admin

ผมมีความรักในการเดินทางท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และได้เขียนบล็อกแห่งนี้ขึ้นมา เพื่อแบ่งปันเรื่องราวให้กับเพื่อนๆทุกคนที่สนใจในสิ่งคล้ายๆกัน / ยุทธนา ผิวขม (แอดมินลุงตั้ม)

Author Archives: admin

วัดหนองโพ หลวงพ่อเดิมเกจิดังในอดีตนครสวรรค์

https://youtu.be/KEU1aiksnmY กราบหลวงพ่อเดิม พุทธสโร พระเกจิดังวัดหนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์… สวัสดีครับท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมทุกท่าน โอกาสนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปกราบพระเกจิชื่อดังในอดีตแห่งวัดหนองโพ นครสวรรค์ ซึ่งหลายท่านคงรู้จักกันดีในนาม “หลวงพ่อเดิม พุทธสโร” ท่านเป็นพระเจิชื่อดังในอดีตและมีลูกศิษย์เคารพนับถือท่านมากมายทั่วประเทศ แม้ว่าจะมรณภาพไปตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2494 แต่ความดีของท่านยังตราตรึงจิตใจของเหล่าสาธุชนไม่เสื่อมคลาย ครูบาอาจารย์ที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเดิมที่หลายคนรู้จัก คือ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน สิงห์บุรี การเดินทางไปวัดหนองโพ ถือว่ามีความสะดวกมากครับเพราะใช้เส้นทางหลักสายเอเชียจนถึงแยกหางน้ำสาครแล้วเลี้ยวขวาไปอีกราว 10 กิโลเมตรเท่านั้น กล่าวกันว่า วัดหนองโพเดิมเป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยอยุธยา ได้ถูกปล่อยทิ้งร้าง มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ 7 กิ่งก้านสาขา ต่อมาชาวบ้านได้ช่วยกันบูรณะขึ้นและนิมนต์หลวงพ่อรอดเป็นเจ้าอาวาส  จนกระทั่งถึงสมัยหลวงพ่อเดิม เป็นเจ้าอาวาส(พ.ศ.2435 – 2494) วัดหนองโพยิ่งมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นลำดับด้วยบารมีของท่าน เดิมนั้นวัดหนองโพมีชื่อว่า “วัดสมโภชน์โพธิ์กระจาย” ต่อมาหลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์เหลือง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดสมโภชน์โพธิ์เย็น”  จนกระทั่งปี พ.ศ. 2457 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จตรวจการคณะสงฆ์ในมณฑลฝ่ายเหนือมาถึงนครสวรรค์ ทรงพิจารณาชื่อวัดว่าควรสอดคล้องกับชื่อหมู่บ้าน เพื่อให้จดจำง่าย จึงทรงเปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดหนองโพ” และเมื่อปี พ.ศ.2458 วัดหนองโพจึงได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ผมเดินทางไปวัดหนองโพ วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2562 บรรยากาศเปลี่ยนแปลงไปมาก มีการจัดสรรพื้นที่จอดรถกว้างขวางขึ้น รวมถึงก่อตั้งพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเดิมให้เข้าชม ซึ่งถือว่าจัดไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว… Read More »

