admin

ผมมีความรักในการเดินทางท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และได้เขียนบล็อกแห่งนี้ขึ้นมา เพื่อแบ่งปันเรื่องราวให้กับเพื่อนๆทุกคนที่สนใจในสิ่งคล้ายๆกัน / ยุทธนา ผิวขม (แอดมินลุงตั้ม)

Author Archives: admin

ภารกิจเที่ยววัดร้างในเมืองกรุง ภาค 1 – วัดน้อยทองอยู่ วัดภุมรินทร์ราชปักษี วัดสวนสวรรค์

https://youtu.be/4L_n9PUnLrk ภารกิจเที่ยววัดร้างในเมืองกรุง ภาค 1 – วัดน้อยทองอยู่ วัดภุมรินทร์ราชปักษี วัดสวนสวรรค์… ท่องเที่ยววัดร้างในบางกอก… สวัสดีครับท่านผู้ติดตามและชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธาทุกท่าน บทความนี้เป็นบทความพิเศษที่ผมจะพาทุกท่านเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงตามหาวัดร้างที่แอบซ่อนอยู่ โดยผมได้ใช้หนังสือวัดร้างในบางกอก โดย ผศ.ดร.ประภัสสร์ ชูวิเชียร ประกอบการเดินทาง รายละเอียดในหนังสือเล่มนี้ มีเรื่องราวเกี่ยวกับวัดร้างที่น่าสนใจมากมาย ที่น้อยคนนักจะทราบถึงเรื่องราวนี้ ทำให้เกิดกระแสความสนใจขึ้นในกลุ่มนักเดินทางที่ชอบเรื่องราวการตามรอยประวัติศาสตร์ เนื่องด้วยจำนวนวัดร้างมีมาก แต่ผมมีเวลาเดินทางเพียงแค่ 1 วัน จึงไปได้แค่บางส่วนเท่านั้น จึงให้บทความนี้เป็นภาคที่ 1 และถ้ามีโอกาสเดินทางเพิ่มเติมจะเป็นบทความภาคต่อๆไปครับ ทั้งนี้บทความการเดินทางครั้งนี้ ไม่ใช่บทความทางวิชาการ เพียงแต่จะพาทุกท่านเดินทางท่องเที่ยวให้รู้ถึงเรื่องราวที่หลายท่านอาจไม่เคยรู้มาก่อน… ผมวางแผนเดินทางเข้าเมืองกรุงในช่วงปลายเดือนมกราคม พ.ศ.2561 มีเพื่อนเดินทางด้วยกันรวม 3 คน โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ… และแน่นนอน ผมไม่คุ้นเคยเส้นทางในเมืองหลวง จึงต้องอาศัยซ้อนท้ายผู้ชำนาญทางไปตลอดทริปนี้ ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่ทีมเดินทางมีความชำนาญเส้นทางในกรุงเทพฯเป็นอย่างดี เพราะมีประสบการณ์การเดินทางตามรอยเส้นทางด้านประวัติศาสตร์มามากพอสมควร สามารถสั่งซื้อหนังสือที่ ซีเอ็ดบุ๊คออนไลน์ ที่ลิ้งก์นี้ >> วัดร้างในบางกอก จุดนัดพบที่สะดวกสำหรับผมก็คือสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งเรานัดกันที่สถานีลาดพร้าวเวลาเที่ยงตรง… เป็นเวลาทีสายเกินไปหน่อยเพราะทีมเดินทางติดภารกิจในช่วงเช้า แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามนัด เมื่อถึงเวลาเที่ยง จึงได้ออกแว๊นตามที่วางแผนการเดินทางไว้ โดยมีแผนวัดร้าง 3 วัด และวัดทั่วไปอีก 3 วัด โดยเรียงลำดับการเดินทางดังนี้ วัดสระเกศ (ภูเขาทอง), วัดน้อยทองอยู่(ร้าง), วัดภุมรินทร์ราชปักษี(ร้าง), วัดสวนสวรรค์(ร้าง), วัดช่องนนทรี, วัดมหาบุศย์(แม่นาคพระโขนง) และวางแผนจะไปที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กองทัพต้องเดินด้วยท้อง จุดแรกต้องเติมพลัง… Read More »

