงเป็นช่องลูกกรงเลียนแบบลูกกรงลูกมะหวดในศิลปะเขมร ซึ่งปรากฏมาแล้วตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้นที่วิหารหลวงวัดมหาธาตุ แต่ลักษณะอาคารได้รับการรื้อฟื้นนำมาใช้อีกครั้งอย่างแพร่หลายในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
ดังนั้นวัดสิงหารามน่าจะเป็นวัดที่สร้างมาแล้วอย่างน้อยในสมัยอยุธยาตอนกลางก่อนวัดบรมพุทธาราม และมีการบูรณะครั้งหนึ่งในสมัยอยุธยาตอนปลาย โดยพบหลักฐานมีการนำเอาเศษเครื่องถ้วยจีนมาประดับร่วมกับลายปูนปั้นบริเวณซุ้มประตูทางด้านหน้าของวิหาร ซึ่งเป็นลักษณะงานศิลปะในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ห่างจากวิหารราวๆ 20 เมตร จะมีวิหารแกลบตั้วอยู่โดดเดี่ยว
ตามรอยละครบุพเพสันนิวาส
ก่อนจบการนำเที่ยว เรามาตามรอยละครกันบ้าง จากละครบุพเพสันนิวาส ตามเนื้อเรื่องจะเป็นยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ซึ่งอยู่ในช่วงอยุธยาตอนกลาง ดังนั้น บริเวณตลาดดินสอ จึงยังไม่มีวัดบรมพุทธาราม เพราะวัดบรมพุทธารามถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเพทราชาในสมัยอยุธยาตอนปลาย แต่ย่านตลาดบ้านดินสอ มีวัดสิงหารามอยู่ก่อนแล้ว เพราะรูปแบบศิลปะการสร้างเกิดขึ้นอย่างน้อยในสมัยอยุธยาตอนกลางถึงตอนต้น
อีกจุดหนึ่งในวัดบรมพุทธารามคือ ต้นมะขามยักษ์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ ในการประกวดไม้ใหญ่ในปี พ.ศ.2541 โดยกรมป่าไม้ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่เก่าแก่อย่างมาก แต่ได้โค่นลงจากฝนตกหนักจนดินอ่อนตัว เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2559
ปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูสภาพจากกรมป่าไม้ ให้สามารถมีชีวิตอยู่ให้ได้ต่อไป…
สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณการติดตามเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยว แล้วพบกันใหม่ในโอกาสต่อไปครับ
ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด
ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108
หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory
แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด
เว็บไซต์หลัก ที่ www.faiththaistory.com
****************************************
ผู้สนับสนุน
สั่งซื้อนิยายอิงประวัติศาสตร์ บุพเพสันนิวาส ทางออนไลน์ได้ที่ลิ้งก์ด้านล่างนี้