วัดสี่เหลี่ยม วัดร้างริมถนนก่อนเข้าเมืองอยุธยา

https://youtu.be/wASinYPWf0M วัดสี่เหลี่ยม วัดร้างข้างถนนก่อนเข้าเมืองอยุธยากับเจดีย์ทรงแปลกตาที่หลายคนไม่เคยรู้… สวัสดีครับท่านผู้ติดตามและรักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยอดีตทุกท่าน วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางเข้าสู่เมืองพระนครศรีอยุธยา ก่อนที่จะเข้าเมือง เราจะสังเกตเห็นเจดีย์ร้างข้างถนนก่อนถึงวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม หลายท่านคุ้นตากันเป็นประจำ ด้วยความคุ้นชินอาจทำให้ไม่ได้สนใจถึงวัดร้างแห่งนี้ จากแผนที่วัดและโบราณสถานพระนครศรีอยุธยา ได้ระบุในแผนที่ว่า ตำแหน่งตรงนี้คือ “วัดสี่เหลี่ยม” มีความโดดเด่นขององค์เจดีย์ รูปทรงที่ไม่ค่อยได้เห็นมากนักในอยุธยา ผมจึงได้เดินทางไปพร้อมกับ ผศ.ดร.ฉันทัส เพียรธรรม เพื่อลงพื้นที่นำข้อมูลสันนิษฐานมาแบ่งปันความรู้เพิ่มเติมให้กับท่านผู้ติดตามครับ Loading… ท่านที่สนใจไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก สามารถจอดรถไว้ริมทางแล้วเดินเข้าไปชมกันได้ครับ นอกจากองค์เจดีย์ที่หลงเหลือ เราจะได้พบกับซากองค์พระพุทธรูปหินทรายข้างกับองค์เจดีย์นี้ ซึ่งเหลือเพียงส่วนลำตัว ซากพระพุทธรูปมีองค์ค่อนข้างใหญ่ มีรูแกนสำหรับใส่สลักพระเศียร ผศ.ดร.ฉันทัส เพียรธรรม ได้ให้ข้อสันนิษฐานจากรูปแบบศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมไว้อย่างน่าสนใจ เพราะรูปแบบเจดีย์เช่นนี้ค่อนข้างแปลกตา ไม่ได้พบทั่วไปในอยุธยา ซึ่งมีรูปแบบคล้ายกับเจดีย์แบบชาวพยูในเมืองมอญ (เจดีย์แบบลอมฟาง) จากรูปแบบเจดีย์ในประเทศพม่า จึงมีลักษณะคล้ายกับเจดีย์ที่วัดสี่เหลี่ยมแห่งนี้ องค์ประกอบสำคัญของเจดีย์แบบพยู(ลอมฟาง) ประกอบไปด้วย ฐานสองชั้นบนผังสี่เหลี่ยม มีลวดบัวกลม(บัวลูกแก้ว) คาดกลางทั้งสองชั้น ตัวองค์ระฆังลักษณะแบบลอมฟาง(คล้ายฟางกองพูนขั้น) เหนือองค์ระฆังเป็นก้านฉัตร จากรูปแบบเจดีย์จึงสันนิษฐานได้ว่า เจดีย์นี้อาจจะสร้างในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๒๒ ตรงกับสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นไป เพราะช่วงนั้นมีการกวาดต้อนชาวมอญเข้ามายังกรุงศรีอยุธยา ซึ่งอาจจะมีเชื้อสายชาวพยูในรัฐมอญ และมีการนำรูปแบบวัฒนธรรมของตนเองมาสร้างเจดีย์ในรูปแบบของตนเอง และลวดบัวลูกแก้วที่คาดตรงกลางฐานเจดีย์ทั้งสองชั้น จะพบมากในรูปแบบเจดีย์ในพุทธศตวรรษที่ ๒๒ เช่นกัน จึงเป็นรูปแบบเจดีย์ที่ไม่ค่อยได้เห็นกันนักในอยุธยา และหลายท่านอาจจะไม่ได้สังเกตแม้จะมองเห็นผ่านตาอยู่เป็นประจำ จากข้อมูลนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการศึกษาเพิ่มเติมของท่านที่รักการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยอดีตและวัฒนธรรมต่อไปนะครับ ขอขอบคุณการติดตาม พบกันใหม่ในบทความต่อไปครับ…แอดมินตั้ม ช่องทางการติดตาม ติดตามเรื่องราวผ่าน Facebook เพจภารกิจเที่ยววัด ได้ที่ www.facebook.com/faith108 หรือติดตามช่อง YouTube Channel FaithThaiStory… Read More »