ชมคัมภีร์โบราณทางพระพุทธศาสนาเก่าแก่ที่สุดในโลก วัดสระเกศ

https://youtu.be/x89ufbKoJ-M ชมคัมภีร์โบราณทางพระพุทธศาสนาเก่าแก่ที่สุดในโลก วัดสระเกศ… สวัสดีครับท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธาทุกท่าน ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดสระเกศ กรุงเทพมหานคร เพื่อไปชมพระคัมภีร์โบราณทางพระพุทธศาสนา ที่ประเมินอายุว่าเก่าแก่ที่สุดในโลก พระคัมภีร์โบราณนี้ เป็นพระคัมภีร์ที่ได้ลักลอบออกมาจากหุบเขาบามิยัน ประเทศอัฟกานิสถาน ก่อนที่จะถูกทำลายโดยกลุ่มตาลีบัน กลุ่มตาลีบันมีความมุ่งหมายที่จะทำลายศาสนสถานต่างศาสนาในประเทศ อีกทั้งได้ทำลายพระพุทธรูปแห่งบามิยัน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสลักหน้าผาหินเก่าแก่ที่สุดในโลกและขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2544 แต่ได้มีพระคัมภีร์โบราณทางพระพุทธศาสนาบางส่วนถูกลักลอบออกมาได้ พระคัมภีร์โบราณทางพระพุทธศาสนาเริ่มเปิดเผยเมื่อครั้ง ดร.เจนส์ บราวิก ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดี ประเทศนอร์เวย์ ได้เข้าร่วมประชุมทางวิชาการที่เมืองไลเดน ประเทศเนเธอแลนด์ และมีผู้เข้าร่วมประชุมคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า แซม ฟ็อกก์ พ่อค้าของเก่าแห่งกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้เอกสารโบราณที่ลักลอบออกจากอัฟกานิสถานและขายให้แก่ ดร.มาร์ติน สเคอเยน ผู้อำนวยการและเจ้าของสถาบันอนุรักษ์สเคอเยน ซึ่งเป็นสถาบันที่เก็บเอกสารโบราณอันดับต้นๆของโลก เมื่อ ดร.เจนส์ บราวิก ทราบดังนั้น จึงได้ติดต่อ ดร.มาร์ติน สเคอเยนเพื่อขอศึกษาพระคัมภีร์โบราณดังกล่าว และพบว่าเป็นคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาที่เก่าแก่ จารึกในช่วง พ.ศ.540 – 940 ที่มีรายละเอียดกล่าวถึง พระสูตร พระวินัย และพระธรรมทางพระพุทธศาสนา วัสดุที่จารึกมีทั้งเปลือกไม้ ใบลาน หนังสัตว์และแผ่นโลหะทองแดง เป็นมรดกล้ำค้ายิ่งของโลก จารึกทั้งหมด เมื่อมีการแปลโดยผู้เชี่ยวชาญทางโบราณคดี พบว่าตรงตามประไตรปิฎก เช่น พระสูตรจังกีสูตร และบางข้อมูลไม่เคยรู้มาก่อน และเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 ทางรัฐบาลประเทศนอร์เวย์ ได้ส่งมอบพระคัมภีร์โบราณ 3 ชิ้นที่จารึกบนเปลือกไม้ให้แก่ประเทศไทย โดยมี… Read More »