วัดเขาดิน ปริศนาลายแทงยาอมตะ วัดเจ้าฟ้าในนิราศสุนทรภู่

https://youtu.be/ulaebXs6ARo วัดเขาดิน อยุธยากับปริศนายาอมตะ ในนิราศวัดเจ้าฟ้าของสุนทรภู่… เป็นปริศนาการค้นหาวัดเจ้าฟ้าอากาศนาถนรินทร์ว่าอยู่ที่ใดกันแน่ ซึ่งปัจจุบันก็ไม่อาจจะฟันธงลงไปได้ ปรากฏชื่ออยู่ในนิราศวัดเจ้าฟ้า ซึ่งแต่งขึ้นโดยสุนทรภู่ เป็นการบรรยายเรื่องราวการเดินทางไปวัดเจ้าฟ้า เพื่อค้นหาของวิเศษและยาอายุวัฒนะเพื่อการเป็นอมตะ ทำให้เรื่องราวนี้เป็นที่สนใจและเกิดการตามหาว่าวัดเจ้าฟ้าอยู่แห่งหนใดกันแน่ ผมผ่านมายังวัดเขาดิน ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา และสะดุดกับป้ายชื่อวัดเพราะมีวงเล็บว่า “วัดเจ้าฟ้าอากาศนาถนรินทร์” จึงเลี้ยวเข้าไปชมวัดนี้ พบฐานโบราณสถานขนาดใหญ่ที่ไม่เคยรู้มาก่อน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> นิราศวัดเจ้าฟ้า สรุปย่อจากนิราศวัดเจ้าฟ้า สุนทรภู่ขณะนั้นบวชอยู่ในเพศสมณะ ในช่วงพ.ศ.๒๓๗๕ สมัยรัชกาลที่ ๓ ได้ออกเดินทางตามลายแทงเพื่อไปหายาอายุวัฒนะเพื่อความเป็นอมตะ ซึ่งมีจุดหมายที่วัดเจ้าฟ้า การเดินทางออกจากกรุงเทพฯที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามในตอนเย็น ระหว่างทางบรรยายสถานที่ที่ผ่าน เช่น วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร, ปากง่ามบางกอกน้อย, บางขุนพรหม, บางจาก, บางพลู, บางอ้อ, บางซ่อน, บางแก้ว ฯลฯ จากนั้นเข้าสู่ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี บรรยายว่ามีชาวมอญตั้งบ้านเรือนอยู่จำนวนมาก จนไปถึงบ้านลาว เห็นชาวลาวเจาะหูยานใหญ่ต่างกับพวกลาวในกรุงเทพฯ ที่สวมซิ่นและสำอางมากกว่า ในคืนแรกพักที่วัดมอญเชิงรากซึ่งมีบรรยากาศน่ากลัว เมื่อรุ่งเช้าจึงเดินทางต่อ ไปถึงสามโคก จังหวัดปทุมธานี และบรรยายถึงที่มาของชื่อสามโคก เมื่อถึงวัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้บรรยายถึงหลวงพ่อโตที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่เคารพนับถือของชาวไทยและชาวจีน จากนั้นขึ้นฝั่งที่ศาลาท่าน้ำวัดโสมนัสเพื่อหาดอกไม้บูชาพระแล้วลงเรือเข้าสู่คลองสวนพลูซึ่งมีบรรยากาศร่มรื่นมาก แล้วไปค้างคืนที่วัดใหญ่ชัยมงคล ในคืนนั้นมีการทำพิธีจับแร่ปรอทโดยใช้น้ำผึ้ง สามารถจับแร่ปรอทได้ ๓ องค์ แต่พอรุ่งสางแร่ปรอททั้งสามก็หนีไป จึงได้เดินทางตามลายแทงไปหายาอายุวัฒนะที่วัดเจ้าฟ้าอากาศนาถนรินทร์ ยานั้นอยู่ในตุ่มฝังไว้ใต้ฐานพระในโบสถ์ เมื่อถึงวัดในยามค่ำคืน ได้เริ่มทำพิธีเพื่อขุดยาอายุวัฒนะ แต่ได้เกิดลมพัดแรง ฝนตกหนัก ไม่สามารถทำพิธีต่อไปได้… Read More »

วัดประดู่ทรงธรรม สำนักวิทยาคมกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอุทุมพรผนวชจำพรรษา ๒ ครั้ง

  https://youtu.be/fEby_gYZLew วัดประดู่ทรงธรรม สำนักวิทยาคมกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอุทุมพรผนวชจำพรรษา ๒ ครั้ง… สวัสดีครับ ท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดประดู่ทรงธรรม พระนครศรีอยุธยา วัดที่มีประวัติศาสตร์บันทึกว่า สมเด็จพระเจ้าอุทุมพรออกผนวชและมาจำพรรษาที่นี่ ๒ ครั้ง นอกจากนี้วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ร่ำเรียนวิทยาคมมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีหลวงพ่อรอดเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ในสมัยหลังมีอาจารย์จาบหรือเรียกกันว่า ก๋งจาบ เป็นฆราวาสที่มีความรู้ทางด้านกัมมัฏฐานได้มาเป็นครูสอนวิชาความรู้จนมีลูกศิษย์ที่เป็นพระเกจิชื่อดัง เช่น หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช, หลวงพ่อปลื้ม วัดสวนหงษ์ฯลฯ เป็นต้น และมีบันทึกว่า ก๋งจาบเคยไปช่วยชีวิตหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เมื่อครั้งถูกคุณไสย อีกด้วย การเดินทาง ถ้ามาจากกรุงเทพฯ เมื่อมาถึงเจดีย์วัดสามปลื้ม(เจดีย์กลางถนน) ให้เลี้ยวขวาจะผ่านวัดกุฎีดาว แล้วเลี้ยวซ้ายไปอีกราว 100 เมตรจะถึงวัดประดู่ทรงธรรม หน้าวัดมีลานจอดรถกว้างขวางครับ เมื่อเดินเข้าวัด จุดแรกจะเจอคูน้ำรอบวัด อาจารย์ น. ณ ปากน้ำเคยเดินทางมาสำรวจวัดแห่งนี้ เมื่อเดือนธนวาคม ปี พ.ศ.2509 กล่าวว่า พบอุโบสถตั้งอยู่บนเนินดินมีน้ำล้อมรอบ คูที่โอบรอบกำแพงแก้วนั้นดูกว้างขวางมาก จุดต่อไปจะเป็นส่วนของวิหาร สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ภายในมีภาพเขียนสี ซึ่งเขียนขึ้นปี พ.ศ.2405 ตรงกับรัชกาลที่ 4 เป็นเรื่องราวต่างๆ เช่น พิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้า, กระบวนช้าง, เทพชุมนุม, ไตรภูมิ, พุทธประวัติ, วิถีชาวบ้าน เป็นต้น จากข้อมูลของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม… Read More »

เที่ยววัดชมจิตรกรรม วัดสุวรรณดาราราม วัดหลวงประจำราชวงศ์จักรี

https://youtu.be/Wr5qqYzBUoE วัดสุวรรณดาราราม อยู่ในเกาะเมืองอยุธยาด้านทิศตะวันออกค่อนลงมาทางใต้ ใกล้ป้อมเพชร เป็นวัดเก่าแก่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย สถาปนาขึ้นโดยพระสุนทรอักษร(ทองดี) พระชนกในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ณ บริเวณอันเป็นนิวาสสถานเดิมของตระกูล มีชื่อเดิมว่า “วัดทอง” ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๒๘ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พร้อมด้วยสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาท พระอนุชาได้ทรงร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้และโปรดเกล้าฯ ถวายนามวัดใหม่ว่า “วัดสุวรรณดาราราม” และถือเป็นวัดประจำราชวงศ์จักรีอีกด้วย สิ่งก่อสร้างในวัดได้มีการสร้างเพิ่มเติมในสมัยรัชกาลที่ ๔ และปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ ๗ ในคราวสมโภชกรุงเทพฯ ครบ ๑๕๐ ปี ภาพจิตรกรรมฝาผนังในวิหาร ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหารเป็นภาพสีน้ำมันเกี่ยวกับพระราชพงศาวดารของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเขียนตามช่องว่างระหว่างประตูและหน้าต่างช่องละตอน ภาพจิตรกรรมเขียนโดยพระมหาเสวกตรีพระยาอนุศาสน์จิตรกร เขียนขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๔ โดยใช้เทคนิคจิตรกรรมทางตะวันตกเข้ามาประยุกต์ใช้ร่วมกับจิตรกรรมไทยและเชื่อว่าเป็นจิตรกรรมสีน้ำมันบนฝาผนังปูนแห่งแรกในประเทศไทย พระวิหารเป็นอาคารที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เพราะที่หน้าบันมีตราพระมหาพิชัยมงกุฎซึ่งเป็นตราประจำรัชกาล ลักษณะของตัวอาคารเลียนแบบจากพระอุโบสถ เพยงแต่ฐานพระวิหารไม่แอ่นท้องสำเภาเหมือนพระอุโบสถ ภายในพระวิหารมีภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เขียนขึ้นในคราวบูรณปฏิสังขรณ์สมัยรัชกาลที่ 7 จิตรกรผู้วาดคือ พระยาอนุศาสนจิตรกร(จันทร์ จิตรกร) ผนังที่ ๑ : เมื่อพ.ศ.๒๑๐๘ พระองค์ดำ(พระนเรศวร) พระชันษา ๑๓ ปี เล่นกระบี่กระบองกับมังสามเกียดต่อหน้าพระเจ้าหงสาวดี(บุเรงนอง) ณ เมืองหงสาวดี ผนังที่ ๒ : พระนเรศวรเสด็จมาจากพิษณุโลก ทรงทราบว่าพระยาจีนจันตุลงสำเภาหนีจากพระนคร เสด็จทรงเรือกราบไล่ตามไปถึงปากน้ำเจ้าพระยา แต่เรือสำเภาออกน้ำลึกได้ จึงตามไม่ทัน พ.ศ.๒๑๑๖ ผนังที่ ๓ : พระนเรศวรตีเมืองคัง เมื่อพ.ศ.๒๑๒๑… Read More »