วัดสักกะวัน (ภูกุ้มข้าว) หลวงปู่หาผู้พบกระดูกไดโนเสาร์จากนิมิต

https://youtu.be/C_dZs5c0PU8 วัดสักกะวัน (ภูกุ้มข้าว) กาฬสินธุ์ หลวงปู่หา (หลวงปู่ไดโนเสาร์) ผู้พบกระดูกไดโนเสาร์จากนิมิต… สวัสดีครับท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธา ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดสักกะวัน (ภูกุ้มข้าว) เพื่อไปกราบหลวงปู่หา สุภโร ที่ชาวบ้านต่างขนานท่านว่าหลวงปู่ไดโนเสาร์ เนื่องจากมีเรื่องราวเล่าขานว่าท่านเป็นผู้นิมิตเห็นไดโนเสาร์จนเกิดการค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ในเวลาต่อมา การเดินทางของผม เดินทางเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2561 ถือเป็นวัดแรกแห่งปีของแอดมินครับ จากเดิมที่เดินทางท่องเที่ยวตามรอยสถานที่ ที่มีเรื่องราวหลักร้อยหลักพันปี แต่ครั้งนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางตามรอยหลักล้านปีเลยครับ การเดินทางจะเห็นภูกุ้มข้าวมาแต่ไกล จนกระทั่งมาถึงวัด… วัดมีลานกว้างสำหรับจอดรถ และเบื้องหน้าที่เห็นชักเจนคือพระอุโบสถหลังเล็กๆสีทองสวยงาม เวลาที่ผมเดินทางมาถึงวัดเป็นช่วงเวลาใกล้เพล ซึ่งหลวงปู่หา (หลวงปู่ไดโนเสาร์) จะออกรับญาติโยม ผมจึงเข้าไปกราบท่านก่อนที่จะชมสถานที่ ผมได้ถามโยมอุปัฏฐากหลวงปู่หา ทราบว่าสามารถเข้ามากราบหลวงปู่ได้ช่วงเวลาเพล และหลังฉันภัตตาหารได้ทุกวัน ทั้งนี้ให้ติดต่อสอบถามผู้อุปัฏฐากที่วัดครับ รูปที่ผมถ่ายหลวงปู่หาดูมืดเพราะถ่ายย้อนแสง ขออภัยท่านผู้อ่านด้วยครับ ผมได้เข้าไปกราบหลวงปู่หาและถวายปัจจัยเพื่อบำรุงพระศาสนา จากนั้นหลวงปู่หาท่านได้มอบซีดีธรรมะ วัตถุมงคลและฉีดน้ำมนต์ให้ด้วยครับ จากนั้นได้เข้าไปกราบขอพรพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความเก่าแก่ได้รับความศรัทธาคู่วัดสักกะวันมายาวนาน คือหลวงพ่อบันดาลฤทธิผล หลวงพ่อบันดาลฤทธิผล หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อบ้านด่าน เป็นพระพุทธรูปโบราณปางมารวิชัย สมันทวาราวดี เดิมประดิษฐานอยู่ริมบึงโดน อำเภอสหัสขันธ์ สมัยนั้นยังเป็นป่าไม่มีหมู่บ้าน พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นนี้ได้ประดิษฐานอยู่ที่ริมบึงโดนเป็นเวลายาวนาน จนถึงช่วงเวลาการสร้างเขื่อนลำปาวในปี พ.ศ. 2510 จึงได้มีการปิดกั้นเขื่อนลำปาว ทำให้น้ำเอ่อขึ้นไปท่วมบริเวณที่หลวงพ่อประดิษฐานอยู่ พระญาณวิสาลเถรหรือหลวงปู่หา สุภโร ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ และนายอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมด้วยพ่อค้าประชาชนชาวอำเภอสหัสขันธ์พากันไปนิมนต์หลวงพ่อไปประดิษฐานที่วัดสักกะวัน เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2510 และเมื่อก่อตั้งอำเภอสหัสขันธ์ ประชาชนแถวนั้นก็พากันกราบไหว้บูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียนมีลายแทงแต่เขียนเป็นหนังสือขอม (มีเนื้อความว่าหลวงพ่อบันดาล) ตัวหนังสือขอมไม่มีไม้เอกไม้โท… Read More »

ตามรอยหลวงพ่อเงิน ชมปืนใหญ่โบราณ วัดกกสับใน ฉะเชิงเทรา

https://youtu.be/XKFeGPtMU-M วัดกกสับใน ฉะเชิงเทรา หลวงพ่อเงิน พระเกจิดังในท้องถิ่น… สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางในบรรยากาศที่เย็นสบายๆ ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2560 ไปเที่ยววัดในท้องถิ่น ซึ่งมีข่าวว่าขุดค้นพบปืนใหญ่โบราณและวัตถุโบราณสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น และมีเรื่องราวของพระเกจิดังในอดีตคือ หลวงพ่อเงิน จันทสโร วัดกกสับใน อยู่ในเขตตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นวัดในท้องถิ่น จึงมีความเงียบสงบมาก วัดจะมีความคึกคักขึ้นมาเมื่อมีงานบุญตามประเพณี ด้านหน้าวัดจะติดกับคลองท่าลาด  มีศาลาริมน้ำ ให้ได้นั่งพักผ่อน คลองท่าลาดเป็นคลองสำคัญในท้องถิ่นนี้ พาดผ่านสถานที่สำคัญและมีเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมายที่น่าค้นหา บริเวณศาลาทางเดินริมน้ำคลองท่าลาด ผมเห็นมีเศษวัตถุที่นำขึ้นมากองไว้ ซึ่งน่าจะงมขึ้นมาจากคลองท่าลาดหน้าวัดนั่นเอง บริเวณวัด มีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก มีพื้นที่กุฏิสงฆ์ มณฑปหลวงพ่อเงิน(ปิดอยู่ ผมจึงไม่ได้เข้าไป) ศาลาการเปรียญ พระอุโบสถ เป็นต้น เมื่อผมเดินดูพื้นที่ทั่ววัดแล้ว จึงเข้าไปชมวัตถุโบราณที่ขุดพบจากคลองท่าลาด วัตถุโบราณทั้งหมด ทางกรมศิลปากรที่ ๕ ปราจีนบุรีได้เข้ามาทำการตรวจสอบลงทะเบียน จากการสันนิษฐานอายุอยู่ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๔-๖ ประวัติวัดกกสับใน (พอสังเขป) ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม ระบุว่า วัดกกสับใน ก่อตั้งเมื่อ 13 มีนาคม พ.ศ.2465 โดยมีพระพนมสารนรินทร์ (หุ่น พนมยันต์) เป็นผู้นำในการสร้าง โดยนายกลี่ นางสาย จากอำเภอพนมสารคามเป็นผู้บริจาคที่ดินให้เมื่อ พ.ศ.2462 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2476 เขตวิสุงคามสีมากว้าง… Read More »