วัดสว่างอารมณ์ กราบหลวงปู่กรอง ชมวิหารโบราณริมแม่น้ำลพบุรี

https://youtu.be/QnBxCDpT-1k วัดสว่างอารมณ์ ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา กราบหลวงปู่กรอง จันทโชติและชมวิหารโบราณ… สวัสดีครับ ท่านผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมทุกท่าน ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปยังวัดสว่างอารมณ์ อยุธยา ซึ่งมีบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น และยังมีโบราณสถานที่ทรงคุณค่าให้เที่ยวชม รวมถึงเรื่องราวของหลวงปู่กรอง พระเกจิในอดีตที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือมาจนถึงปัจจุบัน เพียงมาถึงเขตวัด ก็ได้เห็นถึงความเงียบสงบร่มรื่นและมีความสะอาดของสถานที่เป็นอย่างมาก และรู้สึกประทับใจตั้งแต่เข้ามาโดยทันที จุดแรกที่เห็นถึงความโดดเด่นคือพระวิหารโบราณ ซึ่งยังคงลวดลายปูนปั้นสวยงามให้ได้แลเห็นกันอยู่ จากข้อมูลของวัดได้กล่าวว่า วัดสว่างอารมณ์ได้สร้างราวปี พ.ศ.2315 และตัววิหารได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากร เมื่อปี พ.ศ.2465 https://youtu.be/1-SwSS8yImY   วัดสว่างอารมณ์ ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีโบราณสถานสวยงามเหมือนวัดหลวงในกรุงเทพฯ จึงอาจเป็นไปได้ว่ามีช่างหลวงมาดูแลการก่อสร้างที่วัดแห่งนี้ จากรูปแบบการก่อสร้างคล้ายกับที่วัดประยูรวงศาวาส กรุงเทพฯ ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๓ โดยจำลองแบบให้วิหารเปรียบเสมือนเขาพระสุเมรุ มีการสร้างเขาบริวารบริเวณมุมกำแพงแก้ว จากรูปแบบสถาปัตยกรรม จึงสันนิษฐานถึงอายุได้ว่า น่าจะอยู่ในช่วง รัชกาลที่ ๓ – ๕ ภายในวิหารประดิษฐานรอยพระพุทธบาทสี่รอยจำลอง ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2418 โดยพระอธิการกลิ่น (เจ้าอาวาสรูปที่ 3) ตรงกับรัชกาลที่ 5 วัดสว่างอารมณ์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สันนิษฐานสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2315 โดยตาปะขาวพูน และได้ปกครองวัดเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก โดยได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ.2320 มีเจ้าอาวาสรูปแรกคือหลวงพ่อพูน  นอกจากความสวยงามของโบราณสถาน ก็ยังมีเรื่องราวของหลวงปู่กรอง ซึ่งเป็นพระเกจิในอดีตที่มีชื่อเสียงได้รับความเคารพศรัทธาจากชาวบ้านจนถึงทุกวันนี้ โดยแต่ละปีจะมีการจัดงานบุญประจำปีเพื่อระลึกถึงหลวงปู่กรอง ทุกวันที่… Read More »