วัดหงส์ ค่ายโพธิ์สามต้นของสุกี้นายกองแม่ทัพพม่า เมื่อครั้งเสียกรุงศรี

https://youtu.be/lIX5bLf19LQ วัดหงส์ ค่ายโพธิ์สามต้นของสุกี้นายกองแม่ทัพพม่า เมื่อครั้งเสียกรุงศรี… สวัสดีครับ วันนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศเดินทางกันบ้าง ครั้งนี้ผมจะพาเดินทางไปชมบรรยากาศให้ระลึกถึงเรื่องราวเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 โดยผมจะเดินทางไปยังวัดหงส์ ตำบลโพธิ์สามต้น อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีเรื่องราวบันทึกว่า เป็นส่วนหนึ่งของค่ายโพธิ์สามต้น ที่เป็นค่ายของสุกี้นายกองแม่ทัพพม่า ในช่วงเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2310 วันเดินทางตรงกับวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2560 อากาศมีอุณหภูมิที่ต่ำลง เหมาะแก่การออกเดินทางท่องเที่ยวอย่างยิ่ง และเพื่อไม่ให้เสียโอกาสเพราะเมืองไทยปัจจุบันอากาศเย็นหาได้ยากถ้าไม่ใช่แถบชนบทจริงๆ การเดินทางครั้งนี้แอดมินเป็นสายแว๊นซ์ เพราะได้สัมผัสอากาศอย่างเต็มอิ่ม..เมื่อมาถึงพบว่าพื้นที่วัดโดยรวมสวยงามตามสภาพบรรยากาศท้องถิ่น มีหนองน้ำโดยรอบ สัมผัสกับอากาศเย็นๆ ช่างสบายใจจริงๆ กรมศิลปากรได้เข้าทำการบูรณะ พบเพียงซากฐานอาคารและเจดีย์เท่านั้น จากประวัติสถานที่ทางกรมศิลปากรได้ระบุว่า วัดหงส์เป็นวัดร้างแห่งหนึ่งในตำบลโพธิ์สามต้น อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากประวัติการสร้างยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนกลาง ต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของค่ายโพธิ์สามต้น ที่เป็นค่ายทัพของสุกี้นายกองแม่ทัพพม่า อีกทั้งมีการรื้ออิฐบางส่วนนำไปสร้างป้อมค่ายในช่วงสงครามเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 พ.ศ.2310 และต่อมาได้ถูกทิ้งร้างในสมัยรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน สำหรับวัดหงส์แห่งนี้ ไม่มีอะไรมากครับ แต่ที่ชอบมากคือบรรยากาศท่องเที่ยวดีๆ ที่นานๆครั้งจะได้สัมผัสอากาศเย็นๆ เพราะปกติแอดมินเดินทางทีไร เหนื่อยเพราะอากาศร้อน แอดมินนั่งพักชมบรรยากาศ ฟังเสียงธรรมชาติสักพักจึงได้เดินทางไปยังสถานที่อื่นๆต่อไป ขอขอบพระคุณการติตาม แล้วพบกันใหม่ในโอกาสต่อไป สวัสดีครับ ช่องทางการติดตามเรื่องราว ภารกิจเที่ยววัด ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจได้ที่ www.facebook.com/faith108 หรือติดตามช่อง YouTube Channel ได้ที่ www.youtube.com/FaithThaiStory แบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยววัดที่กลุ่ม รวมพลคนชอบเที่ยววัด… Read More »

วัดแสนภุมราวาส (กกสับนอก) ฉะเชิงเทรา หลวงพ่อทอง เกจิดังในท้องถิ่น

https://youtu.be/nv-ueSYA1cI วัดแสนภุมราวาส (กกสับนอก) เมืองแปดริ้วฉะเชิงเทรา หลวงพ่อทอง ภุมมปัญโญ… สวัสดีครับ ท่านผู้ติดตามเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยความศรัทธา วันนี้ผมได้มีโอกาสเดินทางไปยังเมืองแปดริ้ว หรือฉะเชิงเทรา ผ่านไปยัง อ.ราชสาส์น จึงแวะท่องเที่ยววัดในท้องถิ่นดูบ้าง ซึ่งนานๆครั้งจะได้แวะท่องเที่ยวแบบนี้ โดยที่แทบไม่มีข้อมูลเรื่องราว ตั้งใจว่าจะไปหาข้อมูลข้างหน้า ผมเดินทางผ่านมายัง อ.บางคล้ามุ่งตรงสู่ อ.ราชสาส์น และได้เห็นซุ้มประตูวัดกกสับนอกข้างถนน จึงได้เลี้ยวรถเข้าไปเยี่ยมชม พื้นที่ลานวัดค่อนข้างกว้างขวางสามารถเลือกจอดได้ตามสะดวก ทั้งนี้สามารถหาที่จอดตามร่มไม้ก็ได้นะครับ เพราะยังมีร่มไม้ให้เลือกจอดอีกเยอะ เมื่อผมจอดรถเป็นที่เรียบร้อย จึงได้พบกับบรรยากาศที่เงียบสงบด้วยเพราะเป็นวัดในท้องถิ่น ที่จะคึกคักก็ต้องเมื่อมีงานบุญทางพระพุทธศาสนาหรือพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น …เรื่องของนักท่องเที่ยวคงไม่มีใครจะแวะชม การเดินทางมาที่นี่ ผมพอจะทราบเรื่องราวในอดีตว่า มีพระเกจิท้องถิ่นได้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมา นั่นก็คือหลวงพ่อทอง ภุมมปัญโญ ท่านเป็นพระที่ชาวบ้านแถบนี้ให้ความเคารพศรัทธาอย่างมาก อีกทั้งตามประวัติของวัดแห่งนี้ หลวงพ่อทองได้ริเริ่มสร้างขึ้นมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2460 ชาวบ้านกกสับนอก จึงร่วมกันสร้างรูปหล่อหลวงพ่อทองเพื่อสักการะ ระลึกถึงคุณหลวงพ่อ มาตราบจนถึงทุกวันนี้ ภายในวิหารหลวงพ่อทอง ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อทองและหลวงปู่เจิม… จากการสอบถามชาวบ้านบอกว่าหลวงพ่อทองเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ส่วนหลวงปู่เจิมเป็นพระที่เคยจำพรรษาที่วัดกกสับนอกแห่งนี้ ต่อไปมาได้ย้ายไปจำพรรษาที่จังหวัดนครปฐม แต่ชาวบ้านมีความศรัทธาหลวงปู่เจิม จึงได้สร้างรูปหล่อท่านเพื่อกราบสักการะด้วยเช่นกัน วัดนี้แต่เดิม ชาวบ้านเรียกชื่อว่า “วัดหนองคันบวย” เพราะที่ตั้งวัดอยู่ใกล้กับหนองนํ้าที่มีลักษณะคล้ายกระบวยตักนํ้า ครั้นภายหลังชาวบ้านไล่ต้อนควายใช้หนองนํ้านี้เป็นที่อาบดื่มกิน จึงเรียกชื่อหนองนํ้านี้ใหม่ว่า “หนองไล่ควาย” พอนนานไปก็เพี้ยนเสียงเป็น “หนองลาดควาย” มาจนทุกวันนี้ วันที่ผมเดินทาง เป็นช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ.2560 อากาศเย็นลง มีลมพัด บรรยากาศสบายๆ …เลยรู้สึกเสียดายที่ศาลาตรงนี้ใกล้พัง เพราะเป็นจุดนั่งพักผ่อนที่ดีมากเลยทีเดียว ตรงข้าวก็เป็นร่มโพธิ์ใหญ่ดูร่มรื่น สามารถชมคลิปบรรยากาศได้ครับ ผมติดไวให้ชมแล้วด้านบนบทความนี้… Read More »